xs
xsm
sm
md
lg

CCP ลั่นปี 54 ล้างขาดทุนสะสมหมด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – CCP เล็งล้างขาดทุนสะสม200ล้านบาทในปี54 มั่นใจสต๊อกงานปีนี้แตะ2,000ล้านบาท เตรียมดันบริษัทลูก “สมาร์ทคอนกรีต ”เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต15-20% หลังภาครัฐเตรียมแผนลงทุนโครงการขนาดใหญ่ต่อเนื่อง

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP กล่าวว่า ในปี 54 บริษัทตั้งเป้ารายได้ เติบโต 15-20% จากปี 53 ใกล้เคียงเป้าหมายที่ 2,200 ล้านบาท และเป็นอัตราการเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างโดยรวมที่คาดว่าจะเติบโต 15% หลังจากราคาวัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ ประกอบกับ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาของบริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CCP มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นตามความต้องการใช้อิฐมวลเบาในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีมากขึ้น

สำหรับในปี 53 บริษัทมีรายได้เติบโตทั้งจาก CCP และบริษัทย่อย โดย CCP มีรายได้เติบโต 33% บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด รายได้เติบโต 30 % และบริษัท ชลบุรีกันยง จำกัด รายได้เติบโต 10%

ทั้งนี้ ผลประกอบการปี 53 ที่ผ่านมามีโอกาสพลิกกลับมาเป็นกำไรเป็นครั้งแรก หลังจากขาดทุนต่อเนื่องมา 5 ปี ตั้งแต่ปี 48-52 โดยในช่วงไตรมาส 3/53 ผลการดำเนินงานเริ่มกลับมาเป็นกำไร 6.14 ล้านบาท และคาดว่าช่วงไตรมาส 4/53 จะออกมาดีต่อเนื่องจากไตรมาส 3/53 เพราจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างหนี้ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด เข้ามา 110 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการทั้งปีพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ ดั้งนั้น บริษัทฯจะพยายามล้างขาดทุนสะสมที่ที่มีอยู่ประมาณ 200 ล้านบาทให้หมดในปี 54

สำหรับสต๊อกงาน(backlog)หรือ มูลค่างานในมือปี 54 นี้ มีคาดว่าจะมีโอกาสเกิน 2,000 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือน ต.ค.53 บริษัทฯมี มูลค่างานในมือ1,8000ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้จะมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ทั้งจากภาครัฐและเอกชนมากขึ้น เช่น โครงการรถไฟฟ้าของภาครัฐ ส่วนภาคเอกชนอย่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดีอยู่ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัด

นายชาคริต กล่าวว่า สำหรับแผนการลงทุนปี 54 ในเขตพื้นที่เดิมภาคตะวันออก ขณะนี้บริษัทฯยังไม่มีแผนลงทุนเพิ่มเติม แต่ถ้าหากบริษัทได้รับงานนอกเขตพื้นที่ภาคตะวันออกที่อยู่ระหว่างการเจรจางานกับโครงการอยู่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 1/54 นี้ ก็คงจะต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมประมาณ 30-45 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนนำบริษัทสมาร์ทคอนกรีต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภานใน 2-3 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นการรองรับการเติบโตในอนาคต โดยในปี 53 สมาร์ทคอนกรีตมียอดขาย 330 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากผู้ใช้รู้จักสินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หันมาใช้วัสดุอิฐมวลเบาในการก่อสร้างมากขึ้น ประกอบกับ บริษัทฯได้ขยายฐานลูกค้าไปต่างประเทศทั้งมาเลเซียและลาว ทำให้ปีนี้ก็น่าจะมีการเติบโตมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น