เอราวัณ กรุ๊ป ผนึก แอคคอร์ ลุยพัฒนาโรงแรม”ไอบิส” เพิ่มอีก 6 แห่งใน 5 ปี พร้อมปั้นโมเดลใหม่ ควบแบรนด์“เมอร์เคียว – ไอบิส” เข้าไว้ด้วยกันเป็นแห่งแรกในประเทศไทยประเดิมพื้นที่ย่านปทุมวัน หวัง กวาดลูกค้า ระดับกลางและระดับราคาประหยัด ใช้บริการ
นาย กษมา บุณยคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ได้ทำบันทึกความเข้าใจ(MOU) กับกลุ่มแอคคอร์ เพื่อพัฒนาเครือข่ายโรงแรม”ไอบิส”(ibis)ให้แก่กลุ่ม ดิ เอราวัณ กรุ๊ป อีก 6 แห่งในประเทศไทย ตามแผนการดำเนินธุรกิจ 5 ปี ของ บริษัท (2554-2558) ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง เพราะจากแผนเดิมที่วางไว้ว่าจะพัฒนาโรงแรมไอบิส 10 แห่ง โดยดำเนินการไปแล้ว 7 แห่ง
ทั้งนี้หนึ่งในโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้น จะเป็นการรวมแบรนด์ เมอร์เคียว – ไอบิส ไว้ในอาคารเดียวกัน ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศูนย์การค้ามาบุญครองและติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ โดยโครงการนี้จะใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 1 พันล้านบาท มีห้องพักทั้งหมด 380 ห้องแบ่งเป็นเมอร์เคียว 190 ห้องและไอบิส 190 ห้อง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในต้นเดือนก.พ. นี้ แล้วเสร็จและเปิดบริการในสิ้นปี 2555
“จากกลยุทธ์แผนธุรกิจ 5 ปี บริษัทจะมุ่งพัฒนาโครงการโรงแรมระดับ 3 ดาว โดยใช้แบรนด์ ไอบิส ของเครือแอคคอร์ ในการทำตลาด เจาะฐานลูกค้าในกลุ่มผู้ใช้บริการโรงแรมชั้นประหยัด และการริเริ่มของเอราวัณในการพัฒนาโรงแรมที่มี 2 แบรนด์ไว้ในอาคารเดียวกันเป็นครั้งแรกในประเทศไทย แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการผสานความเเข็งเเกร่งของดิเอราวัณ”
นายกษมา กล่าวว่า การรวมโรงแรมขนาดกลางและโรงแรมราคาประหยัดเข้าไว้ในที่แห่งเดียวกัน จะมีความ้ทาทายมาในเรื่องของการสร้างผลตอบแทนการลงทุนและการบริหารโรงแรม เนื่องจากราคาค่าห้องอยู่ในระดับที่ไม่สูงนัก ทั้งนี้ ดิ เอราวัณ จึงมีข้อได้เปรียบจากการขยายเครือข่ายโรงแรมหลายแห่งอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การลงทุนและการบริหารต้นทุนการดำเนินงานต่างๆต่ำ (Economy of Scale) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในธุรกิจนี้
นาย ไมเคิล ไอเซนเบิร์ก ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของแอคคอร์ เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า การที่ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป และ แอคคอร์ มองเห็นโอกาสทางการตลาดเหมือนกัน ในการขยายตลาดโรงแรมราคาประหยัด และ โรงแรมขนาดกลางภายใต้แบรนด์ เมอร์เคียว และ ไอบิส ในประเทศไทย สะท้อนเรื่องของการขยายตัวของนักท่องเที่ยว ในตลาดนี้ที่จะมีสูงขึ้น ขณะที่จุดเด่นสำคัญ คือ การให้บริการในระดับสากล ตามที่นักท่องเที่ยวสามารถคาดหวังได้จากเครือข่ายของแอคคอร์ที่มีอยู่ทั่วโลก โดยความร่วมมือ พัฒนาเครือข่ายโรงแรมชั้นประหยัดครั้งนี้ จะเป็นกลุ่มใหญ่สุดในประเทศไทย
นาย กษมา บุณยคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ได้ทำบันทึกความเข้าใจ(MOU) กับกลุ่มแอคคอร์ เพื่อพัฒนาเครือข่ายโรงแรม”ไอบิส”(ibis)ให้แก่กลุ่ม ดิ เอราวัณ กรุ๊ป อีก 6 แห่งในประเทศไทย ตามแผนการดำเนินธุรกิจ 5 ปี ของ บริษัท (2554-2558) ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง เพราะจากแผนเดิมที่วางไว้ว่าจะพัฒนาโรงแรมไอบิส 10 แห่ง โดยดำเนินการไปแล้ว 7 แห่ง
ทั้งนี้หนึ่งในโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้น จะเป็นการรวมแบรนด์ เมอร์เคียว – ไอบิส ไว้ในอาคารเดียวกัน ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศูนย์การค้ามาบุญครองและติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ โดยโครงการนี้จะใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 1 พันล้านบาท มีห้องพักทั้งหมด 380 ห้องแบ่งเป็นเมอร์เคียว 190 ห้องและไอบิส 190 ห้อง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในต้นเดือนก.พ. นี้ แล้วเสร็จและเปิดบริการในสิ้นปี 2555
“จากกลยุทธ์แผนธุรกิจ 5 ปี บริษัทจะมุ่งพัฒนาโครงการโรงแรมระดับ 3 ดาว โดยใช้แบรนด์ ไอบิส ของเครือแอคคอร์ ในการทำตลาด เจาะฐานลูกค้าในกลุ่มผู้ใช้บริการโรงแรมชั้นประหยัด และการริเริ่มของเอราวัณในการพัฒนาโรงแรมที่มี 2 แบรนด์ไว้ในอาคารเดียวกันเป็นครั้งแรกในประเทศไทย แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการผสานความเเข็งเเกร่งของดิเอราวัณ”
นายกษมา กล่าวว่า การรวมโรงแรมขนาดกลางและโรงแรมราคาประหยัดเข้าไว้ในที่แห่งเดียวกัน จะมีความ้ทาทายมาในเรื่องของการสร้างผลตอบแทนการลงทุนและการบริหารโรงแรม เนื่องจากราคาค่าห้องอยู่ในระดับที่ไม่สูงนัก ทั้งนี้ ดิ เอราวัณ จึงมีข้อได้เปรียบจากการขยายเครือข่ายโรงแรมหลายแห่งอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การลงทุนและการบริหารต้นทุนการดำเนินงานต่างๆต่ำ (Economy of Scale) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในธุรกิจนี้
นาย ไมเคิล ไอเซนเบิร์ก ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของแอคคอร์ เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า การที่ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป และ แอคคอร์ มองเห็นโอกาสทางการตลาดเหมือนกัน ในการขยายตลาดโรงแรมราคาประหยัด และ โรงแรมขนาดกลางภายใต้แบรนด์ เมอร์เคียว และ ไอบิส ในประเทศไทย สะท้อนเรื่องของการขยายตัวของนักท่องเที่ยว ในตลาดนี้ที่จะมีสูงขึ้น ขณะที่จุดเด่นสำคัญ คือ การให้บริการในระดับสากล ตามที่นักท่องเที่ยวสามารถคาดหวังได้จากเครือข่ายของแอคคอร์ที่มีอยู่ทั่วโลก โดยความร่วมมือ พัฒนาเครือข่ายโรงแรมชั้นประหยัดครั้งนี้ จะเป็นกลุ่มใหญ่สุดในประเทศไทย