สองบริษัทผู้นำด้านไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง วันเดอร์แมน และเทเลไดเร็ค ระบุองค์กรธุรกิจในประเทศไทยต้องการใช้โซลูชั่นไดเร็คมาร์เก็ตติ้งเชิงสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น
ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้บริหารจากสองบริษัทผู้นำด้านธุรกิจไดเร็ค มาร์เก็ตติ้ง ในประเทศไทย วันเดอร์แมน และเทเลไดเร็ค ระบุถึงกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้น ในปีนี้ขององค์กรธุรกิจในประเทศไทยในการหันมาใช้การตลาดแบบ “touch point” โซลูชั่นการตลาดทางตรงรูปแบบใหม่ หวังสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนด้านการตลาด พร้อมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในระยะยาว
มร. นิค แอนเน็ทส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วันเดอร์แมน ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ริเริ่มธุรกิจไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง กล่าวว่า “ปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนแปลงไป เดิมทีการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเคยเป็นเรื่องง่าย โดยใช้ช่องทางของสื่อต่างๆ ที่มีอยู่ดั้งเดิม เช่น โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อกลางแจ้ง และยังสามารถควบคุมสารที่ผู้บริโภคจะได้รับได้ง่าย ในปัจจุบันซึ่งเป็นยุคที่อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีไร้สายเป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีโอกาสในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ต่างๆ ได้อย่างไม่จำกัด แม้อันที่จริงแล้วผู้บริโภคเองต่างหากที่เป็นผู้ควบคุมการรับรู้ข้อมูลเหล่านี้ จากการที่มีความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมากยิ่งขึ้นในทุกวันนี้ จึงทำให้ลูกค้าของเราในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เริ่มตระหนักว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจจากการใช้สื่อรูปแบบใหม่ ก็คือการหาวิธีการที่จะสร้างความแตกต่างในช่วงเวลาอันสั้นและมีค่าขณะที่ผู้บริโภคกำลังมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ นั่นคือการใช้การตลาดแบบ touch-point”
ตัวอย่างการตลาดแบบ “touch point” ของวันเดอร์แมน มีตั้งแต่การพบลูกค้าแบบ face to face ในงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งจะมีการเก็บข้อมูลการติดต่อของผู้บริโภค ไปจนถึงการพัฒนา touch-point ในรูปแบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ค เพื่อนำมาใช้ในการหาข้อมูล และการทำ consumer journeys ในการติดตามแบรนด์แบบออนไลน์ การตลาดแบบ touch-point นอกจากจะช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้นเมื่อเทียบกับการใช้สื่อแบบเดิมยังช่วยให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ได้รับผลตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และสามารถเชื่อมโยงกิจกรรมทางการตลาดเข้ากับยอดขายได้โดยตรง จึงทำให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่ดียิ่งขึ้น
“ปัจจุบันมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่บริษัทต่างๆ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ โดยนักการตลาดมืออาชีพสามารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการคาดการณ์ยอดขาย และนำมาพิจารณาสภาพตลาดว่าอยู่ในช่วงที่กำลัง “ร้อนแรง” “ปกติ” หรือ “ซบเซา” จากข้อมูลเหล่านี้ บริษัทต่างๆ สามารถนำมาต่อยอด โดยเลือกว่าความเป็นไปได้ดังกล่าวสมควรจับตามองหรือไม่ ท้ายที่สุดแล้วข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้บริษัทต่างๆ ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนด้านการตลาดที่มากยิ่งขึ้น” มร. นิค กล่าวเสริม
การตลาดแบบ touch-point อีกประเภทหนึ่งที่กำลังทวีบทบาทและความสำคัญยิ่งขึ้นต่อบริษัทต่างๆ ในปัจจุบันคือ บริการเทเลคอมเมิร์ซ ซึ่งบริษัทต่างๆ สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค นำเสนอผลิตภัณฑ์ หรือบริการ พร้อมทั้งยืนยันการขายผ่านทางโทรศัพท์ บริษัทเทเลไดเร็ค ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่น และบริการเทเลคอมเมิร์ซแบบเอาท์ซอส ตามความต้องการของลูกค้าให้แก่บริษัทชั้นนำในธุรกิจการเงิน ไอที และโทรคมนาคมหลายแห่ง เป็นผู้นำในด้านบริการเทเลคอมเมิร์ซ
มร. เจฟฟรีย์ มานูเอล ผู้อำนวยการบริษัท เทเลไดเร็ค เทเลคอมเมิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เราเล็งเห็นถึงความต้องการที่มากขึ้นเรื่อยๆ ของผู้นำในองค์กรธุกิจต่างๆ ในการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนด้านการตลาดที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งโซลูชั่นเทเลคอมเมิร์ชที่ปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของลูกค้า จะช่วยให้ลูกค้าผู้ใช้งานสามารถเชื่อมโยงการลงทุนด้านการตลาดเข้ากับรายได้จากยอดขายได้โดยตรง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่นักการตลาดทุกคนใฝ่ฝันถึง และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เราเล็งเห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในส่วนธุรกิจของเราในประเทศไทย”
ในตลาดเอเชียบางประเทศ เช่น เกาหลี และไต้หวัน บริการเทเลคอมเมิร์ซแบบตรงมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 50 ของส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับลูกค้ารายย่อย ขณะที่ในประเทศไทยตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ อย่างไรก็ดี เทเลไดเร็ค มองเห็นถึงการนำโซลูชั่นเทเลคอมเมิร์ซมาใช้ว่ามีการเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย เนื่องจากลูกค้าตระหนักถึงประโยชน์ที่ส่งผลต่อการเติบโตทางธุรกิจ
“เราคาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดเทเลคอมเมิร์ซในประเทศไทยในอีกสองปีข้างหน้า อันเป็นผลมาจากการความหลากหลายของสื่อ รวมทั้งความพร้อมในการใช้งานช่องทางการชำระเงิน (Payment Gateway) ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย อย่างไรก็ดี ก่อนที่การเติบโตของตลาดเทเลคอมเมิร์ซจะเกิดขึ้น ผู้ประกอบการด้านเทเลคอมเมิร์ซในประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจว่าโซลูชั่นที่มีอยู่นั้นได้มาตรฐานอุตสาหกรรมในระดับสากล และบริการต่างๆ มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือสูง ทั้งนี้ หัวใจสำคัญของการให้บริการของเทเลไดเร็ค ก็คือความมุ่งมั่นของเราที่จะใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยของโครงสร้างพื้นฐาน โซลูชั่นเทเลโฟนี เครื่องอัดบันทึกเสียงแบบดิจิตอล และระบบลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ลิขสิทธิ์เฉพาะของเทเลไดเร็คให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อรองรับการทำงานของโซลูชั่นเทเลคอมเมิร์ซระดับโลกของเรา และช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ในประเทศไทยจำนวนมากสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” มร. เจฟฟรีย์ กล่าวเพิ่มเติม
บริษัท วันเดอร์แมน และเทเลไดเร็คต่างเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ดับบลิวพีพี กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำระดับโลกในด้านการสื่อสารการตลาด
ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้บริหารจากสองบริษัทผู้นำด้านธุรกิจไดเร็ค มาร์เก็ตติ้ง ในประเทศไทย วันเดอร์แมน และเทเลไดเร็ค ระบุถึงกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้น ในปีนี้ขององค์กรธุรกิจในประเทศไทยในการหันมาใช้การตลาดแบบ “touch point” โซลูชั่นการตลาดทางตรงรูปแบบใหม่ หวังสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนด้านการตลาด พร้อมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในระยะยาว
มร. นิค แอนเน็ทส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วันเดอร์แมน ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ริเริ่มธุรกิจไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง กล่าวว่า “ปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนแปลงไป เดิมทีการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเคยเป็นเรื่องง่าย โดยใช้ช่องทางของสื่อต่างๆ ที่มีอยู่ดั้งเดิม เช่น โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อกลางแจ้ง และยังสามารถควบคุมสารที่ผู้บริโภคจะได้รับได้ง่าย ในปัจจุบันซึ่งเป็นยุคที่อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีไร้สายเป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีโอกาสในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ต่างๆ ได้อย่างไม่จำกัด แม้อันที่จริงแล้วผู้บริโภคเองต่างหากที่เป็นผู้ควบคุมการรับรู้ข้อมูลเหล่านี้ จากการที่มีความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมากยิ่งขึ้นในทุกวันนี้ จึงทำให้ลูกค้าของเราในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เริ่มตระหนักว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจจากการใช้สื่อรูปแบบใหม่ ก็คือการหาวิธีการที่จะสร้างความแตกต่างในช่วงเวลาอันสั้นและมีค่าขณะที่ผู้บริโภคกำลังมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ นั่นคือการใช้การตลาดแบบ touch-point”
ตัวอย่างการตลาดแบบ “touch point” ของวันเดอร์แมน มีตั้งแต่การพบลูกค้าแบบ face to face ในงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งจะมีการเก็บข้อมูลการติดต่อของผู้บริโภค ไปจนถึงการพัฒนา touch-point ในรูปแบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ค เพื่อนำมาใช้ในการหาข้อมูล และการทำ consumer journeys ในการติดตามแบรนด์แบบออนไลน์ การตลาดแบบ touch-point นอกจากจะช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้นเมื่อเทียบกับการใช้สื่อแบบเดิมยังช่วยให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ได้รับผลตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และสามารถเชื่อมโยงกิจกรรมทางการตลาดเข้ากับยอดขายได้โดยตรง จึงทำให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่ดียิ่งขึ้น
“ปัจจุบันมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่บริษัทต่างๆ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ โดยนักการตลาดมืออาชีพสามารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการคาดการณ์ยอดขาย และนำมาพิจารณาสภาพตลาดว่าอยู่ในช่วงที่กำลัง “ร้อนแรง” “ปกติ” หรือ “ซบเซา” จากข้อมูลเหล่านี้ บริษัทต่างๆ สามารถนำมาต่อยอด โดยเลือกว่าความเป็นไปได้ดังกล่าวสมควรจับตามองหรือไม่ ท้ายที่สุดแล้วข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้บริษัทต่างๆ ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนด้านการตลาดที่มากยิ่งขึ้น” มร. นิค กล่าวเสริม
การตลาดแบบ touch-point อีกประเภทหนึ่งที่กำลังทวีบทบาทและความสำคัญยิ่งขึ้นต่อบริษัทต่างๆ ในปัจจุบันคือ บริการเทเลคอมเมิร์ซ ซึ่งบริษัทต่างๆ สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค นำเสนอผลิตภัณฑ์ หรือบริการ พร้อมทั้งยืนยันการขายผ่านทางโทรศัพท์ บริษัทเทเลไดเร็ค ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่น และบริการเทเลคอมเมิร์ซแบบเอาท์ซอส ตามความต้องการของลูกค้าให้แก่บริษัทชั้นนำในธุรกิจการเงิน ไอที และโทรคมนาคมหลายแห่ง เป็นผู้นำในด้านบริการเทเลคอมเมิร์ซ
มร. เจฟฟรีย์ มานูเอล ผู้อำนวยการบริษัท เทเลไดเร็ค เทเลคอมเมิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เราเล็งเห็นถึงความต้องการที่มากขึ้นเรื่อยๆ ของผู้นำในองค์กรธุกิจต่างๆ ในการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนด้านการตลาดที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งโซลูชั่นเทเลคอมเมิร์ชที่ปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของลูกค้า จะช่วยให้ลูกค้าผู้ใช้งานสามารถเชื่อมโยงการลงทุนด้านการตลาดเข้ากับรายได้จากยอดขายได้โดยตรง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่นักการตลาดทุกคนใฝ่ฝันถึง และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เราเล็งเห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในส่วนธุรกิจของเราในประเทศไทย”
ในตลาดเอเชียบางประเทศ เช่น เกาหลี และไต้หวัน บริการเทเลคอมเมิร์ซแบบตรงมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 50 ของส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับลูกค้ารายย่อย ขณะที่ในประเทศไทยตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ อย่างไรก็ดี เทเลไดเร็ค มองเห็นถึงการนำโซลูชั่นเทเลคอมเมิร์ซมาใช้ว่ามีการเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย เนื่องจากลูกค้าตระหนักถึงประโยชน์ที่ส่งผลต่อการเติบโตทางธุรกิจ
“เราคาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดเทเลคอมเมิร์ซในประเทศไทยในอีกสองปีข้างหน้า อันเป็นผลมาจากการความหลากหลายของสื่อ รวมทั้งความพร้อมในการใช้งานช่องทางการชำระเงิน (Payment Gateway) ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย อย่างไรก็ดี ก่อนที่การเติบโตของตลาดเทเลคอมเมิร์ซจะเกิดขึ้น ผู้ประกอบการด้านเทเลคอมเมิร์ซในประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจว่าโซลูชั่นที่มีอยู่นั้นได้มาตรฐานอุตสาหกรรมในระดับสากล และบริการต่างๆ มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือสูง ทั้งนี้ หัวใจสำคัญของการให้บริการของเทเลไดเร็ค ก็คือความมุ่งมั่นของเราที่จะใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยของโครงสร้างพื้นฐาน โซลูชั่นเทเลโฟนี เครื่องอัดบันทึกเสียงแบบดิจิตอล และระบบลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ลิขสิทธิ์เฉพาะของเทเลไดเร็คให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อรองรับการทำงานของโซลูชั่นเทเลคอมเมิร์ซระดับโลกของเรา และช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ในประเทศไทยจำนวนมากสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” มร. เจฟฟรีย์ กล่าวเพิ่มเติม
บริษัท วันเดอร์แมน และเทเลไดเร็คต่างเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ดับบลิวพีพี กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำระดับโลกในด้านการสื่อสารการตลาด
