ASTV ผู้จัดการรายวัน - “เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง” เดินหน้ายื่นก.ล.ต.ขอตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น “ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์” ในส่วนที่เหลือ 48.7% แล้ว เคาะราคาที่ 4 บาท/หุ้น เริ่ม 11 มี.ค. - 20 เม.ย. ชี้ปูนใหญ่ไปเขียวด้านแหล่งเงินทุน แม้ “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์”ไม่ยอมขายหุ้นที่ถืออยู่21.16% ให้ แต่หากคิดเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ พร้อมจ่ายให้ทันที
นายถาวร วิทรายคำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) (Q-CON) เปิดว่า บริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด (SCG) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Q-CON ได้ยื่นแบบคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247-4) เพื่อเสนอซื้อหุ้นสามัญของบริษัทต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทั้งนี้ SCG ผู้ทำคำเสนอซื้อ ยื่นคำเสนอซื้อ ในวันที่ 8 มี.ค.53 โดยมี บล.ทิสโก้ เป็นผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อ
สำหรับ วัตถุประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อ เพื่อลงทุนที่มุ่งการเติบโตของกิจการ โดยเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าแก่ลูกค้า เพื่อขยายตลาดพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของกิจการในอนาคตได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน SCG ถือหุ้นของ Q-CON อยู่ ณ 4 มี.ค. 53 จำนวน 204,813,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 51.203% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วและมีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ โดย SCGจะเสนอซื้อหุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดของกิจการจำนวน 195,186,800 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 48.797% ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 4 บาท ด้วยการชำระค่าตอบแทนในรูปเงินสด ระยะเวลารับซื้อรวมทั้งสิ้น 25 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.-20 เม.ย.53
ทั้งนี้ หากผู้ถือหุ้นสามัญทุกรายแสดงเจตนาขายหุ้นทั้งหมด ตามคำเสนอซื้อ จะคิดเป็นมูลค่า 780,747,200 บาท แต่ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ได้แสดงเจตนาที่จะไม่ขายหุ้นสามัญที่ถืออยู่ใน Q-CON จำนวน 84,627,680 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 21.16% ดังนั้นเงินทุนที่ผู้ทำคำเสนอซื้อจะต้องใช้การเสนอซื้อหลักทรัพย์ เท่ากับ 442,236,480 บาท โดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมจาก บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)
ดังนั้น SCC ได้ออกจดหมายเพื่อยืนยันว่า จะสำรองเงินไว้ 500 ล้านบาท ให้ผู้ทำคำเสนอซื้อ เพื่อให้ตลอดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อสำเร็จดังวัตถุประสงค์ และกรณีที่ LH แสดงเจตนาที่จะขายหุ้น Q-CON ที่ถืออยู่ จำนวน 84,627,680 หุ้น บริษัทยืนยันว่ามีแหล่งเงินทุนเพียงพอในการสำรองเงินทุนเพิ่มเติม
อย่าไงก็ตามเมื่อการทำคำเสนอซื้อแล้วเสร็จ ผู้ทำคำเสนอซื้อจะไม่เพิกถอนหุ้นของกิจการออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนถัดจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อ เว้นแต่กรณีที่ผู้ทำคำเสนอซื้อมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและมีผลใช้บังคับในขณะนั้น ส่วนนโยบายและแผนการบริหารกิจการ ผู้ทำคำเสนอซื้อมีแนวทางที่จะพัฒนากิจการในด้านการผลิตและการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงภาระทางการเงิน โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การบริหาร การตลาด การขาย และการพัฒนาพนักงานและ องค์กร
นอกจากนี้ผู้ทำคำเสนอซื้อไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในนโยบายหรือแผนการประกอบธุรกิจ หลักของกิจการ รวมถึงวัตถุประสงค์หลักในการประกอบธุรกิจ การจำหน่ายสินทรัพย์หลัก ภายในระยะเวลา12 เดือนถัดจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อ เว้นแต่มีหรือคาดว่าจะมีเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญซึ่ง อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของกิจการ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องต่อภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขัน ของตลาดในอนาคต
นายถาวร วิทรายคำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) (Q-CON) เปิดว่า บริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด (SCG) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Q-CON ได้ยื่นแบบคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247-4) เพื่อเสนอซื้อหุ้นสามัญของบริษัทต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทั้งนี้ SCG ผู้ทำคำเสนอซื้อ ยื่นคำเสนอซื้อ ในวันที่ 8 มี.ค.53 โดยมี บล.ทิสโก้ เป็นผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อ
สำหรับ วัตถุประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อ เพื่อลงทุนที่มุ่งการเติบโตของกิจการ โดยเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าแก่ลูกค้า เพื่อขยายตลาดพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของกิจการในอนาคตได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน SCG ถือหุ้นของ Q-CON อยู่ ณ 4 มี.ค. 53 จำนวน 204,813,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 51.203% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วและมีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ โดย SCGจะเสนอซื้อหุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดของกิจการจำนวน 195,186,800 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 48.797% ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 4 บาท ด้วยการชำระค่าตอบแทนในรูปเงินสด ระยะเวลารับซื้อรวมทั้งสิ้น 25 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.-20 เม.ย.53
ทั้งนี้ หากผู้ถือหุ้นสามัญทุกรายแสดงเจตนาขายหุ้นทั้งหมด ตามคำเสนอซื้อ จะคิดเป็นมูลค่า 780,747,200 บาท แต่ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ได้แสดงเจตนาที่จะไม่ขายหุ้นสามัญที่ถืออยู่ใน Q-CON จำนวน 84,627,680 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 21.16% ดังนั้นเงินทุนที่ผู้ทำคำเสนอซื้อจะต้องใช้การเสนอซื้อหลักทรัพย์ เท่ากับ 442,236,480 บาท โดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมจาก บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)
ดังนั้น SCC ได้ออกจดหมายเพื่อยืนยันว่า จะสำรองเงินไว้ 500 ล้านบาท ให้ผู้ทำคำเสนอซื้อ เพื่อให้ตลอดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อสำเร็จดังวัตถุประสงค์ และกรณีที่ LH แสดงเจตนาที่จะขายหุ้น Q-CON ที่ถืออยู่ จำนวน 84,627,680 หุ้น บริษัทยืนยันว่ามีแหล่งเงินทุนเพียงพอในการสำรองเงินทุนเพิ่มเติม
อย่าไงก็ตามเมื่อการทำคำเสนอซื้อแล้วเสร็จ ผู้ทำคำเสนอซื้อจะไม่เพิกถอนหุ้นของกิจการออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนถัดจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อ เว้นแต่กรณีที่ผู้ทำคำเสนอซื้อมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและมีผลใช้บังคับในขณะนั้น ส่วนนโยบายและแผนการบริหารกิจการ ผู้ทำคำเสนอซื้อมีแนวทางที่จะพัฒนากิจการในด้านการผลิตและการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงภาระทางการเงิน โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การบริหาร การตลาด การขาย และการพัฒนาพนักงานและ องค์กร
นอกจากนี้ผู้ทำคำเสนอซื้อไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในนโยบายหรือแผนการประกอบธุรกิจ หลักของกิจการ รวมถึงวัตถุประสงค์หลักในการประกอบธุรกิจ การจำหน่ายสินทรัพย์หลัก ภายในระยะเวลา12 เดือนถัดจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อ เว้นแต่มีหรือคาดว่าจะมีเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญซึ่ง อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของกิจการ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องต่อภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขัน ของตลาดในอนาคต
