ASTVผู้จัดการรายวัน- ไม่พลิก! คะแนนกรรมการประเภทเลือกตั้ง เชียร์ “พยุงศักดิ์” ท่วมท้น วัดผลเลือกตัวประธาน 20 เม.ย.นี้ ลอยลำแน่นอน “สุรพร-อดิศักดิ์” ยังหวังรอคำพิพากษาจากศาลปกครองให้เลือกตั้งโมฆะ หลังยกคำร้องคุ้มครอง ส่งผลให้ส.อ.ท.เดินหน้าสรรหากรรมการเลือกตั้งได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค. เวลา 21.00 น. ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งยกข้อกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองอย่างใดๆ เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้อง ซึ่งประกอบด้วย นายสุรพร สิมะกุลธร ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ส.อ.ท.และพวกรวม 5 คน โดยเห็นว่าคำฟ้องไม่มีมูลและมีเหตุผลเพียงพอ หากศาลมีคำสั่งระงับการเลือกตั้งกรรมการของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ตามคำขอย่อมเป็นอุปสรรคต่อการบริหารงาน ส่งผลให้วานนี้ (23มี.ค.) ส.อ.ท.เดินหน้าจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งกรรมการส.อ.ท.ชุดใหม่ประเภทกรรมการเลือกตั้ง 226 คน
ทั้งนี้ ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจากสมาชิกที่มีสิทธิเลือกตั้ง 5,000 คน มาใช้สิทธิ์ประมาณ 2,600 คน ได้เทคะแนนให้นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานส.อ.ท.ที่เป็นผู้สมัครชิงประธานส.อ.ท. ซึ่งมีนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานส.อ.ท. ปัจจุบันให้การสนับสนุนถึง 2,000 คนส่งผลให้กรรมการเลือกตั้งที่จะเป็นฝั่งที่จะเข้าไปสนับสนุนนายพยุงศักดิ์มีมากกว่า 200 คน
หลังจากนั้นจึงจะให้ส.อ.ท.จังหวัดและกลุ่มอุตสาหกรรม 39 กลุ่ม เสนอกรรมการเลือกตั้งประเภทแต่งตั้งมาอีก 113คน รวมเป็นกรรมการส.อ.ท. 339 คนที่จะไปเลือกประธานส.อ.ท.วันที่ 20 เม.ย.นี้
นายสันติกล่าวว่า หากมีข้อเท็จจริงในภายหลังว่ากรรมการของส.อ.ท.ที่ได้รับเลือกตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลก็มีอำนาจเพิกถอนผลการเลือกตั้งได้ ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนของศาลอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรับฟ้องหรือไม่รับฟ้อง ซึ่งคงต้องพิจารณาว่าส.อ.ท.เป็นฝ่ายปกครองหรือไม่ แต่โดยส่วนตัวมองว่าส.อ.ท.ไม่ใช่ฝ่ายปกครอง ไม่ได้มีหน้าที่ออกใบอนุญาตเหมือนสภาทนายความ
ศาลจึงไม่น่าจะรับฟ้อง
นายพยุงศักดิ์กล่าวว่า ยังมั่นใจในความบริสุทธิ์การเลือกตั้ง เรื่องการบล็อกโหวต ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะสมาชิกแต่ละคนมีวุฒิภาวะสูงในการตัดสินใจ ส่วนการไต่สวนของศาลมีการให้ข้อมูลที่ชัดเจน มั่นใจการดำเนินการของ ส.อ.ท.ตามกฎระเบียบข้อบังคับ
นายสมมาต ขุนเศรษฐ รองเลขาธิการส.อ.ท. กล่าวว่า กำลังพิจารณาที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายฝ่ายนายสุรพรและนายอดิศักดิ์ เนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมาการกระทำหลายๆ อย่างส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ส.อ.ท. และบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก
นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธาน ส.อ.ท. ที่จับมือกับนายสุรพร กล่าวว่า ศาลปกครองได้ไต่สวน และยกคำร้อง ทำให้ยังมีการเลือกตั้งเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม คดียังไม่สิ้นสุด เพราะศาลปกครองจะยังพิจารณาเรื่องความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้ง หากสามารถชี้ให้เห็นถึงความไม่ยุติธรรม ศาลฯ ก็มีอำนาจเพิกถอนการเลือกตั้งได้ หากข้อเท็จจริงปรากฏก็น้อมรับคำพิพากษาของศาล
“สุดท้ายคำพิพากษาจะมีผลให้เลือกตั้งโมฆะหรือไม่ อยู่ที่คำวินิจฉัยของศาลฯ หากออกมาแล้วก็จะถือเป็นบรรทัดฐานการเลือกตั้งต่อไป แต่สำหรับตนและนายสุรพรที่ยื่นฟ้อง เพราะเห็นว่ากระบวนการเลือกตั้งส.อ.ท.ควรจะเปลี่ยนแปลง จากการที่มีการบล็อคโหวต ซึ่งเราได้เปิดห้องให้เห็นว่าให้สมาชิกเป็นคนกาเลือกตั้งเอง แต่ของเขามีการใส่ชื่อแทนได้”นายอดิศักดิ์กล่าว
นายสุรพร สิมะกุลธร ประธานกิติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ กล่าวว่า ผลที่ออกมา สามารถสะท้อนให้เห็นตัวประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ว่าจะออกมาอย่างไร เพราะเป็นที่ทราบก่อนการเลือกตั้งมีคะแนนจัดตั้งหรือบล็อกโหวต 1 คน ถือบัตรลงคะแนน 1 ใบ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ 1 คน อาจถือบัตรมากกว่า 1 ใบ อีกทั้งการแต่งตั้งอนุกรรมการสรรหากรรมการของ ส.อ.ท.ก็ให้การสนับสนุนนายพยุงศักดิ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค. เวลา 21.00 น. ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งยกข้อกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองอย่างใดๆ เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้อง ซึ่งประกอบด้วย นายสุรพร สิมะกุลธร ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ส.อ.ท.และพวกรวม 5 คน โดยเห็นว่าคำฟ้องไม่มีมูลและมีเหตุผลเพียงพอ หากศาลมีคำสั่งระงับการเลือกตั้งกรรมการของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ตามคำขอย่อมเป็นอุปสรรคต่อการบริหารงาน ส่งผลให้วานนี้ (23มี.ค.) ส.อ.ท.เดินหน้าจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งกรรมการส.อ.ท.ชุดใหม่ประเภทกรรมการเลือกตั้ง 226 คน
ทั้งนี้ ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจากสมาชิกที่มีสิทธิเลือกตั้ง 5,000 คน มาใช้สิทธิ์ประมาณ 2,600 คน ได้เทคะแนนให้นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานส.อ.ท.ที่เป็นผู้สมัครชิงประธานส.อ.ท. ซึ่งมีนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานส.อ.ท. ปัจจุบันให้การสนับสนุนถึง 2,000 คนส่งผลให้กรรมการเลือกตั้งที่จะเป็นฝั่งที่จะเข้าไปสนับสนุนนายพยุงศักดิ์มีมากกว่า 200 คน
หลังจากนั้นจึงจะให้ส.อ.ท.จังหวัดและกลุ่มอุตสาหกรรม 39 กลุ่ม เสนอกรรมการเลือกตั้งประเภทแต่งตั้งมาอีก 113คน รวมเป็นกรรมการส.อ.ท. 339 คนที่จะไปเลือกประธานส.อ.ท.วันที่ 20 เม.ย.นี้
นายสันติกล่าวว่า หากมีข้อเท็จจริงในภายหลังว่ากรรมการของส.อ.ท.ที่ได้รับเลือกตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลก็มีอำนาจเพิกถอนผลการเลือกตั้งได้ ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนของศาลอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรับฟ้องหรือไม่รับฟ้อง ซึ่งคงต้องพิจารณาว่าส.อ.ท.เป็นฝ่ายปกครองหรือไม่ แต่โดยส่วนตัวมองว่าส.อ.ท.ไม่ใช่ฝ่ายปกครอง ไม่ได้มีหน้าที่ออกใบอนุญาตเหมือนสภาทนายความ
ศาลจึงไม่น่าจะรับฟ้อง
นายพยุงศักดิ์กล่าวว่า ยังมั่นใจในความบริสุทธิ์การเลือกตั้ง เรื่องการบล็อกโหวต ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะสมาชิกแต่ละคนมีวุฒิภาวะสูงในการตัดสินใจ ส่วนการไต่สวนของศาลมีการให้ข้อมูลที่ชัดเจน มั่นใจการดำเนินการของ ส.อ.ท.ตามกฎระเบียบข้อบังคับ
นายสมมาต ขุนเศรษฐ รองเลขาธิการส.อ.ท. กล่าวว่า กำลังพิจารณาที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายฝ่ายนายสุรพรและนายอดิศักดิ์ เนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมาการกระทำหลายๆ อย่างส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ส.อ.ท. และบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก
นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธาน ส.อ.ท. ที่จับมือกับนายสุรพร กล่าวว่า ศาลปกครองได้ไต่สวน และยกคำร้อง ทำให้ยังมีการเลือกตั้งเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม คดียังไม่สิ้นสุด เพราะศาลปกครองจะยังพิจารณาเรื่องความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้ง หากสามารถชี้ให้เห็นถึงความไม่ยุติธรรม ศาลฯ ก็มีอำนาจเพิกถอนการเลือกตั้งได้ หากข้อเท็จจริงปรากฏก็น้อมรับคำพิพากษาของศาล
“สุดท้ายคำพิพากษาจะมีผลให้เลือกตั้งโมฆะหรือไม่ อยู่ที่คำวินิจฉัยของศาลฯ หากออกมาแล้วก็จะถือเป็นบรรทัดฐานการเลือกตั้งต่อไป แต่สำหรับตนและนายสุรพรที่ยื่นฟ้อง เพราะเห็นว่ากระบวนการเลือกตั้งส.อ.ท.ควรจะเปลี่ยนแปลง จากการที่มีการบล็อคโหวต ซึ่งเราได้เปิดห้องให้เห็นว่าให้สมาชิกเป็นคนกาเลือกตั้งเอง แต่ของเขามีการใส่ชื่อแทนได้”นายอดิศักดิ์กล่าว
นายสุรพร สิมะกุลธร ประธานกิติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ กล่าวว่า ผลที่ออกมา สามารถสะท้อนให้เห็นตัวประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ว่าจะออกมาอย่างไร เพราะเป็นที่ทราบก่อนการเลือกตั้งมีคะแนนจัดตั้งหรือบล็อกโหวต 1 คน ถือบัตรลงคะแนน 1 ใบ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ 1 คน อาจถือบัตรมากกว่า 1 ใบ อีกทั้งการแต่งตั้งอนุกรรมการสรรหากรรมการของ ส.อ.ท.ก็ให้การสนับสนุนนายพยุงศักดิ์