ASTVผู้จัดการรายวัน-ศาลพิพากษาประหารชีวิต “สมคิด พุ่มพวง” ฆ่าหมอนวด คำรับสารภาพไม่เป็นประโยชน์ ประกอบกับพฤติการณ์กระทำการประทุษร้ายอย่างต่อเนื่อง เมื่อถูกจับกุมยังไม่สำนึก กลับไปก่อเหตุส่งผลร้ายต่อสังคม ไม่มีเหตุลดโทษ ขณะที่เจ้าตัวทำตาเหลือก หายใจหอบ โวยไม่ยอมรับคำพิพากษา
วานนี้(2 มี.ค.)ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสมคิด พุ่มพวง หรือที่รู้จักกันในนาม “แจ็ก เดอะ ริปเปอร์” เมืองไทย ฆาตกรต่อเนื่อง อายุ 41 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจำเลยในความผิด ฐานฆ่าผู้อื่นและลักทรัพย์ กรณีฆ่าหมอนวดแผนโบราณหญิง ที่ จ.ลำปาง เมื่อ 6 ปีก่อน โดยนายสมคิด “แจ็ก เดอะริปฯ” มาศาลในชุดนักโทษชั้นอุกฉกรรจ์ มีรูปร่างเตี้ย มาดเฉยเมยไม่สะทกสะท้านตามเดิม
คำพิพากษาใจความว่าโจทก์ฟ้องและนำสืบว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2548 จำเลยได้ใช้กำลังประทุษร้ายบีบรัดคอ น.ส.ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย ใช้กำลังประทุษร้ายหมอนวดแผนโบราณจนเสียชีวิต สมดังเจตนา ภายในห้องพักเลขที่ 604 โรงแรมเวียงละคอน ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง แล้วจำเลยมีเจตนาทุจริต ลักเอาทรัพย์สินของผู้ตายมีแหวนทอง ต่างหู โทรศัพท์ มูลค่ารวมกว่า 5,000 บาทก่อนหลบหนีไป ต่อมาตำรวจจับกุมจำเลยได้ จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวน แต่ปฏิเสธในชั้นศาลว่าถูกตำรวจกลั่นแกล้งจับกุม
ศาลพิเคราะห์ว่ามีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิดหรือไม่ เห็นว่าโจทก์พยานเป็นเพื่อนผู้ตายเป็นหมอนวดแผนโบราณเบิกความว่า ขณะนั่งอยู่ที่โรงแรม เห็นผู้ตายนั่งดื่มสุรากับจำเลย ผู้ตายบอกพยานว่าจะไปหลับนอนกับจำเลย 3 วัน 2 คืน ได้ค่าตัว 5,000 บาท พยานอีกปากเป็นพนักงานโรงแรมเบิกความว่า เห็นจำเลยพาผู้ตายมาเปิดห้องที่โรงแรมเวียงนคร และเปิดห้องพักหมายเลข 604 สั่งอาหาร สุรา ไปดื่มกิน
นอกจากนี้ โจทก์ยังมีพยานเป็นพนักงานรับซื้อโทรศัพท์มือถือ ที่จำเลยเอาเครื่องมาขายในราคา 1,000 บาท อีกทั้งสอดคล้องกับลายมือชื่อการลงทะเบียนเข้าพักก็เป็นของจำเลย สภาพศพตายมานาน 9 ชั่วโมง มีแผลฟกช้ำ รอยถลอกทั่วร่างกาย ที่โพรงมดลูกขนาดใหญ่ พบตัวอ่อนมีอายุครรภ์ 2 เดือน ต่อมามีการสืบสวนของตำรวจกองปราบปรามพบว่าในรอบ 5 เดือนมีการฆาตกรรมหญิงสาวนวดแผนโบราณ 5 คดี
ศาลเห็นว่า พยานโจทก์ทุกปากเบิกความสอดคล้องกันอย่างชัดเจน พยานไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน พยานที่เห็นจำเลยได้อยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์ จดจำใบหน้าจำเลยชัดเจน หลังถูกจับกุมของของกลาง 26 รายการ ยังพบเสื้อแจ็กเกตของจำเลยตรงกับที่สวมในภาพทีวีวงจรปิด แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน คำให้การจำเลยเลื่อนลอยไม่สามารถหักล้างได้ แต่โจทก์มีพยานแวดล้อมแน่นหนา จึงรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตายจริง พิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องเป็นกรรมเดียวผิดหลายบท ให้ลงโทษบทหนักคือ ลงโทษประหารชีวิต คำรับสารภาพไม่เป็นประโยชน์ ประกอบกับพฤติการณ์จำเลยกระทำการประทุษร้ายอย่างต่อเนื่องใน 5 เดือน เมื่อถูกจับกุมก็ไม่สำนึก กลับไปก่อเหตุส่งผลร้ายต่อสังคม จึงไม่มีเหตุลดโทษ และให้คืนทรัพย์แก่ญาติผู้ตาย
หลังฟังคำพิพากษา นายสมคิด พุ่มพวง ได้ตะโกนตำหนิคำพิพากษา ศาลจึงบอกว่าหากติดใจคำพิพากษาให้ทนายความอุทธรณ์คดีได้ภายในเวลา 1 เดือน นายสมคิด ทำตาเหลือก หายใจหอบ เมื่อทนายความเข้าไปพูดให้สงบสติอารมณ์ นายสมคิด ยังพูดต่อว่าและตำหนิทนายความว่าทำงานไม่ดี หากไม่เต็มใจก็ไม่ต้องมาเป็นทนายความให้ จากนั้นตำรวจศาลจึงเข้ามาควบคุมตัวนายสมคิด ออกไปจากห้องพิจารณาด้วยอาการทุลักทุเล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้เป็นการฟังคำพิพากษาในคดีที่ 3 ที่นายสมคิด ก่อเหตุ ฆ่าหมอนวด หลังจากก่อนหน้านี้ ศาลได้มีคำพิพากษา ประหารชีวิต นายสมคิด ในคดี ก่อเหตุฆ่า น.ส.วารุณี พิมพะบุตร อายุ 25 ปี นักร้องสาว “แสงตะวันคาเฟ่” ในห้องพักโรงแรมพลอยพาเลซ จ.มุกดาหาร และพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต นายสมคิด ในคดีที่ก่อเหตุฆ่า น.ส.สมปอง พิมพรภิรมย์ อายุ 25 ปี อาชีพหมอนวดแผนโบราณที่โรงแรมปิยะแมนชั่น ใน จ.บุรีรัมย์ โดยพฤติการณ์ของทุกคดีนายสมคิดก่อเหตุคล้ายกัน เริ่มจากเข้าตีสนิทผู้ตาย แล้วชักชวนไปหลับนอนในโรงแรม เมื่อเผลอหลับก็จับบีบคอแล้วปลดเอาทรัพย์สินของมีค่าไป
วานนี้(2 มี.ค.)ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสมคิด พุ่มพวง หรือที่รู้จักกันในนาม “แจ็ก เดอะ ริปเปอร์” เมืองไทย ฆาตกรต่อเนื่อง อายุ 41 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจำเลยในความผิด ฐานฆ่าผู้อื่นและลักทรัพย์ กรณีฆ่าหมอนวดแผนโบราณหญิง ที่ จ.ลำปาง เมื่อ 6 ปีก่อน โดยนายสมคิด “แจ็ก เดอะริปฯ” มาศาลในชุดนักโทษชั้นอุกฉกรรจ์ มีรูปร่างเตี้ย มาดเฉยเมยไม่สะทกสะท้านตามเดิม
คำพิพากษาใจความว่าโจทก์ฟ้องและนำสืบว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2548 จำเลยได้ใช้กำลังประทุษร้ายบีบรัดคอ น.ส.ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย ใช้กำลังประทุษร้ายหมอนวดแผนโบราณจนเสียชีวิต สมดังเจตนา ภายในห้องพักเลขที่ 604 โรงแรมเวียงละคอน ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง แล้วจำเลยมีเจตนาทุจริต ลักเอาทรัพย์สินของผู้ตายมีแหวนทอง ต่างหู โทรศัพท์ มูลค่ารวมกว่า 5,000 บาทก่อนหลบหนีไป ต่อมาตำรวจจับกุมจำเลยได้ จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวน แต่ปฏิเสธในชั้นศาลว่าถูกตำรวจกลั่นแกล้งจับกุม
ศาลพิเคราะห์ว่ามีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิดหรือไม่ เห็นว่าโจทก์พยานเป็นเพื่อนผู้ตายเป็นหมอนวดแผนโบราณเบิกความว่า ขณะนั่งอยู่ที่โรงแรม เห็นผู้ตายนั่งดื่มสุรากับจำเลย ผู้ตายบอกพยานว่าจะไปหลับนอนกับจำเลย 3 วัน 2 คืน ได้ค่าตัว 5,000 บาท พยานอีกปากเป็นพนักงานโรงแรมเบิกความว่า เห็นจำเลยพาผู้ตายมาเปิดห้องที่โรงแรมเวียงนคร และเปิดห้องพักหมายเลข 604 สั่งอาหาร สุรา ไปดื่มกิน
นอกจากนี้ โจทก์ยังมีพยานเป็นพนักงานรับซื้อโทรศัพท์มือถือ ที่จำเลยเอาเครื่องมาขายในราคา 1,000 บาท อีกทั้งสอดคล้องกับลายมือชื่อการลงทะเบียนเข้าพักก็เป็นของจำเลย สภาพศพตายมานาน 9 ชั่วโมง มีแผลฟกช้ำ รอยถลอกทั่วร่างกาย ที่โพรงมดลูกขนาดใหญ่ พบตัวอ่อนมีอายุครรภ์ 2 เดือน ต่อมามีการสืบสวนของตำรวจกองปราบปรามพบว่าในรอบ 5 เดือนมีการฆาตกรรมหญิงสาวนวดแผนโบราณ 5 คดี
ศาลเห็นว่า พยานโจทก์ทุกปากเบิกความสอดคล้องกันอย่างชัดเจน พยานไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน พยานที่เห็นจำเลยได้อยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์ จดจำใบหน้าจำเลยชัดเจน หลังถูกจับกุมของของกลาง 26 รายการ ยังพบเสื้อแจ็กเกตของจำเลยตรงกับที่สวมในภาพทีวีวงจรปิด แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน คำให้การจำเลยเลื่อนลอยไม่สามารถหักล้างได้ แต่โจทก์มีพยานแวดล้อมแน่นหนา จึงรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตายจริง พิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องเป็นกรรมเดียวผิดหลายบท ให้ลงโทษบทหนักคือ ลงโทษประหารชีวิต คำรับสารภาพไม่เป็นประโยชน์ ประกอบกับพฤติการณ์จำเลยกระทำการประทุษร้ายอย่างต่อเนื่องใน 5 เดือน เมื่อถูกจับกุมก็ไม่สำนึก กลับไปก่อเหตุส่งผลร้ายต่อสังคม จึงไม่มีเหตุลดโทษ และให้คืนทรัพย์แก่ญาติผู้ตาย
หลังฟังคำพิพากษา นายสมคิด พุ่มพวง ได้ตะโกนตำหนิคำพิพากษา ศาลจึงบอกว่าหากติดใจคำพิพากษาให้ทนายความอุทธรณ์คดีได้ภายในเวลา 1 เดือน นายสมคิด ทำตาเหลือก หายใจหอบ เมื่อทนายความเข้าไปพูดให้สงบสติอารมณ์ นายสมคิด ยังพูดต่อว่าและตำหนิทนายความว่าทำงานไม่ดี หากไม่เต็มใจก็ไม่ต้องมาเป็นทนายความให้ จากนั้นตำรวจศาลจึงเข้ามาควบคุมตัวนายสมคิด ออกไปจากห้องพิจารณาด้วยอาการทุลักทุเล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้เป็นการฟังคำพิพากษาในคดีที่ 3 ที่นายสมคิด ก่อเหตุ ฆ่าหมอนวด หลังจากก่อนหน้านี้ ศาลได้มีคำพิพากษา ประหารชีวิต นายสมคิด ในคดี ก่อเหตุฆ่า น.ส.วารุณี พิมพะบุตร อายุ 25 ปี นักร้องสาว “แสงตะวันคาเฟ่” ในห้องพักโรงแรมพลอยพาเลซ จ.มุกดาหาร และพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต นายสมคิด ในคดีที่ก่อเหตุฆ่า น.ส.สมปอง พิมพรภิรมย์ อายุ 25 ปี อาชีพหมอนวดแผนโบราณที่โรงแรมปิยะแมนชั่น ใน จ.บุรีรัมย์ โดยพฤติการณ์ของทุกคดีนายสมคิดก่อเหตุคล้ายกัน เริ่มจากเข้าตีสนิทผู้ตาย แล้วชักชวนไปหลับนอนในโรงแรม เมื่อเผลอหลับก็จับบีบคอแล้วปลดเอาทรัพย์สินของมีค่าไป