ASTVผู้จัดการรายวัน – ซันโยเมินเสื้อแดง เดินหน้าทุ่ม 30 ล้านบาท เปิดตัวกล้องวิดีโอตีตลาด จับกลุ่มสาวๆ เป็นหลัก มั่นใจดันแชร์เพิ่มเป็น 25% พร้อมส่งแอลซีดี ทีวี จับช่องว่างขนาด 24 นิ้ว ราคาเพียง 7,990 บาท รับบอลโลก ส่วนทั้งปีเชื่อรายได้รวมขยับเพิ่มเป็น 18% คิดเป็นมูลค่า 3,200 ล้านบาท หลังปีก่อนอกหัก เติบโตแค่หลักเดียว
นายสึโตมุ โมริโมโตะ ประธานกรรมการ บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางการเมืองของไทยที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ เพราะเราเป็นเพียงบริษัทจัดจำหน่ายเท่านั้น ซึ่งอย่างไรก็ตามก็ยังพร้อมเดินหน้าดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไป โดยตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปีนี้ที่ 3,200 ล้านบาท เติบโตราว 18% จากปีก่อนที่ทำได้ 2,700 ล้านบาท เติบโตเพียงหลักเดียวในรอบหลายปีที่ผ่านมา จากปกติจะเติบโตที่ประมาณ 14%
นายสุพจน์ วิรัตน์โยสินทร์ รองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวเสริมว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่าปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นนี้ จะไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจที่ทำอยู่ เชื่อว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
ดังนั้นทางซันโยจึงยังพร้อมในการทำตลาดและไม่มีการเลื่อนเปิดตัวสินค้าใหม่ที่จะเข้ามาช่วยดันรายได้ทั้งปีให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้
โดยแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ จะมีสินค้าอยู่ 2- 3 ตัว ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตให้บริษัท ได้แก่ กล้องวิดีโอแบบพกพา มีคุณสมบัติพิเศษที่เป็นทั้งกล้องภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้ในตัว
สินค้าอีกชนิดคือ แอลซีดีทีวี ในซีรีส์ VIZON ที่เริ่มเข้าสู่ตลาดมาตั้งแต่ปีก่อน ปีนี้จะรุกอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้จะเปิดตัวทั้งหมด 4 ขนาด คือ 19, 24, 32 และ 42 นิ้ว โดยไฮไลท์อยู่ที่ขนาด 24 นิ้ว ที่สามารถเป็นจอมอนิเตอร์ได้ วางจำหน่ายในราคาเพียง 7,990 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับซีอาร์ที ทีวีในขนาดที่เท่ากัน มั่นใจว่าจะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีงบประมาณจำกัด แต่ต้องการเป็นเจ้าของได้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลกในปีนี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับสูง และเชื่อว่าทั้งปีนี้บริษัทน่าจะมียอดขายแอลซีดี ทีวี โดยรวมไม่ต่ำกว่า 80,000 เครื่อง จากตัวเลขความต้องการของตลาดแอลซีดีทีวี ปีนี้ที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1-1.2 ล้านเครื่อง
ด้านนายพศณัฐ ทองเจือ รองผู้จัดการทั่วไป กล่าวถึงแผนการทำตลาดของกล้องวิดีโอแบบพกพาว่า ปีนี้เตรียมงบการตลาดไว้กว่า 30 ล้านบาท จากปีก่อนที่ใช้เพียง 25 ล้านบาท ในการรุกกล้องวิดีโอแบบพกพา โดยปีนี้จะเปิดตัวทั้งหมด 5 รุ่น พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานที่ทันสมัย เน้นจับกลุ่มผู้หญิงเป็นหลัก
“บริษัทฯมั่นใจว่า จากเดิมที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับสองที่ 17% รองจากโซนี่ ของตลาดกล้องวิดีโอในไทยมูลค่า 1 แสนเครื่องในปีที่ผ่านมา ปีนี้จะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้นเป็น 25% จากความต้องการของกล้องวิดีโอปีนี้ที่น่าจะอยู่ที่ 1.2 แสนเครื่องได้ ครองอันดับสองรองจากโซนี่อีกครั้ง หรือคาดว่าทั้งปีนี้จะมียอดขายจากกล้องวิดีโอแบบพกพาไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 20% จากปีก่อนทำได้ 240 ล้านบาท โดยเทียบแล้ว รายได้จากกล้องวิดีโอ คิดเป็น 10% ของรายได้รวมบริษัทในปีนี้” นายพศณัฐกล่าว
นายสึโตมุ โมริโมโตะ ประธานกรรมการ บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางการเมืองของไทยที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ เพราะเราเป็นเพียงบริษัทจัดจำหน่ายเท่านั้น ซึ่งอย่างไรก็ตามก็ยังพร้อมเดินหน้าดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไป โดยตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปีนี้ที่ 3,200 ล้านบาท เติบโตราว 18% จากปีก่อนที่ทำได้ 2,700 ล้านบาท เติบโตเพียงหลักเดียวในรอบหลายปีที่ผ่านมา จากปกติจะเติบโตที่ประมาณ 14%
นายสุพจน์ วิรัตน์โยสินทร์ รองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวเสริมว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่าปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นนี้ จะไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจที่ทำอยู่ เชื่อว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
ดังนั้นทางซันโยจึงยังพร้อมในการทำตลาดและไม่มีการเลื่อนเปิดตัวสินค้าใหม่ที่จะเข้ามาช่วยดันรายได้ทั้งปีให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้
โดยแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ จะมีสินค้าอยู่ 2- 3 ตัว ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตให้บริษัท ได้แก่ กล้องวิดีโอแบบพกพา มีคุณสมบัติพิเศษที่เป็นทั้งกล้องภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้ในตัว
สินค้าอีกชนิดคือ แอลซีดีทีวี ในซีรีส์ VIZON ที่เริ่มเข้าสู่ตลาดมาตั้งแต่ปีก่อน ปีนี้จะรุกอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้จะเปิดตัวทั้งหมด 4 ขนาด คือ 19, 24, 32 และ 42 นิ้ว โดยไฮไลท์อยู่ที่ขนาด 24 นิ้ว ที่สามารถเป็นจอมอนิเตอร์ได้ วางจำหน่ายในราคาเพียง 7,990 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับซีอาร์ที ทีวีในขนาดที่เท่ากัน มั่นใจว่าจะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีงบประมาณจำกัด แต่ต้องการเป็นเจ้าของได้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลกในปีนี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับสูง และเชื่อว่าทั้งปีนี้บริษัทน่าจะมียอดขายแอลซีดี ทีวี โดยรวมไม่ต่ำกว่า 80,000 เครื่อง จากตัวเลขความต้องการของตลาดแอลซีดีทีวี ปีนี้ที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1-1.2 ล้านเครื่อง
ด้านนายพศณัฐ ทองเจือ รองผู้จัดการทั่วไป กล่าวถึงแผนการทำตลาดของกล้องวิดีโอแบบพกพาว่า ปีนี้เตรียมงบการตลาดไว้กว่า 30 ล้านบาท จากปีก่อนที่ใช้เพียง 25 ล้านบาท ในการรุกกล้องวิดีโอแบบพกพา โดยปีนี้จะเปิดตัวทั้งหมด 5 รุ่น พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานที่ทันสมัย เน้นจับกลุ่มผู้หญิงเป็นหลัก
“บริษัทฯมั่นใจว่า จากเดิมที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับสองที่ 17% รองจากโซนี่ ของตลาดกล้องวิดีโอในไทยมูลค่า 1 แสนเครื่องในปีที่ผ่านมา ปีนี้จะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้นเป็น 25% จากความต้องการของกล้องวิดีโอปีนี้ที่น่าจะอยู่ที่ 1.2 แสนเครื่องได้ ครองอันดับสองรองจากโซนี่อีกครั้ง หรือคาดว่าทั้งปีนี้จะมียอดขายจากกล้องวิดีโอแบบพกพาไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 20% จากปีก่อนทำได้ 240 ล้านบาท โดยเทียบแล้ว รายได้จากกล้องวิดีโอ คิดเป็น 10% ของรายได้รวมบริษัทในปีนี้” นายพศณัฐกล่าว