xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจขยันคดีแพรวา เร่งเจรจาเยียวยาเหยื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ตำรวจเร่งประสานทีมกฎหมาย มธ. นัดญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต กับทางฝ่าย น.ส.แพรวา มาตกลงเรื่องค่าเสียหาย ขณะที่ผู้บาดเจ็บนอนรักษาตัว รพ.อีก 2 ราย แม่ผู้บาดเจ็บเผยหลัง “แพรวา” มอบตัว รู้สึกดีใจและพอใจตำรวจที่มีความยุติธรรมและปล่อยให้เรื่องดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ด้านบริษัทประกันนัดจ่ายค่าปลงศพวันนี้

วานนี้ (6 ม.ค.) พ.ต.ท.วิจิตร ด่านธำรงกุล พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.วิภาวดี หนึ่งในทีมงานพนักงานสอบสวนคดี น.ส.อรชร หรือแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 16 ปี 6 เดือน ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ชนรถตู้บนทางด่วนโทลล์เวย์จนมีผู้เสียชีวิต 9 ราย เปิดเผยถึงความคืบหน้านี้ว่า จากการตรวจสอบรายละเอียดของรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค ที่ น.ส.แพรวา ใช้ขับขี่นั้น พบว่ามีเจ้าของเป็นผู้หญิง แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเจ้าของรถนั้นเกี่ยวข้องกับ น.ส.แพรวา อย่างไรบ้าง ต้องเชิญตัวมาสอบปากคำก่อน โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบปากคำเจ้าของรถเก๋งและเจ้าของรถตู้ พร้อมทั้งรอผลรายงานการชันสูตรและผลตรวจสอบหลักฐาน จากนั้นก็จะรวบรวมมาประกอบสำนวนคดีส่งต่ออัยการเพื่อให้พิจารณาว่าจะดำเนินการสั่งฟ้องหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาการยื่นฟ้อง เพราะต้องรอเอกสารจะหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่ทางตำรวจจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

พ.ต.ท.วิจิตรกล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งประสานงานกับทีมกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อนัดญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตกับทางฝ่าย น.ส.แพรวามาตกลงกันเรื่องค่าเสียหายแล้ว ส่วนเรื่องการฟ้องร้องคดีทางแพ่งนั้น ทางญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสามารถดำเนินการฟ้องร้องได้เองโดยไม่ต้องผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่แค่ประสานงานกับทั้งสองฝ่าย หากมีความพร้อมที่จะเจรจาเจ้าหน้าที่ก็จะจัดสถานที่ไว้ให้จะเป็นที่ สน.วิภาวดี ก็ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ขัดข้องแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ที่โรงพยาบาลวิภาวดีนั้น มีผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวเหลืออยู่ 2 ราย โดยรายแรก คือ น.ส.กัญจณ์นภัส ปัญญาประเสริฐ ซึ่งแพทย์ให้ทำกายภาพบำบัดบนเตียงเท่านั้น โดยยังไม่ได้อนุญาตให้หัดเดิน เนื่องจากมีบาดแผลที่ท้ายทอย ทำให้ต้องรอดูอาการของสมองว่ายังมีการเวียนหัวหรือไม่ หากยังมีอาการเวียนหัวอยู่ก็ยังไม่อนุญาตให้หัดเดิน เพราะเลือดจะไปเลี้ยงสมองไม่ทัน จะทำให้อาจเกิดอันตรายได้

ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 รายที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวิภาวดี ก็คือ นายวรัญญู เกตุชู ทางแพทย์ยังไม่อนุญาตให้ทำกายภาพบำบัด เนื่องจากมีบาดแผลที่สะบ้าหัวเข่าข้างซ้าย และกระดูกไหปลาร้าหักยังไม่หายดี แต่ก็ยังสามารถลุกเดินได้โดยมีญาติช่วยพยุง ซึ่งแพทย์ก็ยังไม่มีกำหนดให้ออกจากโรงพยาบาล ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 รายที่ได้ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว คือ นายสุนทร ปิดตาทานัง ออกจากโรงพยาบาลไปตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. และนายโมฮัมเหม็ด ซาคีป ได้ออกจากโรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. แต่ทางแพทย์ยังนัดให้ทั้งคู่มาพบทุกสัปดาห์เพื่อดูอาการ

ด้านนางวิจิตรา ปัญญาประเสริฐ อายุ 48 ปี แม่ของ น.ส.กัญจณ์นภัส ปัญญาประเสริฐ หนึ่งในผู้บาดเจ็บกล่าวว่า หลังจากที่ทาง น.ส.แพรวาเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อวานนี้ (5 ม.ค.) ตนก็รู้สึกดี และเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความยุติธรรมและปล่อยให้เรื่องดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ในฐานะเป็นแม่ก็รู้สึกหดหู่กับอาการบาดเจ็บของลูกสาว ตอนนี้ก็อยากให้ลูกกลับไปเรียนหนังสือได้เหมือนเดิม ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ชี้แจงว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะจะดูแลเรื่องการเรียนของลูกอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ป้าของ น.ส.แพรวาก็ได้โทรศัพท์มาหาตนเช่นกัน พร้อมยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้งและจะดูแลเยียวยา ตอนนี้ไม่ต้องวิตกกังวลใดๆ อีกประมาณ 2-3 วัน จะเดินทางมาเยี่ยมคนเจ็บที่โรงพยาบาลวิภาวดี

นางวิจิตรากล่าวอีกว่า ตอนนี้ทางผู้บาดเจ็บมีวงเงินในการรักษาจากบริษัทนำสินประกันภัย ซึ่งเป็นประกันภัยของรถตู้จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลในวงเงิน 150,000 บาท และทางบริษัท นวกิจประกันภัย ซึ่งเป็นประกันภัยของรถเก๋งฮอนด้าซีวิค จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพิ่มให้ผู้บาดเจ็บอีกคนละ 1 ล้านบาท หากวงเงินเกินจากของทางบริษัทนำสินประกันภัย ส่วนทางผู้เสียชีวิต ทางบริษัทนวกิจประกันภัย จะจ่ายให้ญาติผู้เสียชีวิตคนละ 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้อีกฝ่ายช่วยเหลือดูแลเรื่องค่ารักษาจนกว่าทางผู้บาดเจ็บจะกลับมามีร่างกายสมบูรณ์เป็นปกติ

นางวิจิตรายังกล่าวถึงกระแสต่อต้าน น.ส.แพรวา อย่างรุนแรงในสังคมออนไลน์หรือสื่ออินเทอร์เน็ตด้วยว่า คงไม่สามารถบังคับความรู้สึกของคนได้เพราะแต่ละคนก็มีความคิดเห็นต่างกัน แต่อยากฝากถึงแม่ของ น.ส.แพรวา ด้วยว่า ให้เข้มแข็งและอดทนไว้ เนื่องจากเหตุการณ์ก็ได้เกิดขึ้นไปแล้ว ทางตนก็เข้าใจอีกฝ่าย ไม่ได้โกรธหรือเคียดแค้น แค่อยากให้อีกฝ่ายดูแลและเยียวยาผู้บาดเจ็บให้ดีที่สุด

**บ.ประกันนัดจ่ายค่าปลงศพวันนี้**

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ สน.วิภาวดี ว่าได้มีบรรดาญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวทยอยเดินทางมาขอรับทรัพย์สินที่พบอยู่ในที่เกิดเหตุคืนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรรับผิดชอบ โดยส่วนใหญ่ได้มีการนัดแนะกันว่าในวันที่ 7 ม.ค.จะเดินทางไปอาคารส่งเสริมประกันภัย ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทส่งเสริมประกันภัย จำกัด ย่านถนนสุรวงศ์ เพื่อที่ไปรับเงินค่าปลงศพของแต่ละราย ซึ่งอยู่ในความคุ้มครองของ พ.ร.บ.คุ้มครองบุคคลที่ 3 ที่บริษัทส่งเสริมประกนภัยรับผิดชอบในส่วนนี้อยู่

โดย นายวสิษฐ์พล จิตรตรีปลื้ม ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสินไหมรถยนต์ บริษัทส่งเสริมประกันภัย กล่าวว่า เบื้องต้นทางบริษัทได้นัดผู้เสียหายมารับค่าปลงศพรายละ 20,000 บาท ในวันนี้ (7 ม.ค.) จำนวน 4 ราย คือ ดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง นายปรัชญา คันทา นายอุกฤษฏ์ จินันทุยา และนางนฤมล ปิตตาทานัง โดยทั้งหมดทางบริษัทได้จ่ายเป็นเช็คให้กับทายาทมารับ ส่วนที่เหลืออีก 5 รายนั้น ทางบริษัทได้เร่งรัดรวบรวมเอกสารต่างๆในการเบิกจ่ายค่าปลงศพให้แล้วเสร็จคาดว่าไม่น่าจะเกินวันที่ 12 ม.ค. และในส่วนความรับผิดชอบต่อผู้บาดเจ็บนั้น ทางบริษัทได้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลรายละ 50,000 บาท ตามความคุ้มครองของ พ.ร.บ. ไปก่อนหน้านี้เรียบร้อยไปก่อนหน้านี้แล้ว

ด้าน พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.วิภาวดี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังบริษัทเช่าซื้อรถเก๋งฮอนด้าซีวิคคันก่อเหตุแล้ว เพื่อเรียกตัวผู้ครอบครองรถมาสอบปากคำว่าเกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้อย่างไร และใครเป็นผู้ให้
ผู้ต้องหายืมรถไปขับ ส่วนในเรื่องสำนวนการสอบสวนนั้น ขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้ให้ ตน พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ภาสยะวรรณ พนักงานสอบสวน (สบ 3) และพ.ต.ท.วิจิตร ด่านธำรงกุล พนักงานสอบสวน (สบ 3) ช่วยกันรวบรวมเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับคดีนี้ ทั้งในส่วนของการสอบปากคำพยานและผู้ก่อเหตุ รวมทั้งผลการตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุ ผลชันสูตรศพและเอกสารหลักฐานการชดใช้ ช่วยเหลือในส่วนที่เกิดความเสียหายจากผู้ก่อเหตุตามที่ผู้ก่อเหตุร้องขอให้รวมเอกสารไปในสำนวนด้วย เพื่อนำส่งให้ทางอัยการเสนอความเห็นต่อศาล ตามขั้นตอนขบวนการยุติธรรม ต่อไป.
กำลังโหลดความคิดเห็น