นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อถึงกรณีพรรคเพื่อไทยปรับเปลี่ยนโครงสร้างและบุคลากรภายในพรรคใหม่ว่า พรรคเพื่อไทยยังมีความคิดเห็นไม่ตกผลึก โดยเฉพาะในกรณีหาคนมาเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งมีการดิสเครดิสระหว่างกลุ่ม โดยกลุ่มที่เชลียร์นายหใญ่ก็สนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชนิดสุดลิ่มทิ่มประตูหวังจะสร้างประวัติศาสตร์ให้มีนายกฯหญิงเป็นคนแรก
ในขณะที่กลุ่มของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ก็ออกมาอ้างสัญาญาณไฟเขียวจากนายใหญ่ว่า เปิดโอกาสให้นายมิ่งขวัญได้แสดงฝีมือแล้ว ด้านกลุ่มของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงและพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยก็ส่งลูกน้องให้ออกมาสัมภาษณ์ผ่านสื่อในลักษณะตีกันตลอดเวลา และอีกบางส่วนบางกลุ่มก็โยนหินถามทาง ปล่อยชื่อ นายวีระพงษ์ รามางกรู ออกมาสร้างกระแสเพื่อฟอกตัวให้หลุดพ้นจากข้อหาเรื่องความไม่จงรักภักดี
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มส.ส.ที่หวังไต่เต้าและหวังฟลุ๊คทางการเมือง เหมือนกรณีนายสมัคร สุนทรเวช เช่น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา ล้วนแต่แต่แอบฝันหวานที่จะเสียบเป็นหัวหน้าพรรคเช่นเดียวกัน
ส่วนที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุว่า จะหาผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ที่มีบุคลิกดี หล่อ สวย ลงสมัครเลือกตั้งเหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์เคยทำสำเร็จมาแล้วนั้น ตนเห็นว่าการเป็นนักการเมืองหน้าตาไม่ใช่เรื่องสำคัญ นักการเมืองที่ดีต้องมีอุดมการณ์และสมองไม่ใช่หล่อและบุคลิกดีเพียงอย่างเดียว คนหน้าตาดีในพรรคเพื่อไทยก็มีมากหลายคน แต่จะมีสมองหรืออุดมการณ์หรือไม่ ต้องไปค้นหาเอาเอง ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะลงสู่สนามเลือกตั้งแต่อย่างใด การประกาศท้าทายให้รัฐบาลยุบสภาโดยเร็วจึงเป็นแค่การสร้างภาพและหวังผลทางการเมืองเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงก็แค่พวกปากกล้า แต่ขาสั่น
** "เจ๊มิ่ง"รอ"แม้ว"ไฟเขียวนั่งหน.พรรค
นายสุพล ฟองงาม เลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.) เปิดเผยว่า ในการสรรหาผู้นำฝ่ายค้านเพื่อเตรียมยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยหน้านั้น พรรคเพื่อไทยจะนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในสัปดาห์หน้า เพื่อขอหารือกรณีว่าจะเห็นชอบให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ และในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม คงต้องให้เป็นไปตามกระบวนการ และรูปแบบของพรรคการเมืองตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มอบแนวทางไว้ ซึ่งหลังจากได้ข้อสรุปในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคฯแล้ว ก็จะต้องนำเข้าที่ประชุม ส.ส.พรรคก่อน เพื่อให้มีข้อยุติที่ชัดเจนอีกครั้ง
ในขณะที่กลุ่มของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ก็ออกมาอ้างสัญาญาณไฟเขียวจากนายใหญ่ว่า เปิดโอกาสให้นายมิ่งขวัญได้แสดงฝีมือแล้ว ด้านกลุ่มของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงและพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยก็ส่งลูกน้องให้ออกมาสัมภาษณ์ผ่านสื่อในลักษณะตีกันตลอดเวลา และอีกบางส่วนบางกลุ่มก็โยนหินถามทาง ปล่อยชื่อ นายวีระพงษ์ รามางกรู ออกมาสร้างกระแสเพื่อฟอกตัวให้หลุดพ้นจากข้อหาเรื่องความไม่จงรักภักดี
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มส.ส.ที่หวังไต่เต้าและหวังฟลุ๊คทางการเมือง เหมือนกรณีนายสมัคร สุนทรเวช เช่น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา ล้วนแต่แต่แอบฝันหวานที่จะเสียบเป็นหัวหน้าพรรคเช่นเดียวกัน
ส่วนที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุว่า จะหาผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ที่มีบุคลิกดี หล่อ สวย ลงสมัครเลือกตั้งเหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์เคยทำสำเร็จมาแล้วนั้น ตนเห็นว่าการเป็นนักการเมืองหน้าตาไม่ใช่เรื่องสำคัญ นักการเมืองที่ดีต้องมีอุดมการณ์และสมองไม่ใช่หล่อและบุคลิกดีเพียงอย่างเดียว คนหน้าตาดีในพรรคเพื่อไทยก็มีมากหลายคน แต่จะมีสมองหรืออุดมการณ์หรือไม่ ต้องไปค้นหาเอาเอง ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะลงสู่สนามเลือกตั้งแต่อย่างใด การประกาศท้าทายให้รัฐบาลยุบสภาโดยเร็วจึงเป็นแค่การสร้างภาพและหวังผลทางการเมืองเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงก็แค่พวกปากกล้า แต่ขาสั่น
** "เจ๊มิ่ง"รอ"แม้ว"ไฟเขียวนั่งหน.พรรค
นายสุพล ฟองงาม เลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.) เปิดเผยว่า ในการสรรหาผู้นำฝ่ายค้านเพื่อเตรียมยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยหน้านั้น พรรคเพื่อไทยจะนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในสัปดาห์หน้า เพื่อขอหารือกรณีว่าจะเห็นชอบให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ และในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม คงต้องให้เป็นไปตามกระบวนการ และรูปแบบของพรรคการเมืองตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มอบแนวทางไว้ ซึ่งหลังจากได้ข้อสรุปในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคฯแล้ว ก็จะต้องนำเข้าที่ประชุม ส.ส.พรรคก่อน เพื่อให้มีข้อยุติที่ชัดเจนอีกครั้ง
