ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – โจรใต้ฉวยโอกาสป่วน! ซ้ำเติมหลังยึดทรัพย์ "นช.แม้ว" ลอบวางระเบิดธนาคารในนราฯ 7 จุดเจ็บ 2 รายเผยเป็นระเบิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยนาฬิกาปลุกตั้งเวลาหวังให้เกิดเหตุไล่เลี่ยกัน แต่กู้ได้myo 3 จุดก่อนบึ้มในเวลาธนาคารเปิดทำการ "ผบ.พตท.-ผู้ว่าฯนราธิวาส-นายกฯ" ประสานเสียงยันไม่เกี่ยวข้องการเมือง-ระเบิดในกรุงเทพ ขณะที่"สุเทพ" ชี้เป็นเรื่องปกติ
วานนี้ (2 มี.ค.) กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ก่อเหตุลอบวางระเบิดแสวงเครื่องสถาบันการเงิน ในพื้นที่ จ.นราธิวาสในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งหมด 7 แห่งด้วยกัน โดยแยกเป็นเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส 3 จุด, เขตเทศบาลตำบลตันหยังมัส 2 จุด และเขตเทศบาลสุไหงโก-ลก 2 จุด โดยเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยนาฬิกา ซึ่งร้ายได้ลักลอบไว้ในกล่องเหล็กและท่อแป๊บขนาด 2x6 นิ้ว ก่อนตั้งเวลาปลุกจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอลทั้ง 7 จุดในเวลาไล่เลี่ยทิ้งช่วงห่างกันประมาณ 5 นาที ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.35-09.00 น.ทำให้มีเหตุระเบิดขึ้น 4 จุด ทรัพย์สินได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย แต่เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ได้ 3 จุดก่อนที่ระเบิดจะทำงานในช่วงที่ธนาคารเปิดเวลาทำการ
**คนร้ายป่วนนราฯวางบึ้มธนาคาร 7 จุด
โดยจุดที่ 1 เกิดเหตุระเบิดเวลาประมาณ 06.35 น.ที่บริเวณตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน สาขาตันหยงมัส ในเขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ แรงระเบิดทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ นายชาญวิทย์ เอื้อปัญญาศิลป์ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 10 ถนนเทศบาล 8 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณหน้าขาซ้ายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลระแงะ
จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บกู้ระเบิดบริเวณตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย สาขาตันหยงมัส ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยการใช้ปืนฉีดน้ำยิงทำลายได้สำเร็จ
จุดที่ 3 เกิดเหตุระเบิดในเวลาประมาณ 06.45 น.ที่บริเวณบันไดชั้น 2 ข้างตู้เอทีเอ็มหน้าประตูทางเข้าธนาคารออมสิน สาขาอำเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่ถนนพิชิตบำรุง เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
จุดที่ 4 เกิดระเบิดด้านหลังของธนาคารออมสิน ที่เดียวกับจุดที่ 3 อยู่ติดกับร้านเสริมสวย เลขที่ 66/2 ถนนวรคามพิพิธ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส แรงระเบิดทั้ง 2 แห่งทำให้ตัวอาคาร กระจก กันสาด ได้รับความเสียหายเท่านั้น
จุดที่ 5 เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย ข้างสำนักงานเทศบาลเมืองนราธิวาส แรงระเบิดทำให้นางพร้อม ศิริพร อายุ 46 ปี พนักงานของเทศบาลเมืองนราธิวาส ได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพกและกลางหลัง โดยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ในเวลาต่อมา
จุดที่ 6 เวลาประมาณ 07.55 น. เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ระเบิดซึ่งตั้งเวลาระเบิดไวที่ 09.00 น.ได้ที่บริเวณธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
และจุดที่ 7 เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ระเบิดหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งตั้งเวลาระเบิด 09.00 น.เช่นเดียวกันได้สำเร็จก่อนที่ระเบิดจะทำงาน
**เผยเหตุเกิดลักษณะเดียวกับ 31 ส.ค.49
ทั้งนี้ เหตุการณ์ลอบวางระเบิดแบงก์พาณิชย์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งจำนวน 22 แห่ง ในเขตเทศบาลนครยะลา และเขตเทศบาลเมืองเบตง เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2549 ซึ่งตรงกับวันชาติของประเทศมาเลเซีย ในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายสิบราย เนื่องเป็นเวลาที่อยู่ระหว่างธนาคารกำลังเปิดให้บริการลูกค้าและทำให้การทำธุรกรรมการเงินในวันนั้นต้องหยุดชะงักทุกแห่งชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
**ผบก.นราฯ เผยได้เบาะแสมือบึ้มแล้ว
พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวถึงการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ลอบวางระเบิดสถาบันการเงินใน จ.นราธิวาสครั้งนี้ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดกองวิทยาการพิสูจน์หลักฐานได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะบริเวณหน้าธนาคารออมสิน สาขาตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้ก่อเหตุเป็นชาย 1 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมสเก็ตซ์ใบหน้าเพื่อขอออกหมายจับ
สำหรับการดูแลความปลอดภัยหลังเกิดเหตุนั้น ผลก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกจุด ทุกอำเภอเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะการตั้งจุดตรวจลอยและเสริมกำลังเข้าดูแลตามสถานที่ราชการ สถานที่ชุมชน อีกทั้งให้จัดกำลังคอยซุ่มดูแลความปลอดภัยไว้บริเวณเป้าหมายเพื่อคอยสังเกตสิ่งผิดปกติ
**ผวจ.นราฯยันระเบิดแบงก์ไม่เกี่ยวการเมือง
นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเมือง เพราะในพื้นที่ จ.นราธิวาส เองไม่มีการเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าว ส่วนการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากสถานที่ต่างๆ ซึ่งในบางจุดเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสบ้างแล้วเนื่องจากมีพยานบุคคลให้ปากคำ ส่วนธนาคารต่างๆ ในพื้นที่หลังเกิดเหตุขึ้นก็ยังคงให้บริการตามปกติมีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เข้ามาดูแลความปลอดภัยเพิ่มขึ้นเท่านั้น
นายรุ่งวิทย์ ทิตย์สีแสง ประธานชมรมธนาคาร อ.สุไหงโก-ลก กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารทั้ง 9 แห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้มีความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยใน 3 มาตรการ คือ มีเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยประจำธนาคาร มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด และเฝ้าสังเกตวัตถุหรือบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยที่เข้ามาในบริเวณธนาคาร ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวนั้นจึงทำให้ในวันนี้เจ้าหน้าที่สามารถเข้ามาเก็บกู้ระเบิดได้
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางธนาคารก็จะต้องเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นโดยเฉพาะการจอดรถจักรยานยนต์ของผู้มาใช้บริการซึ่งทุกคันจะต้องเปิดเบาะเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่มาใช้บริการ
**ปธ.แบงก์นราฯขอกำลัง จนท.ดูแลเข้มขึ้น
ด้านนายสุธรรม ว่องไว ประธานชมรมธนาคารจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า เป้าหมายที่คนร้ายลอบวางระเบิดธนาคารและตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ จ.นราธิวาสทั้งหมด 7 จุดนั้นน่าจะเป็นการก่อกวนเพื่อสร้างสถานการณ์มากกว่ามุ่งเอาชีวิตและทรัพย์สิน ล่าสุดพบว่าธนาคารทุกแห่งในพื้นที่ยังคงเปิดทำการปกติ เนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากอยู่ในช่วงต้นเดือนและเพิ่งเปิดทำการวันแรกหลังจากหยุดยาว 3 วัน ยกเว้นที่ธนาคารออมสิน สาขา อ.เมืองนราธิวาส ที่ถูกระเบิดรุนแรงทำให้กระจกแตกและหลังคาได้รับความเสียหายต้องปิดทำการชั่วคราวอย่าง 1-2 วันเพื่อทำการซ่อมแซมคาดว่ามูลค่าความเสียหายประมาณ 300,000 บาทก่อนกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธนาคารส่วนใหญ่จะยังคงเปิดทำการต่อ แต่ไม่ประมาทได้เพิ่มการดูแลความปลอดภัยให้รัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รปภ.ของธนาคารที่ต้องเข้มงวดและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมขอกำลังสนับสนุนจากฝ่ายความมั่นคงเข้าตรวจสอบรวมถึงการตรวจสอบพาหนะลูกค้าที่เข้ามาติดต่องานธนาคารให้เข้มงวดมากขึ้น
**ผบ.พตท.ชี้ไม่เกี่ยวกับระเบิดในกรุงเทพฯ
ด้าน พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสม พลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ปกติแล้วในการดูแลรักษาความปลอดภัยตามเขตเมืองต่างๆ หรือภายในเขตชุมชนต่างๆ ทางหน่วยงานด้านความมั่นในพื้นที่มีแผนในการเฝ้าระวังป้องกันและมีการปฏิบัติอยู่เป็นประจำ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาสนั้นมีบางส่วนที่ระเบิด และบางส่วนที่เก็บกู้ไว้ได้ ซึ่งตนสันนิษฐานว่าการปฏิบัติของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้น่าจะเป็นการสร้างความปั่นป่วน เพื่อให้เกิดเหตุความวุ่นวายให้ได้ เพราะในช่วงที่เกิดเหตุระเบิดไม่มีประชาชนไปใช้บริการของตู้ ATM และธนาคาร
เพราะฉะนั้น เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส กลุ่มคนร้ายต้องการที่สร้างเหตุร้ายขึ้น ไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงการการก่อเหตุระเบิดป่วน ในพื้นที่กรุงเทพฯและ จ.สมุทรปราการแต่อย่างใด ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเองได้สั่งให้ทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้ง 4 อำเภอของ จ.สงขลา ไปดูคอยดูแลรักษาความปลอดภัยตู้ ATM ธนาคาร หน่วยงาน และสถานที่ราชการต่าง ๆ อย่างเข้มงวดแล้ว
**สั่งใช้จีที 200 ตรวจระเบิดรอบแบงก์ยะลา
สำหรับในเขตเทศบาลนครยะลานั้น ได้สั่งการให้ พ.ท.ยุทธนาม เพ็ชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ที่ 11 อ.เมืองยะลา ให้เจ้าหน้าที่ทหารใช้เครื่องจีที 200 เดินตรวจตรารอบ ๆ ธนาคาร พร้อมทั้งทำการตรวจตรายานพาหนะ ทุกชนิดที่ขับผ่าน และเข้ามาจอดในบริเวณด้านหน้าธนาคาร
ส่วนในระยะหลังที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่หันไปก่อเหตุลอบทำร้าย เจ้าหน้าที่ในระดับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ เช่น ลอบวางระเบิดรถยนต์ ผกก.สภ.บันนังสตา และ ผกก.สภ.รามัน นั้นตนได้กำชับ และแจ้งเตือนไปยังทุกหน่วยงานในพื้นที่ให้มีการเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งในขณะตนยังไม่รับรายงานแต่อย่างใด
**นายกฯไม่เชื่อเกี่ยวข้องบึ้ม ธ.กรุงเทพ
ทางด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดธนาคาร 7 จุดใน จ.นราธิวาสว่า ได้รับรายงานแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าในช่วงนี้เป็นช่วงที่ผู้ก่อการจะนำรูปแบบของระเบิดมาใช้มากยิ่งขึ้น
ส่วนการก่อเหตุระเบิดหลายจุดทั้งในกรุงเทพฯและพื้นที่ภาคใต้จะกระทบกับความเชื่อมั่นกับผู้ใช้บริการหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเรื่องเชิงสัญลักษณ์ ส่วนจะเป็นเรื่องเดียวกันหรือเปล่าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผลกระทบ
เมื่อถามว่า ในกรุงเทพฯทำในเชิงสัญลักษณ์ว่า เป็นธุรกิจที่เกี่ยวพันกับประธานองคมนตรี แต่ภาคใต้ทำเชิงสัญลักษณ์ว่า เป็นธุรกิจธนาคารของรัฐ มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมยังไม่คิดว่าเชื่อมโยงกัน"
**"สุเทพ"ชี้บึ้มป่วนนราฯ 7 จุดเรื่องปกติ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์เดียวกันว่า เป็นเรื่องปกติที่จะต้องแก้ไขกันต่อไป ส่วนที่คนร้ายเปลี่ยนเป้าหมายก่อเหตุมาเป็นธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสินนั้น นายสุเทพ กล่าวเพียงว่า "ไม่เป็นไรก็ต้องดำเนินการแก้ปัญหากันไป"
**จนท.ปัตตานีคุมเข้มธนาคารทุกแห่ง
ภายหลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดธนาคารหลายจุดในพื้นที่ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองใน จ.ปัตตานี ได้ระดมกำลังออกดูแลความปลอดภัยบริเวณด้านหน้าและภายในของธนาคารทุกแห่งในพื้นที่ 12 อำเภอ พร้อมทั้งมีการตรวจค้นรถทุกชนิดที่เข้าออกหรือจอดด้านหน้าธนาคารและมีการเอ็กซ์เรย์ผู้ที่เข้ามาใช้บริการธนาคารอย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ ได้ประสานธนาคารทุกแห่งให้มีการตรวจสอบกล้องทีวีวงจรปิดให้สามารถใช้การได้ทุกตัว เพื่อสามารถจับภาพบุคคลต้องสงสัยหรือคนร้ายที่มาก่อเหตุทั้งในตัวอาคาร ด้านหน้า หรือบริเวณธนาคาร เนื่องจากยังคงมีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบที่พยายามจะก่อเหตุอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
**ผบก.ปัตตานีสั่งจับตาแกนนำ RKK ป่วนซ้ำ
พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายสนธิกำลังร่วมดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดที่สุด ทั้งสถานที่ราชการ เอกชน ธนาคาร ตลาด รวมไปถึงแหล่งชุมชนทุกแห่ง
"เนื่องจากหน่วยข่าวแจ้งเตือนว่า กลุ่มของนายอาหามะ จาจ้า แกนนำ RKK ระดับสูงในพื้นที่ได้ออกมาเคลื่อนไหวพร้อมกับกลุ่มแนวร่วมประมาณ 20 คนพร้อมมีอาวุธและวัตถุระเบิดจำนวนหลายลูกเตรียมที่จะก่อวินาศกรรมในพื้นที่ในหลายอำเภอ จึงได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด และตรวจค้นเป้าหมายทุกจุด โดยเฉพาะตามจุดตรวจทุกแห่งให้มีการตรวจค้นอย่างเข้มงวดที่สุด ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้หญิง รถทุกคันที่สัญจรไปมาบนถนน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการก่อเหตุและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่" ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กล่าว
**ตรวจเข้มทุกสถาบันการเงินหาดใหญ่
เช่นเดียวกับที่ จ.สงขลา ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ระดมกำลังออกรักษาความปลอดภัยธนาคารกรุงเทพฯทั้ง 5 สาขาในเมืองหาดใหญ่ รวมทั้งธนาคารอื่นๆ และสถาบันการเงินทุกแห่งตั้งแต่ก่อนเวลาเปิดบริการโดยประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารตรวจสอบสิ่งผิดปกติบริเวณรอบๆ ธนาคารทั้งรถจักรยานยนต์ และตรวจบุคคล
ขณะที่ธนาคารกรุงเทพฯ ในเมืองหาดใหญ่ทุกสาขาต่างติดประกาศให้ลูกค้าที่มาใช้บริการเปิดเบาะรถจักรยานยนต์ทุกคัน เพื่อป้องกันเหตุร้ายทั้งที่เชื่อมโยงกับการเมือง และสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
วานนี้ (2 มี.ค.) กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ก่อเหตุลอบวางระเบิดแสวงเครื่องสถาบันการเงิน ในพื้นที่ จ.นราธิวาสในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งหมด 7 แห่งด้วยกัน โดยแยกเป็นเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส 3 จุด, เขตเทศบาลตำบลตันหยังมัส 2 จุด และเขตเทศบาลสุไหงโก-ลก 2 จุด โดยเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยนาฬิกา ซึ่งร้ายได้ลักลอบไว้ในกล่องเหล็กและท่อแป๊บขนาด 2x6 นิ้ว ก่อนตั้งเวลาปลุกจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอลทั้ง 7 จุดในเวลาไล่เลี่ยทิ้งช่วงห่างกันประมาณ 5 นาที ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.35-09.00 น.ทำให้มีเหตุระเบิดขึ้น 4 จุด ทรัพย์สินได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย แต่เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ได้ 3 จุดก่อนที่ระเบิดจะทำงานในช่วงที่ธนาคารเปิดเวลาทำการ
**คนร้ายป่วนนราฯวางบึ้มธนาคาร 7 จุด
โดยจุดที่ 1 เกิดเหตุระเบิดเวลาประมาณ 06.35 น.ที่บริเวณตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน สาขาตันหยงมัส ในเขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ แรงระเบิดทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ นายชาญวิทย์ เอื้อปัญญาศิลป์ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 10 ถนนเทศบาล 8 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณหน้าขาซ้ายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลระแงะ
จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บกู้ระเบิดบริเวณตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย สาขาตันหยงมัส ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยการใช้ปืนฉีดน้ำยิงทำลายได้สำเร็จ
จุดที่ 3 เกิดเหตุระเบิดในเวลาประมาณ 06.45 น.ที่บริเวณบันไดชั้น 2 ข้างตู้เอทีเอ็มหน้าประตูทางเข้าธนาคารออมสิน สาขาอำเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่ถนนพิชิตบำรุง เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
จุดที่ 4 เกิดระเบิดด้านหลังของธนาคารออมสิน ที่เดียวกับจุดที่ 3 อยู่ติดกับร้านเสริมสวย เลขที่ 66/2 ถนนวรคามพิพิธ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส แรงระเบิดทั้ง 2 แห่งทำให้ตัวอาคาร กระจก กันสาด ได้รับความเสียหายเท่านั้น
จุดที่ 5 เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย ข้างสำนักงานเทศบาลเมืองนราธิวาส แรงระเบิดทำให้นางพร้อม ศิริพร อายุ 46 ปี พนักงานของเทศบาลเมืองนราธิวาส ได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพกและกลางหลัง โดยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ในเวลาต่อมา
จุดที่ 6 เวลาประมาณ 07.55 น. เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ระเบิดซึ่งตั้งเวลาระเบิดไวที่ 09.00 น.ได้ที่บริเวณธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
และจุดที่ 7 เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ระเบิดหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งตั้งเวลาระเบิด 09.00 น.เช่นเดียวกันได้สำเร็จก่อนที่ระเบิดจะทำงาน
**เผยเหตุเกิดลักษณะเดียวกับ 31 ส.ค.49
ทั้งนี้ เหตุการณ์ลอบวางระเบิดแบงก์พาณิชย์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งจำนวน 22 แห่ง ในเขตเทศบาลนครยะลา และเขตเทศบาลเมืองเบตง เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2549 ซึ่งตรงกับวันชาติของประเทศมาเลเซีย ในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายสิบราย เนื่องเป็นเวลาที่อยู่ระหว่างธนาคารกำลังเปิดให้บริการลูกค้าและทำให้การทำธุรกรรมการเงินในวันนั้นต้องหยุดชะงักทุกแห่งชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
**ผบก.นราฯ เผยได้เบาะแสมือบึ้มแล้ว
พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวถึงการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ลอบวางระเบิดสถาบันการเงินใน จ.นราธิวาสครั้งนี้ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดกองวิทยาการพิสูจน์หลักฐานได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะบริเวณหน้าธนาคารออมสิน สาขาตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้ก่อเหตุเป็นชาย 1 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมสเก็ตซ์ใบหน้าเพื่อขอออกหมายจับ
สำหรับการดูแลความปลอดภัยหลังเกิดเหตุนั้น ผลก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกจุด ทุกอำเภอเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะการตั้งจุดตรวจลอยและเสริมกำลังเข้าดูแลตามสถานที่ราชการ สถานที่ชุมชน อีกทั้งให้จัดกำลังคอยซุ่มดูแลความปลอดภัยไว้บริเวณเป้าหมายเพื่อคอยสังเกตสิ่งผิดปกติ
**ผวจ.นราฯยันระเบิดแบงก์ไม่เกี่ยวการเมือง
นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเมือง เพราะในพื้นที่ จ.นราธิวาส เองไม่มีการเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าว ส่วนการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากสถานที่ต่างๆ ซึ่งในบางจุดเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสบ้างแล้วเนื่องจากมีพยานบุคคลให้ปากคำ ส่วนธนาคารต่างๆ ในพื้นที่หลังเกิดเหตุขึ้นก็ยังคงให้บริการตามปกติมีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เข้ามาดูแลความปลอดภัยเพิ่มขึ้นเท่านั้น
นายรุ่งวิทย์ ทิตย์สีแสง ประธานชมรมธนาคาร อ.สุไหงโก-ลก กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารทั้ง 9 แห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้มีความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยใน 3 มาตรการ คือ มีเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยประจำธนาคาร มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด และเฝ้าสังเกตวัตถุหรือบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยที่เข้ามาในบริเวณธนาคาร ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวนั้นจึงทำให้ในวันนี้เจ้าหน้าที่สามารถเข้ามาเก็บกู้ระเบิดได้
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางธนาคารก็จะต้องเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นโดยเฉพาะการจอดรถจักรยานยนต์ของผู้มาใช้บริการซึ่งทุกคันจะต้องเปิดเบาะเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่มาใช้บริการ
**ปธ.แบงก์นราฯขอกำลัง จนท.ดูแลเข้มขึ้น
ด้านนายสุธรรม ว่องไว ประธานชมรมธนาคารจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า เป้าหมายที่คนร้ายลอบวางระเบิดธนาคารและตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ จ.นราธิวาสทั้งหมด 7 จุดนั้นน่าจะเป็นการก่อกวนเพื่อสร้างสถานการณ์มากกว่ามุ่งเอาชีวิตและทรัพย์สิน ล่าสุดพบว่าธนาคารทุกแห่งในพื้นที่ยังคงเปิดทำการปกติ เนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากอยู่ในช่วงต้นเดือนและเพิ่งเปิดทำการวันแรกหลังจากหยุดยาว 3 วัน ยกเว้นที่ธนาคารออมสิน สาขา อ.เมืองนราธิวาส ที่ถูกระเบิดรุนแรงทำให้กระจกแตกและหลังคาได้รับความเสียหายต้องปิดทำการชั่วคราวอย่าง 1-2 วันเพื่อทำการซ่อมแซมคาดว่ามูลค่าความเสียหายประมาณ 300,000 บาทก่อนกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธนาคารส่วนใหญ่จะยังคงเปิดทำการต่อ แต่ไม่ประมาทได้เพิ่มการดูแลความปลอดภัยให้รัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รปภ.ของธนาคารที่ต้องเข้มงวดและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมขอกำลังสนับสนุนจากฝ่ายความมั่นคงเข้าตรวจสอบรวมถึงการตรวจสอบพาหนะลูกค้าที่เข้ามาติดต่องานธนาคารให้เข้มงวดมากขึ้น
**ผบ.พตท.ชี้ไม่เกี่ยวกับระเบิดในกรุงเทพฯ
ด้าน พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสม พลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ปกติแล้วในการดูแลรักษาความปลอดภัยตามเขตเมืองต่างๆ หรือภายในเขตชุมชนต่างๆ ทางหน่วยงานด้านความมั่นในพื้นที่มีแผนในการเฝ้าระวังป้องกันและมีการปฏิบัติอยู่เป็นประจำ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาสนั้นมีบางส่วนที่ระเบิด และบางส่วนที่เก็บกู้ไว้ได้ ซึ่งตนสันนิษฐานว่าการปฏิบัติของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้น่าจะเป็นการสร้างความปั่นป่วน เพื่อให้เกิดเหตุความวุ่นวายให้ได้ เพราะในช่วงที่เกิดเหตุระเบิดไม่มีประชาชนไปใช้บริการของตู้ ATM และธนาคาร
เพราะฉะนั้น เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส กลุ่มคนร้ายต้องการที่สร้างเหตุร้ายขึ้น ไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงการการก่อเหตุระเบิดป่วน ในพื้นที่กรุงเทพฯและ จ.สมุทรปราการแต่อย่างใด ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเองได้สั่งให้ทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้ง 4 อำเภอของ จ.สงขลา ไปดูคอยดูแลรักษาความปลอดภัยตู้ ATM ธนาคาร หน่วยงาน และสถานที่ราชการต่าง ๆ อย่างเข้มงวดแล้ว
**สั่งใช้จีที 200 ตรวจระเบิดรอบแบงก์ยะลา
สำหรับในเขตเทศบาลนครยะลานั้น ได้สั่งการให้ พ.ท.ยุทธนาม เพ็ชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ที่ 11 อ.เมืองยะลา ให้เจ้าหน้าที่ทหารใช้เครื่องจีที 200 เดินตรวจตรารอบ ๆ ธนาคาร พร้อมทั้งทำการตรวจตรายานพาหนะ ทุกชนิดที่ขับผ่าน และเข้ามาจอดในบริเวณด้านหน้าธนาคาร
ส่วนในระยะหลังที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่หันไปก่อเหตุลอบทำร้าย เจ้าหน้าที่ในระดับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ เช่น ลอบวางระเบิดรถยนต์ ผกก.สภ.บันนังสตา และ ผกก.สภ.รามัน นั้นตนได้กำชับ และแจ้งเตือนไปยังทุกหน่วยงานในพื้นที่ให้มีการเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งในขณะตนยังไม่รับรายงานแต่อย่างใด
**นายกฯไม่เชื่อเกี่ยวข้องบึ้ม ธ.กรุงเทพ
ทางด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดธนาคาร 7 จุดใน จ.นราธิวาสว่า ได้รับรายงานแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าในช่วงนี้เป็นช่วงที่ผู้ก่อการจะนำรูปแบบของระเบิดมาใช้มากยิ่งขึ้น
ส่วนการก่อเหตุระเบิดหลายจุดทั้งในกรุงเทพฯและพื้นที่ภาคใต้จะกระทบกับความเชื่อมั่นกับผู้ใช้บริการหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเรื่องเชิงสัญลักษณ์ ส่วนจะเป็นเรื่องเดียวกันหรือเปล่าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผลกระทบ
เมื่อถามว่า ในกรุงเทพฯทำในเชิงสัญลักษณ์ว่า เป็นธุรกิจที่เกี่ยวพันกับประธานองคมนตรี แต่ภาคใต้ทำเชิงสัญลักษณ์ว่า เป็นธุรกิจธนาคารของรัฐ มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมยังไม่คิดว่าเชื่อมโยงกัน"
**"สุเทพ"ชี้บึ้มป่วนนราฯ 7 จุดเรื่องปกติ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์เดียวกันว่า เป็นเรื่องปกติที่จะต้องแก้ไขกันต่อไป ส่วนที่คนร้ายเปลี่ยนเป้าหมายก่อเหตุมาเป็นธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสินนั้น นายสุเทพ กล่าวเพียงว่า "ไม่เป็นไรก็ต้องดำเนินการแก้ปัญหากันไป"
**จนท.ปัตตานีคุมเข้มธนาคารทุกแห่ง
ภายหลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดธนาคารหลายจุดในพื้นที่ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองใน จ.ปัตตานี ได้ระดมกำลังออกดูแลความปลอดภัยบริเวณด้านหน้าและภายในของธนาคารทุกแห่งในพื้นที่ 12 อำเภอ พร้อมทั้งมีการตรวจค้นรถทุกชนิดที่เข้าออกหรือจอดด้านหน้าธนาคารและมีการเอ็กซ์เรย์ผู้ที่เข้ามาใช้บริการธนาคารอย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ ได้ประสานธนาคารทุกแห่งให้มีการตรวจสอบกล้องทีวีวงจรปิดให้สามารถใช้การได้ทุกตัว เพื่อสามารถจับภาพบุคคลต้องสงสัยหรือคนร้ายที่มาก่อเหตุทั้งในตัวอาคาร ด้านหน้า หรือบริเวณธนาคาร เนื่องจากยังคงมีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบที่พยายามจะก่อเหตุอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
**ผบก.ปัตตานีสั่งจับตาแกนนำ RKK ป่วนซ้ำ
พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายสนธิกำลังร่วมดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดที่สุด ทั้งสถานที่ราชการ เอกชน ธนาคาร ตลาด รวมไปถึงแหล่งชุมชนทุกแห่ง
"เนื่องจากหน่วยข่าวแจ้งเตือนว่า กลุ่มของนายอาหามะ จาจ้า แกนนำ RKK ระดับสูงในพื้นที่ได้ออกมาเคลื่อนไหวพร้อมกับกลุ่มแนวร่วมประมาณ 20 คนพร้อมมีอาวุธและวัตถุระเบิดจำนวนหลายลูกเตรียมที่จะก่อวินาศกรรมในพื้นที่ในหลายอำเภอ จึงได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด และตรวจค้นเป้าหมายทุกจุด โดยเฉพาะตามจุดตรวจทุกแห่งให้มีการตรวจค้นอย่างเข้มงวดที่สุด ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้หญิง รถทุกคันที่สัญจรไปมาบนถนน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการก่อเหตุและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่" ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กล่าว
**ตรวจเข้มทุกสถาบันการเงินหาดใหญ่
เช่นเดียวกับที่ จ.สงขลา ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ระดมกำลังออกรักษาความปลอดภัยธนาคารกรุงเทพฯทั้ง 5 สาขาในเมืองหาดใหญ่ รวมทั้งธนาคารอื่นๆ และสถาบันการเงินทุกแห่งตั้งแต่ก่อนเวลาเปิดบริการโดยประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารตรวจสอบสิ่งผิดปกติบริเวณรอบๆ ธนาคารทั้งรถจักรยานยนต์ และตรวจบุคคล
ขณะที่ธนาคารกรุงเทพฯ ในเมืองหาดใหญ่ทุกสาขาต่างติดประกาศให้ลูกค้าที่มาใช้บริการเปิดเบาะรถจักรยานยนต์ทุกคัน เพื่อป้องกันเหตุร้ายทั้งที่เชื่อมโยงกับการเมือง และสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
