xs
xsm
sm
md
lg

แกะรอยโจรใต้บึ้มแบงก์นราฯอืด "CCTV"ริมถนนห่วยใช้การไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คดีคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณธนาคารทั้ง 7 จุดยังอืด หลังเรียกภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารต่างๆ ไปตรวจสอบความชัดเจนเพื่อหาเบาะแส แต่ต้องผิดหวังเนื่องจากกล้องใช้การไม่ได้ ตรวจสอบพบมีทั้งกล้องดี-เสียห้อยโชว์ตามเสาไฟฟ้าริมถนนอยู่เช่นเดิม ด้าน มท.3 ยันรัฐบาลแก้ปัญหาไฟใต้ถูกทางแล้ว ขณะที่ กอ.รมน.ภาค 4 ยอมรับช่วงนี้สถิติบึ้มใต้สูงขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามเบาะแสกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดธนาคารในพื้นที่ 3 อำเภอของ จ.นราธิวาสทั้งหมด 7 จุดเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า วานนี้ (3 มี.ค.) คดียังไม่มีความคืบหน้ามากนัก โดยเจ้าหน้าที่ชุดกองวิทยาการพิสูจน์หลักฐาน ยังคงมุ่งไขเบาะแสของกลุ่มคนร้ายจากการนำภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV) ของธนาคารที่ประสบเหตุทั้ง 3 อำเภอ คือ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาตรวจสอบเพิ่มเติมอยู่ เพื่อที่จะตรวจหาความชัดเจนของภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายไว้ได้ แต่ก็ยังไม่เป็นผล

ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในเขตเทศบาลต่างๆ ทั้งจากจังหวัด, เทศบาล และตำรวจ ก็ยังไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ทั้งหมดเช่นกัน เนื่องจากใช้การได้ในบางจุดเท่านั้น ขณะที่บางจุดพบว่ากล้องวงจรปิดเสียโดยที่ยังไม่มีการซ่อมแซม จึงทำให้จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่จึงยังไม่ได้ที่จะสะเก็ตซ์ภาพของคนร้ายเพื่อออกหมายจับได้แต่อย่างใด แต่คาดว่าผลความคืบหน้าอย่างเป็นทางการน่าจะทราบในวันนี้ (4 มี.ค.)

ส่วนทางด้านผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุร้ายดังกล่าวยังคงทำให้ประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลในพื้นที่เกิดเหตุทั้ง 7 จุด ส่วนใหญ่มีความรู้สึกกังวลในความปลอดภัย และมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ใช้การไม่ได้อีกครั้งว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ได้ให้ความสนใจ พร้อมกับเรียกร้องให้มีการซ่อมแซมและติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทุกจุดในพื้นที่สาธารณะ ชุมชน และเน้นให้กล้องทุกตัวสามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัย รวมถึงใช้ตรวจสอบหลังจากเกิดเหตุความไม่สงบขึ้น

**ปัตตานีสั่งเช็คกล้อง CCTV ตามตู้ ATM ทั่วเมือง

ส่วนที่ จ.ปัตตานี หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดธนาคารหลายจุดในพื้นที่ จ.นราธิวาส ก็ได้มีการสั่งการให้หน่วยราชการ ธนาคาร โดยเฉพาะเทศบาลเมืองปัตตานี ซึ่งมีกล้องวงจรปิดอยู่กว่า 100 ตัวให้มีการตรวจเช็คความพร้อมและสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม จากเหตุที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้ส่งผลทำให้ประชาชนที่มาใช้บริการตามธนาคารโดยเฉพาะตามตู้ ATM ที่มีอยู่ทั่วเขตเทศบาลกว่า 10 จุดเริ่มมีความรู้สึกหวาดผวาและกังวลเกรงจะได้รับลูกหลงหากมีเหตุระเบิดเกิดขึ้น และยังต้องใช้ความระวัดระวังเป็นหลายเท่าตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิธีการสังเกต ตรวจสอบโดยรอบบริเวณด้วยสายตาก่อนที่จะเข้าไปใช้บริการกดเงิน และหากตู้ใดรู้สึกไม่มั่นใจ หรือเกิดความระแวงมากก็จะหันไปใช้ตู้อื่นในทันที

ขณะที่ พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้สั่งการให้จัดกำลัง เจ้าหน้าที่สายตรวจ คอยออกลาดตระเวน และให้มีการสำรวจตามบริเวณโดยรอบธนาคารและตู้ ATM ทุก 30 นาที ตลอดจนจัดเก็บถังขยะ และโต๊ะเก้าอี้หินอ่อน ซึ่งก่อนนี้จะตั้งไว้คอยให้บริการเพื่อให้เกิดพื้นที่โลงและง่ายต่อการสังเกตสิ่งของผิดปกติ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัย

**มท.3 ยันรัฐบาลดับไฟใต้ถูกทางแล้ว

นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร (อสม.) ได้พยายามทำงานอย่างเต็มที่แล้วแต่ผู้ก่อความไม่สงบยังฉวยโอกาสก่อเหตุ โดยมีเจตนามุ่งหวังให้เป็นข่าวใหญ่มากกว่ามุ่งทำให้คนบาดเจ็บและเสียชีวิต

“ความจริงเหตุการณ์ใหญ่ๆ มันหยุดไปแล้วร่วมปี จู่ๆ ก็โผล่มาอีกในช่วงนี้ ซึ่งน่าจะเป็นการจงใจปลุกข่าว ขณะนี้หน่วยงานด้านการข่าวกำลังตรวจสอบอยู่ว่าเป็นเรื่องการก่อความไม่สงบ หรือเป็นเรื่องการเมือง เพราะในเมื่อกรุงเทพฯ มีเรื่องการเมือง ภาคใต้ก็อาจจะมีเรื่องการเมืองเกิดขึ้นได้” นายถาวรกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีส่วนเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองใหญ่ที่เพิ่งลงไปทำกิจกรรมในพื้นที่หรือไม่ นายถาวรกล่าวว่า ไม่ขอพูดถึงเรื่องพรรคการเมือง แต่เจตนาของผู้ก่อเหตุคือการดิสเครดิตรัฐบาล

เมื่อถามว่า การเกิดเหตุระเบิด 7 จุดจะทำให้รัฐบาลถูกวิจารณ์ว่าแก้ปัญหาไม่ถูกทางในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ถูกทาง ซึ่งในภายใน 2-3 วันนี้จะเปิดแถลงข่าวที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อสรุปสถานการณ์ และความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงที่พบผ่านมา

**สุเทพวอนอย่าโยงงดใช้ GT200 กับบึ้ม 7 จุด

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์โจรใต้ลอบวางระเบิดธนาคาร 7 จุดที่ จ.นราธิวาสทำไมเป้าหมายถึงพุ่งมาที่ธนาคารว่า ยังตอบให้ตรงจุดทีเดียวคงไม่ได้ แต่บังเอิญว่าคนที่คิดร้ายบางทีความคิดอาจจะคล้าย ๆ กัน ก็ไปลงในช่องทางใกล้กัน

เมื่อถามว่า มีเสียงสะท้อนกลับมาจากบางส่วนว่าเหตุระเบิดที่มากขึ้นช่วงนี้เพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำเครื่องจีที 200 มาใช้ในการตรวจสอบได้ ทำให้การตรวจระเบิดพร่องไป นายสุเทพ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องเครื่องจีที 200 อย่าเอาไปโยงเป็นเรื่องใหญ่เลย มันเป็นประเด็นเล็กประเด็นหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่จะมีเครื่องมือหรือไม่เขาก็พยายามทำหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยให้แก่บ้านเมือง และเมื่อวันที่ 2 มี.ค.นายกฯก็ได้สั่งการในที่ประชุม ครม.แล้วว่า ต้องหาเครื่องอื่น แก้ไขปัญหาด้วยวีธีอื่นมาทดแทนถ้าเครื่องจีที 200 ใช้ไม่ได้

**กอ.รมน.ภาค 4รับสถิติบึ้มใต้สูงขึ้น

พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4 ) กล่าวถึงเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า กำลังอยู่ในการติดตามพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่ได้วิเคราะห์หลายสาเหตุ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าปกติเหตุลอบวางระเบิดจะมีประมาณเดือนละ 2 ครั้งแต่ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังผลการตรวจประสิทธิภาพเครื่องจีที 200 แล้วพบว่ามีการลอบวางระเบิดกว่า 27 ครั้ง มีทั้งเก็บกู้ได้และเกิดระเบิด และเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ก็มีการวางระเบิด 9 จุด เก็บกู้ได้ 4 จุด และเกิดระเบิด 5 จุด เป็นการตั้งเวลาระเบิดไว้ ซึ่งในวันที่ 3 มี.ค.นี้ก็มีการวางระเบิดอีก 2 จุด ถือว่าเป็นสถิติที่สูง

เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์ว่าเหตุใดจึงมีเป้าหมายที่ธนาคารในพื้นที่ภาคใต้ พ.อ.บรรพต กล่าวว่า กอ.รมน.ภาค 4 กำลังสำรวจข่าวย้อนหลังว่าทำไมจึงเชื่อมโยง แต่ดูแล้วกลุ่มคนร้ายไม่ต้องการมุ่งหมายเอาชีวิต แต่เป็นการมุ่งต่อสัญลักษณ์ด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ กลุ่มคนร้ายไม่ใช่กองกำลังขนาดใหญ่ แต่มีการนัดหมายกันทำงานมุ่งไปที่สัญลักษณ์ เช่น ครั้งที่แล้วระเบิดตลาดที่หน้าเขียงหมู ครั้งนี้ที่ธนาคาร อย่างไรก็ตาม ข้อมูลด้านการข่าวมีกว้าง ไม่เจาะจงเฉพาะที่ ซึ่งทุกเป้าหมายสามารถเกิดได้ในทุกพื้นที่ชุมชน ทั้งนี้ ทุกเครื่องมือไม่สามารถได้ผลดีเท่ากับหูตาของประชาชน

**ยันไม่เกี่ยวข้องการเมืองระดับชาติแน่

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นงัดข้อรัฐบาลหลังเชื่อผลวิทยาศาสตร์ว่าเครื่องจีที 200 ไร้ประสิทธิภาพ พ.อ.บรรพต กล่าวว่า ไม่ แล้วแต่จะมอง เราบอกได้เพียงว่าสถิติสูงขึ้นหลังผลสอบจีที 200 ออกมาเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจเข้ม คุมเข้ม และระวังเข้ม เราไม่มีห้วงเวลา ไม่มีวงรอบ เขาสามารถก่อเหตุได้ทุกโอกาส ดังนั้น เราต้องมีความพร้อมตลอดเวลา

ส่วนที่มีหลายคนมองว่าระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ทหารทำเอง พ.อ.บรรพต กล่าวว่า ไม่มีทาง เพราะเป็นระเบิดแสวงเครื่อง มีการประกอบวัตถุระเบิดแบบหลากหลาย ไม่ใช่ระเบิดที่ใช้ในราชการ

"เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่แน่นอน เราไม่มีเหตุผลอะไรที่ไปทำอย่างนั้น เพราะทหารในพื้นที่ก็ถูกตำหนิด้วยว่าทำไมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมา แม้ว่าระเบิด 9 จุด จะสามารถแก้ไขได้ 4 จุด แต่อีก 5 จุดเกิดระเบิดขึ้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองทั้งระดับท้องถิ่น ระดับชาติ เพราะจากการข่าวเราไม่พบว่าการเมืองเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง” โฆษกกอ.รมน.ภาค 4 ระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น