ASTVผู้จัดการรายวัน- “เทพไท” ซัด “”ไพร่ตัวแม่”นำแดงถ่อยโชว์ตีนตบถวายพระพร แถมทำพิธีด้วยเทียนแดง กับ “พราหม์ไพร่” ถามหาความรับผิดชอบ แนะแกนนำคืนผิวถนนหลัง เสื้อแดงทยอยกลับ แนะ พท. แนบภาพ ส.ส.พท.ชูนิ้วกลางประกอบคำฟ้อง UN ประจานความต่ำ จนท.ทหาร-ตร.ซึ่งตรึงกำลังล้อมรัฐสภา ทยอยรื้อถอนสิ่งกีดขวาง เปิดทางเส้นเข้าออกแล้ว
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกิจกรรมของคนเสื้อแดงที่มีการจุดเทียนชัยถวายพระพรที่นำโดยท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล บนเวทีขับไล่อำมาตย์ ว่า อยากถามว่าคุณวิระยาเป็นอำมาตย์หรือไม่ เพราะพฤติกรรมที่แสดงออกว่าจงรักภักดีจะเห็นว่าทำผิดเวลาหลายครั้ง เช่น การจุดเทียนชัยถวายพระพร เนื่องในวันพ่อ 5 ธ.ค.แต่กลุ่มคนเสื้อแดงก็มาจุดเทียนชัยถวายพระพรในวันที่ 10 ธ.ค.แทน และการจุดเทียนถวายพระพรเมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค.สิ่งที่ไม่บังควรอย่างยิ่งคือระหว่างที่มีการจุดเทียนกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งบนเวทีและด้านล่าง มีการยกเท้าตบขึ้นมาโชว์เหมือนเป็นการถวายด้วยเท้าตบ ดังนั้น ตนอยากถามหาความรับผิดชอบของคนเสื้อแดง และอยากรู้ว่าแกนนำ นปช.จะแก้ตัวอย่างไรกับการชูเท้าตยถวายพระพร ซึ่งตนหวังว่าแกนนำนปช.จะไม่โยนความผิดให้รัฐบาลอีก
ส่วนกรณีที่แกนนำนปช.ประกาศว่าหากถูกรัฐบาลกดดันไม่ให้มีการจัดการชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และจะเปลี่ยนไปชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์แทน คิดว่าเป็นการกระทบกระเทือนต่อการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (IPU) ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งจะมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ที่จะเสด็จไปเป็นประธานในงานด้วย จึงไม่อยากให้กลุ่มคนเสื้อแดงไปทำลายภาพลักษณ์ของประเทศหาเหตุไปชุมนุม ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้กดดันใด ๆ แต่เห็นว่าหากมีผู้มาเข้าร่วมชุมนุมน้อยลงทางแกนนำก็ควรที่จะหาพื้นที่ที่เหมาะสมกับผู้ชุมนุม และควรจะคืนผิวจราจรให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม การที่พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ระบุว่าคนเสื้อแดงจะไม่ไปปิดล้อมการประชุม IPU ซึ่งถือเป็นการออกมาแก้ต่างให้กลุ่มคนเสื้อแดง จึงอยากถามว่า พ.อ.อภิวันท์ เป็นแกนนำ
นปช.หรือเป็นรองประธานสภากันแน่
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปฟ้องร้องสหประชาชาติ หรือ UN ว่ารัฐบาลใช้ทหารปิดกั้นรัฐสภาและปิดการการทำหน้าที่ว่า รัฐบาลไม่ได้ปิดล้อมรัฐสภาแต่เป็นเรื่องการรักษาความปลอดภัย แต่ไม่อยากให้มีเหตุการณ์ซ้ำรอยวันที่ 7 ต.ค. 51 นอกจากนี้ ยังกระทำการภายใต้พ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่ได้ระเมิดกฎหมาย จึงไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทยจะใช้กฎหมายมาตรใด หรือใช้ช่องทางใดที่จะยื่นฟ้องต่อ UN ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย อย่าฉวยโอกาศสร้างเรื่อง หรือเอาเรื่องไปฟ้อง UN ดังนั้น อยากแนะนำว่าให้พรรคเพื่อไทยแนบภาพที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ยกนิ้วกลางที่บริเวณราชวิถี แนบไปกับคำฟ้องด้วย เพื่อแสดงให้ UN เห็นว่าเป็นการกระทำที่หยาบคายและต่ำช้า เพื่อให้คนทั่งโลกได้เห็นพฤติกรรมดังกล่าวด้วย
จนท.ทยอยขนย้ายสิ่งกีดขวาง
ที่บริเวณอาคารรัฐสภา บ่ายวันเดียวกันภายหลังการประชุมสร็จสิ้นลง เจ้าที่ตำรวจทหาร ที่ดูแลความปลอดภัยโดยบริเวณรอบอาคารรัฐสภา ได้เริ่มทยอยรื้อถอนสิ่งกีดขวางทางการจราจร อาทิ รั่วลวดหนาม รถลำโพง รถดับเพลิง รถน้ำ ออกจากพื้นที่บริเวณแยก ถ.ราชวิถี บริเวณเขาดินตัดกับสวนจิตรดาฯ และ แยกการเรือนถ.ราชวิถี และ แยกขัตติยานี ถ.พิชัย ซึ่งเป็น 2 เส้น ทางเข้าออกสู่รัฐสภาได้ ทั้งนี้ ในเวลา 16 .00 น. จะสามารถเปิดการจราจาถ.ราชวิถี ให้แก่ประชาชนสามารถสัญจรได้ตามปกติ ได้ตามปกติ
แต่ยังมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ บางส่วนคอยดูแลความเรียบร้อย โดยถ.อู่ทองในด้านหน้าอาคารัฐสภายังไม่เปิดการจราจรเพราะต้องการป้องกันกลุ่มเสื้อแดงที่อาจบุกเข้ามาทางถนนราชดำเนินได้
“เทือก”รับเปิดถนนบริเวณรัฐสภา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าววันนี้ (25 มี.ค.) ถึงกรณีทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัย ตามมติของศอ.รส. ในการปิดเส้นทางโดยรอบรัฐสภาว่า เป็นการป้องกันเหตุร้าย อย่าให้เกิดขึ้นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยวัตถุประสงค์ของศอ.รส. เพื่อดูแลให้สภาและส.ส.สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ สามารถเข้า-ออกอาคารรัฐสภาได้ ป้องกันไม่ให้มีการปิดล้อมรัฐสภา ซึ่งหากเกิดการปิดล้อมต้องนำส.ส.เข้าประชุม หากมีการเปิดทาง และมีการกระทบกระทั่งกัน อาจจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนและได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ หากส.ส.จะเข้าประชุม ก็สามารถเดินทางเข้ามาได้ แต่เราป้องกันเฉพาะคนที่มีพฤติการณ์ไม่ให้เกิดความสงบได้ อย่างไรก็ตาม จะพิจารณาทบทวนตามสถานการณ์ เมื่อเห็นว่าสถานการณ์คลี่คลายลงจะดำเนินการต่อไป ขณะนี้ที่ผู้ชุมนุมยังคงตรึงบริเวณใกล้รัฐสภา ตนดูสถานการณ์การณ์ในวันนี้ แล้วจะพิจารณาสั่งการอีกที เนื่องจากกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรีเดินทางไปที่ไหน เขาจะตามไปรังควาญ และกระทำการอย่างนั้นจริงๆ หลายครั้งหลายหน และหลายวัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ตนทำ จึงเป็นมาตรการป้องกัน เมื่อเราใช้มาตรการนี้แล้วได้ผล เราก็มาทบทวนใหม่ได้ว่า จะแก้ไขอย่างไรให้ผ่อนคลายลง
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า การตั้งด่าน 7 ชั้นล้อมรอบรัฐสภา เราทำเฉพาะที่จะดูแลให้สภาทำงานได้ ไม่ได้ทำตลอดไป โดยจะลดความเดือดร้อนและความไม่สะดวกของประชาชนให้มากที่สุด ส่วนจะเปิดถนนบริเวณรอบรัฐสภาได้เมื่อไหร่ วันนี้ผมจะทบทวนดูใหม่ว่า จะลดระดับความปลอดภัยหรือไม่ แต่อย่างที่เรียนว่า มีความกังวลใจ เพราะการข่าวของเราบอกชัดว่า คนพวกนี้ตั้งใจที่จะก่อวินาศกรรม ก่อความไม่สงบด้วยวิธีการต่างๆ ตนจึงได้ตรึงกำลังกระจายออกไปดูแลกรุงเทพ ฯ แต่เขาเลือกไปปฏิบัติการในพื้นที่ที่เราไปไม่ถึง เช่น จ.นนทบุรี หรือพื้นที่ฝั่งธนบุรีบางแห่ง ดังนั้นต้องปรับปรุงแผนการทำงานต่อไป จะพยายามดูแลลดโอกาสของคนที่จะก่อเหตุให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยตนคงต้องเพิ่มมาตรการให้มากขึ้น เมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค. พยายามสั่งการให้ทุกหน่วยตื่นตัวระมัดระวัง แต่คงเห็นว่าจุดที่เกิดเหตุไกลจริงๆ
ทั้งนี้ เป้าหมายของผู้ก่อเหตุมุ่งพื้นที่ไหน รัฐบาลตอบแทนเขาไม่ได้ แต่รู้ว่าเป้าหมายของเขาคือ พยายามก่อวินาศกรรม เพื่อทำให้เห็นว่า รัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ตนยังมั่นใจว่า สถานการณ์นี้ยังเอาอยู่ ยังรักษาสถานการณ์ไว้ได้ เพื่อให้มีความเสียหายน้อยที่สุด แต่เหตุระเบิดรายวันคงไม่ใช่ตัวเร่งให้รัฐบาลยกระดับนำพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใช้ในการควบคุมการชุมนุมในวันที่ 27 มี.ค.นี้ ยังไม่ถึงขนาดนั้น แต่ส่วนตัวคงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมทีมเร่งรัดสืบสวนสอบสวน หาคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ บางคดีก็ได้ตัว เห็นชัดเจนแล้ว จับกุมมาได้บ้างแล้ว และกำลังจะจับกุมอยู่ ก็มีส่วนที่เหลือต้องติดตามต่อไป ประชาชนที่รู้เห็นเบาะแสก็กรุณาเป็นหูเป็นตาให้ข้อมูลด้วย
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการประเมินการชุมนุมในวันที่ 27 มี.ค.ว่า ยังประเมินไม่ได้ ต้องติดตามสถานการณ์ไปก่อน ส่วนจะมีประชาชนเดินทางมาชุมนุม เข้าร่วมมากน้อยแค่ไหนหากเทียบกับการ ชุมนุม 2 ครั้งที่ผ่านมา เราคงประเมินอย่างนั้นไม่ได้ แต่ก็วางมาตรการรับมือเอาไว้เป็นอย่างดี
ไปราชประสงค์กทม.เดือดร้อนแน่
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการรับมือการดาวกระจายวันที่ 27 มี.ค.ว่า ยังไม่ทราบรายะเอียด ต้องขอดูก่อนว่าผู้ชุมนุมจะทำอย่างไร สำหรับเรื่องที่ผู้ชุมนุมบอกว่า หากมีการฟ้องศาลปกครองไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้เวทีสะพานผ่านฟ้าลีลาศ จะย้ายไปชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์นั้น ถ้าทำจริง คนกรุงเทพฯก็เดือดร้อน ทำให้สิ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมบอกว่าจะใช้สันติวิธีหมดความหมายไป
" เกิดเหตุระเบิดตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดหลายแห่ง อยู่ระหว่างสอบสวน เชื่อว่าจะมีประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามาบ้าง บางคดีก็ได้เบาะแสหลักฐาน และดำเนินการไปแล้ว เจ้าหน้าที่ยังตั้งด่านตรวจค้น จะกำชับให้เข้มงวดขึ้น แม้เป้าหมายส่วนใหญ่เป็นสถานที่ราชการ แต่ก็ขอร้องให้ประชาชนช่วยดูแลด้วย ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่า การชุมนุมจะยาวถึงต้นเดือน เม.ย.หรือไม่ ขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม ดังนั้นคงต้องเฝ้าระวังตลอด จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่เท่าที่จำเป็นและให้เหมาะสมกับสถานที่ รัฐบาลและทุกคนต้องทนและต้องกลั้นด้วย " นายสุเทพกล่าว
ทหารย้ำไม่อยากให้เกิดความรุนแรง
ที่กระทรวงกลาโหม เวลา 09.00 น.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการต่อ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อให้ทหารออกมารักษาความปลอดภัย ว่า กองโดยกองทัพได้ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีอยู่แล้วทัพเป็นกลไกของรัฐบาลที่ช่วยรัฐบาลปฏิบัติตามที่รับบาลต้องการ กำลังทหารที่ออกมาช่วยสามารถให้ได้รัฐบาลทำงาน มาดูแลความปลอดภัยและความสงบให้ประเทศชาติ ให้ประชาชน คือความประสงค์ของกองทัพ เราห่วงใยในความรุนแรง เจ้าหน้าที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความปลอดภัย แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
เมื่อถามถึงการชุมนุมในวันที่ 27 มี.ค.53 พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้ชุมนุมเป็นผู้กำหนด เราไม่อยากให้เกิดความรุนแรงทุกอย่าง ตำรวจ ทหาร ก็พยายามไม่ใช้อาวุธ ซึ่งก็เห็นชัดเจน เราไม่อยากให้เกิดความสูญเสียทุกเรื่อง ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะไม่มีการให้เจ้าหน้าที่สลายกลุ่มผู้ชุมนุมเด็ดขาด อะไรที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพรวมในประเทศหรือของประชาชนรัฐบาลไม่ทำ ส่วนทหารที่ออกมารักษาความสงบเรียบร้อยไม่ได้ออกมามากมาย ออกมาอยู่ในพื้นที่เท่าที่จำเป็น ทหาร ตำรวจ พลเรือน อาสาสมัคร
ส่วนฝ่ายค้านต้องการให้ทหารที่รักษาความปลอดภัยที่รัฐสภาออกไป พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุ รัฐบาลต้องการให้รัฐสภาทำงานให้ได้ ป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำรอยเมื่อสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ ที่รัฐสภาถูกปิดล้อม ดังนั้นเราอยากให้เกิดความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หากไม่มีประชุมแล้วคงจะมีการปรับกำลังลดลง
สภากลาโหมย้ำไม่มีสลายชุมนุม
เวลา 12.00 น.พล.อ.ประวิตร ว ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภากลาโหม ถึงการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่าจะยืดเยื้อไปนานแค่ไหน ว่า เรื่องนี้อยู่ที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ตนคงตอบแทนไม่ได้ และไม่รู้ว่าการชุมนุมในวันเสาร์ที่ 27 มี.ค.นี้จะออกมาในรูปแบบไหน เมื่อถามว่า หากมีการชุมนุมยืดเยื้อจำเป็นจะต้องสลายการชุมนุมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า “ไม่มีรุนแรง จำเอาไว้ก็แล้วกัน”
ส่วนการชุมนุมที่ยืดเยื้อจะทำให้กระแสตีกลับมาหารัฐบาลหรือไม่ว่าไม่ยอมดำเนินการอะไรให้ชัดเจน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะให้ทำอย่างไร ถ้าให้เราทำรุนแรงเราเป็นห่วงชีวิตของประชาชน จะต้องพูดจากัน ทุกอย่างเป็นเรื่องของการเมือง เมื่อถามว่า จะมีการถอนกำลังทหารที่ดูแลบริเวณอาคารรัฐสภาได้เมื่อไหร่ หรือจะต้องรอให้มีการปิดประชุมสภาเสียก่อน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะไม่มีประชุมก็น่าจะลดกำลังทหารลง โดยเฉพาะสิ่งกีดขวางต่าง ๆ
ส่วนตอนนี้เครียดกับสถานการณ์บ้านเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่อยากให้มีอะไรรุนแรง จะไปบอกว่าเครียดก็ไม่ได้ และตนไม่อยากให้ทะเลาะกัน เมื่อถามว่า สถานการณ์บ้านเมืองจะกลับไปเหมือนในอดีตได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ได้ซิครับ คนไทยพูดภาษาไทย แล้วทำไมจะไม่เหมือนเดิมได้ ปรับความคิด เพราะทุกอย่างอยู่ที่ความคิด คนโกรธกันยังดีกันรักกันได้ ส่วนเรื่องประเด็นยุบสภานั้นไม่เกี่ยวตน ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ตนมีหน้าที่ดูแลงานด้านความมั่นคงเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และประชาชนไม่เจ็บป่วยก็พอ
ส่วนการที่นำกำลังทหารออกมาปฏิบัติงานจำนวนมากได้รับเสียงตอบรับอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะเห็นได้จากกำลังทหารไม่ได้ถือปืนเลย เพราะทหารไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง และต้องการให้ประเทศชาติเกิดความปรองดองกัน
แฉท่อน้ำเลี้ยงทะลักเข้าไทย
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวเงินท่อน้ำเลี้ยงก๊อก 2 ที่มีการโอนผ่านบริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินจากต่างประเทศ และคาดว่า มีการพัวพันกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า ช่วงที่ผ่านมามีความผิดปกติของเงินที่ไหลเข้าประเทศจริง เพราะเงินผิดปกติไม่ได้ไหลเข้ามาแค่ช่วงนี้เท่านั้น แต่มีกระแสเงินผิดกฎหมายเข้ามาตลอดอยู่แล้ว ซึ่งตนไม่อยากยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะยังไม่มีหลักฐานชัดเจน โดยหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม ทั้ง ดีเอสไอ และ ปปง.กำลังเร่งขยายผลการสืบสวน ดังนั้น เพื่อไม่ให้ถูกมองว่ากลไกในกระทรวงยุติธรรมถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง จึงไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในการตรวจสอบซึ่งถือเป็นความลับราชการ อย่างไรก็ตามถ้าพบหลักฐานชัดเจนก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
"ธงทอง"แจงวัดโสมนัสไม่มีพื้นที่เก็บอาวุธ
นายธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวในฐานะไวยาวัจกรวัดโสมนัสราชวรวิหารว่า พระสาสนโสภณ เจ้าอาวาสวัดโสมนัสราชวรวิหาร มีความห่วงใยหลังแกนนำผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงระบุว่า ทหารใช้ศาลา 80 ปีของวัดโสมนัสฯ เป็นสถานที่เก็บอาวุธสงคราม ว่า วัดเป็นศาสนสถานที่เปิดให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปใช้สถานที่ในการพักผ่อน หรือปฏิบัติกิจของพุทธศาสนิกชน
ยืนยันว่าวัดโสมนัสฯ ไม่ได้ถูกใช้เป็นที่ซ่องสุมอาวุธของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งวัดไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง และไม่อนุญาตให้ใช้วัดเป็นพื้นที่ฝึกแถวหรือฝึกอาวุธ ไม่ว่าการชุมนุมจะเป็นคนกลุ่มหรือสีใด ก็จะมาขอใช้พื้นที่และห้องน้ำของวัดอยู่เสมอ ซึ่งวัดก็พร้อมเป็นที่พึ่ง ให้ความเมตตากับผู้ชุมนุมและประชาชนทุกฝ่าย ซึ่งไม่เพียงแต่ผู้ชุมนุม ทหารก็สามารถเข้ามาอาศัยพักผ่อนในพื้นที่วัดเช่นกัน
กทม.สั่งเก็บป้ายรณรงค์ “ยุบสภา”
นายถนอม อ่อนเกตพล โฆษกกรุงเทพมหนคร กล่าวว่า เป็นกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะทาง นปช.ไม่ได้ขออนุญาติทาง กทม. ตรงนี้เทศกิจสามารถไล่กเก็บได้ทั้งหมด เพราะถือเป็นป้ายเถื่อน ผิดพรบ.รักษาความสะอาดและ พรบ.ป้ายฯของ กทม. ซึ่งที่ผ่านมามีป้ายเถื่อนหลายชนิดจำนวนมากนับแสนที่เทศกิจไล่เก็บไปแล้ว และป้ายเรียกร้องยุบสภาฯของ นปช.ทางกทม.มีอำนาจสามารถเก็บได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งให้ นปช.ทราบ และถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด ส่วนการจะเอาผิดนั้น ต้องพิจารณาอีกทีเพราะป้ายของ นปช.ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง
“ชวนนท์”ข้องใจเพื่อไทยร้องยูเอ็น
นายชวนนนท์ โกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบเลยว่าพรรคเพื่อไทยยื่นประเด็นอะไร และรัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการอะไรที่ขัดต่อหลักกฎหมายของประเทศ แต่การดำเนินการเป็นเรื่องของบการรักษาความปลอดภัยให้กับส.ส.และส.ว.ดำเนินการโดยมีกฎหมายรองรับ ไม่ได้มีการกีดขวางการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด มีการเปิดช่องเข้าไปได้อยู่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า ยังมองไม่เห็นว่ามีประเด็นไหนที่ต้องไปร้องยูเอ็น และเชื่อว่าทางยูเอ็นเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทยดี