ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – เทศบาลนครหาดใหญ่ปลุกเมืองท่องเที่ยวหาดใหญ่อีกครั้ง โดยการทุ่มงบประมาณกว่า 170 ล้านบาท สร้างกระเช้าลอยฟ้าให้นักท่องเที่ยวเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนเขาคอหงส์เทียบชั้นนานาชาติ ซึ่งจะเป็นจุดขายแห่งใหม่ที่ตีฝ่าวงล้อมภาวะท่องเที่ยวซบเซาและขาดแรงดึงดูด โดยจะสามารถเปิดให้บริการได้รับหน้าร้อนปีหน้า
สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่เป็นพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ที่รองรับการพักผ่อนหย่อนใจ การออกกำลังกาย และเพื่อการนันทนาการแก่ประชาชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาให้มีโครงการกระเช้าลอยฟ้าสู่เขาคอหงส์ เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นห้องรับแขกขนาดใหญ่ของทั้งคนใน จ.สงขลาและใกล้เคียง ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างชาติ นับเป็นโครงการที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะสร้างจุดขายใหม่ที่เด่นชัดให้แก่เมืองหาดใหญ่ และปรับตัวให้ทันการพัฒนาของประเทศเพื่อนบ้าน
นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ผลกระทบจากความไม่สงบ ทำให้เมืองหาดใหญ่เสียโอกาสทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผลกระทบด้านภาพลักษณ์และความมั่นใจในความปลอดภัยของการท่องเที่ยว ตลอดจนการขาดจุดเด่นใหม่ๆ ทำให้ประสบภาวะซบเซาเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องกลับมาทบทวนดูสภาพแวดล้อมทางการตลาดเพื่อกำหนดกลยุทธ์ที่จะพัฒนาตัวเองออกจากอุปสรรค
ดังนั้น เทศบาลนครหาดใหญ่จึงได้จัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาสวนสาธารณะประจำเมืองบริเวณเขาคอหงส์ และจัดทำโครงการกระเช้าลอยฟ้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ได้อนุมัติงบประมาณโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าบริเวณสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ จำนวน 170,600,000 บาท ซึ่งบริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด ทำการศึกษาและออกแบบโดยมี หจก.เพิ่มพูนวิศวกรรม เป็นผู้ชนะการประมูลก่อสร้าง ระยะที่1 เริ่มทำงานตั้งแต่ 13 ตุลาคม 2552-5 เมษายน 2554 รวมระยะเวลา 540 วัน
“โครงการนี้เป็นไฮไลต์ของหาดใหญ่ ที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินงานและกระบวนการออกแบบนาน เพราะต้องมีความปลอดภัยแก่ผู้ที่จะมาใช้บริการ แต่คนที่ทำงานด้านนี้ของประเทศไทยยังขาดแคลน จำเป็นต้องระดมข้อมูลจากต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ หรือกระทั่งในยุโรปและอเมริกา ซึ่งต้องใช้เวลานานพอสมควร และที่สำคัญที่สุดคือเรื่องงบประมาณ เมื่อเราพร้อมทุกอย่างเราก็สามารถทำได้ ตอนนี้เราก็ได้ผู้รับจ้างแล้ว ก็จะดำเนินการต้องใช้เวลาสร้างให้แล้วเสร็จเกือบ 2 ปี ซึ่งผู้รับเหมาก็ได้มาจากประเทศไทย ส่วนเทคโนโลยีก็เป็นเรื่องที่เขาจะต้องหามา” นายไพรกล่าวและว่า
โครงการดังกล่าวมี 2 เฟส เริ่มจากสถานีที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ด้านล่างของตัวเขาคอหงส์ สภาพเป็นสวนสาธารณะที่ทำการปรับปรุงพื้นที่เกือบทั้งหมดแล้ว ประกอบด้วย สนามเด็กเล่น อ่างเก็บน้ำ ศาลากลางน้ำ เกาะกลางน้ำ ศาลาวัฒนธรรมภาคใต้บนเกาะกลางน้ำ ค่ายลูกเสือ ฯลฯ ระดับพื้นที่โดยเฉลี่ยสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 20 เมตรโดยแนวเส้นทางกระเช้าลอยฟ้าระยะทางประมาณ 500 เมตร
สถานีที่ 2 เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่กวนอิม พื้นที่โดยทั่วไปเป็นป่ารกทึบ ระดับพื้นที่โดยเฉลี่ยสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 110 เมตร ระยะทางขึ้นเนินเขาผ่านป่ารกทึบประมาณ 220 เมตร
สถานีที่ 3 ตั้งอยู่บริเวณ ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำเมือง (พระพุทธมงคลมหาราช) พื้นที่โดยทั่วไปเป็นเนินเขาโปร่ง โดยรอบเนินเขาเป็นป่ารกทึบ แต่สามารถมองเห็นสภาพเมืองหาดใหญ่ได้เกือบทั้งเมือง ระดับพื้นที่โดยเฉลี่ยสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 153 เมตร ระยะทางประมาณ 535 เมตรเพื่อเข้าสู่สถานีที่ 4 อยู่บริเวณท้าวมหาพรหม ซึ่งมีระดับความสูงจากน้ำทะเลปานกลางประมาณ 220 เมตร
อย่างไรก็ตาม เทศบาลนครหาดใหญ่ได้เริ่มในเฟสที่ 2 ก่อน คือสถานีที่ 3-4 ตั้งแต่ยอดเขาคอหงส์-พระพรหม ที่มีความสูงชัน รถบัสขึ้นด้วยความยากลำบาก เพื่ออำนวยความสะดวกให้สามารถขึ้นไปชมภูมิทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งเป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งของเมือง
“เทศบาลฯ ออกแบบให้สวยงามและทันสมัยเหมือนกับที่สิงคโปร์ และจะมีการเก็บค่าโดยสาร เพื่อเป็นการระดมทุนในการดูแลรักษา และก็เพิ่มจุดขายให้แก่การท่องเที่ยว และโครงการต่อไปจะนำเงินมาพัฒนาเพิ่ม ทั้งการสร้างหอดูดาว หรือท้องฟ้าจำลองที่อยู่ใกล้ๆกัน” นายไพรกล่าว