ต้องยอมรับว่าในปีที่ผ่านมา เป็นปีที่เหนื่อย และยากในการก้าวผ่าน สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ อีกปีหนึ่ง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่อง หรืออาจะเรียกได้ว่าเป็นธุรกิจปลายน้ำของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากในช่วงต้นปี52ที่ผ่านมาภาคธุรกิจอสังหาฯถือว่าเป็นธุรกิจที่ได้รับผล กระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ยอดขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศลดลง นอกจากนี้ยังถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาการเมืองในประเทศ จนทำให้ยอดขายในประเทศหดตัวลงอย่างมาก
ส่งผลให้ช่วง2ไตรมาสแรกของปีตลาดอสังหาฯชะลอตัวอย่างมาก เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เพราะขาดความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเมือง ในขณะที่นักลงทุนและผู้ประกอบการต่างๆ ก็ชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ออกสู่ตลาด ส่วนผู้บริโภคที่มีแผนจะซ่อมแซมตกแต่งบ้านเก่าก็ชะลอแผนการใช้เงินออกไป ส่งผลให้ความต้องการซื้อเฟอร์นิเจอรลดลงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ปัญหาด้านเศรษฐกิจถูกแก้ไข จนเศรษฐกิจในประเทศกลับมาฟื้นตัวในช่วงปลายไตรมาสที่3 และชัดเจนขึ้นในช่วงไตรมาส4ของปี ประกอบกับปัจจัยบวกจากการมาตรการลดหน่อยภาษีภาคธุรกิจอสังหาฯ ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้กลับมาตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาส4นั้นข่าวการไม่ต่ออายุมาตรการอสังหาฯของรัฐบาลในปี53ยิ่งส่งผลต่อการซื้อตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อให้สามารถรับโอนก่อนช่วงหมดมาตรการภาษี ทำให้ยอดขายที่อยุ่อาศัยขยายตัวอย่างรวดเร็ว
จากปัจจัยบวกดังกล่าวส่งผลให้ตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาตลาดเฟอร์นิเจอร์พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย นอกจากนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเซียยังส่งดีต่อออเดอร์สั่งซื้อเฟอรืนิเจอร์ในตลาดต่างประเทศกลับมาขยายตัวได้อีกโครงการ ดดเยเฉพาะยอดสั่งซื้อจากกลุ่มธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท นั้นถือว่าขยายตัวอย่างมาก เนื่องจากโรงแรม รีสอร์ทต่างๆ ที่ชะลอการเปิดตัวในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจมีกำหนดการเปิดบริการที่ชัดเจน และกลับมาสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มมากขึ้น
นายทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)กล่าวว่าในช่วงต้นปี52 คำสั่งซื้อ(ออเดอร์)จากต่างประเทศลดลงจำนวนมาก เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจแต่ในช่วงปลายปีออเดอร์เริ่มกลับเข้ามาจำนวนมากเช่นกัน ทำให้บริษัทไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันกับออเดอร์ เนื่องจากไม่มีการสต๊อกสินค้าไว้รองรับ โดยกลุ่มธุรกิจที่สั่งซื้อเข้ามาส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงแรม รีสอร์ท ที่ชะลอการสั่งออเดอร์ในช่วงต้นปี แต่หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัวก็ทำห้มีการสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมากพร้อมๆกัน
ส่วนตลาดในประเทศนั้นเริ่มมียอดสั่งซื้อเข้ามาในช่วงต้นไตรมาสที่3 และเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสที่4ของปีซึ่งส่วนมากมาจะเป็นการสั่งซื้อจากกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม ที่ทยอยสร้างเสร็จ และเร่งการโอนให้ทันได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีก่อนวันที่28 มี.ค.53 เนื่องจากครม.ประกาศไม่ต่ออายุมาตรการภาษีให้ ทั้งนี้การไม่ต่ออายุมาตรการอสังหาฯของรัฐบาลจะส่งผลให้ในไตรมาสแรกมียอดการโอนที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้มีออเดอร์สั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
โดยในปีนี้บริษัทยังคงประมาณการณ์ว่ายอดขายโดยมากจากยังคงมากจากกลุ่มที่อยู่อาศัย ส่วนตลาดที่จะมีการขยายตัวอย่างต่อนเองคือตลาดออฟฟิสสำนักงาน เนื่องจากกลุ่มบรัทต่างชาติจะกลับมาตั้งฐานบรัทในประเทศ รวมถือในปีนี้ยังมีโครงการออฟฟิสเช่าและออฟฟิศขนาดใหญ่เกิดใหม่จำนวนมาก อาทิ โครงการอาคารสำนักงานของ ปตท. โรงพยาบาลศิริราช วึ่งถือเป็นโอกาศของบรัทที่จะเข้าไปประมูลงานในส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้น
ด้านนางสาวจรินทร ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด กล่าวว่าในปีนี้ทางอินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 1,500 ล้านบาทในการปรับรูปแบบและตกแต่งอินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์สาขาบางนาบนเนื้อที่กว่า 11 ไร่ให้เป็น Store ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรกตามบริษัทมีแผนจะลงทุนในช่วง 2 ปี (2553-2554) จะจัดสรรงบกว่า 500 ล้านบาท ขยายไลน์ผลิตสินค้าที่โรงงานมหาชัย เพื่อรองรับแผนการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ในช่วงกลางปีนี้จะใช้งบมากกว่า 100 ล้านบาท ปรับปรุงสาขาบางใหญ่ 60 ล้านบาท ที่เหลืออีก 40 ล้านบาทใช้สำหรับปรับปรุงร้านอินเด็กซ์ฯ ที่อยู่ภายในศูนย์การค้าสู่ภาพลักษณ์ใหม่ทั้งหมด
“ในปี54ยังจะใช้งบมากกว่า 500 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ย่านราชพฤกษ์ บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ รองรับลูกค้าย่านปิ่นเกล้า เพชรเกษม กัลปพฤกษ์ ซึ่งภายหลังการเปิดสาขาดังกล่าวนี้จะทำให้อินเด็กซ์ฯ มีรูปแบบร้านสแตนอะโลนขนาดใหญ่ครอบคลุม 4 มุมเมือง ได้แก่ รังสิต บางใหญ่ บางนา และราชพฤกษ์ พร้อมกันนี้ยังจัดสรรงบ 250 ล้านบาทใช้ทำการตลาดเชิงรุก เน้นสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนทำงานและครอบครัวรุ่นใหม่ พร้อมจัดแคมเปญซีเอสอาร์ เพื่รองรับออเดอร์สั่งสินค้า และความต้องการของผู้บริโภคในปี53 ซึ่งจะมียอดโอนที่อยุ่อาศัยใหม่จำนวนมาก”นางสาวจรินทร กล่าว
เป็นที่น่าจับตาว่าในขณะที่ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ แพลนแผนงานและการขยายธุรกิจรวมถึงการลงทุนไว้รองรับการเติบโตของตลาดหลังเศราฐกิจเริ่มฟื้น และผลบวกจากการโอนที่อยู่อาศัยจำนวนมากในช่วงต้นปี53 จนทำให้ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์กลับมาคึกคักเพราะหวังอานิสงส์จากดีมานด์ใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังการโอนที่อยู่อาศัยในตลาด แต่ปัจจัยลบจากการยกเลิกมาตรการภาษีภาคอสังหาฯกับปัญหาการเมืองที่เริ่มประทุขึ้นภายหลังจากการตัดสินยึดทรัพย์ นช.ทักษิณ ชินวัตร จำนวน4.6 หมื่นล้านบาท ในช่วงที่ผ่านมาจะส่งผลให้ตลาดในช่วงไตรมาส2 เป็นต้นไปกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง
โดยเพาะปัญหาการเมือง ซึ่งหากในช่วงวันที่ 14 มี.ค. 53 วึ่งจะมีการนัดรวมตัวชุมชนของคนเสื้อแดง หากในการชุมชนครั้งนี้เกิดความรุนแรงขึ้น จนส่งผลต่อความไม่สงบในประเทศจะส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหา ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำของเฟอร์นิเจอร์ อาจจะส่งผลให้ในปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ยากจะก้าวผ่านเช่นปีที่ผ่านมา
ส่งผลให้ช่วง2ไตรมาสแรกของปีตลาดอสังหาฯชะลอตัวอย่างมาก เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เพราะขาดความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเมือง ในขณะที่นักลงทุนและผู้ประกอบการต่างๆ ก็ชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ออกสู่ตลาด ส่วนผู้บริโภคที่มีแผนจะซ่อมแซมตกแต่งบ้านเก่าก็ชะลอแผนการใช้เงินออกไป ส่งผลให้ความต้องการซื้อเฟอร์นิเจอรลดลงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ปัญหาด้านเศรษฐกิจถูกแก้ไข จนเศรษฐกิจในประเทศกลับมาฟื้นตัวในช่วงปลายไตรมาสที่3 และชัดเจนขึ้นในช่วงไตรมาส4ของปี ประกอบกับปัจจัยบวกจากการมาตรการลดหน่อยภาษีภาคธุรกิจอสังหาฯ ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้กลับมาตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาส4นั้นข่าวการไม่ต่ออายุมาตรการอสังหาฯของรัฐบาลในปี53ยิ่งส่งผลต่อการซื้อตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อให้สามารถรับโอนก่อนช่วงหมดมาตรการภาษี ทำให้ยอดขายที่อยุ่อาศัยขยายตัวอย่างรวดเร็ว
จากปัจจัยบวกดังกล่าวส่งผลให้ตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาตลาดเฟอร์นิเจอร์พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย นอกจากนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเซียยังส่งดีต่อออเดอร์สั่งซื้อเฟอรืนิเจอร์ในตลาดต่างประเทศกลับมาขยายตัวได้อีกโครงการ ดดเยเฉพาะยอดสั่งซื้อจากกลุ่มธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท นั้นถือว่าขยายตัวอย่างมาก เนื่องจากโรงแรม รีสอร์ทต่างๆ ที่ชะลอการเปิดตัวในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจมีกำหนดการเปิดบริการที่ชัดเจน และกลับมาสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มมากขึ้น
นายทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)กล่าวว่าในช่วงต้นปี52 คำสั่งซื้อ(ออเดอร์)จากต่างประเทศลดลงจำนวนมาก เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจแต่ในช่วงปลายปีออเดอร์เริ่มกลับเข้ามาจำนวนมากเช่นกัน ทำให้บริษัทไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันกับออเดอร์ เนื่องจากไม่มีการสต๊อกสินค้าไว้รองรับ โดยกลุ่มธุรกิจที่สั่งซื้อเข้ามาส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงแรม รีสอร์ท ที่ชะลอการสั่งออเดอร์ในช่วงต้นปี แต่หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัวก็ทำห้มีการสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมากพร้อมๆกัน
ส่วนตลาดในประเทศนั้นเริ่มมียอดสั่งซื้อเข้ามาในช่วงต้นไตรมาสที่3 และเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสที่4ของปีซึ่งส่วนมากมาจะเป็นการสั่งซื้อจากกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม ที่ทยอยสร้างเสร็จ และเร่งการโอนให้ทันได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีก่อนวันที่28 มี.ค.53 เนื่องจากครม.ประกาศไม่ต่ออายุมาตรการภาษีให้ ทั้งนี้การไม่ต่ออายุมาตรการอสังหาฯของรัฐบาลจะส่งผลให้ในไตรมาสแรกมียอดการโอนที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้มีออเดอร์สั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
โดยในปีนี้บริษัทยังคงประมาณการณ์ว่ายอดขายโดยมากจากยังคงมากจากกลุ่มที่อยู่อาศัย ส่วนตลาดที่จะมีการขยายตัวอย่างต่อนเองคือตลาดออฟฟิสสำนักงาน เนื่องจากกลุ่มบรัทต่างชาติจะกลับมาตั้งฐานบรัทในประเทศ รวมถือในปีนี้ยังมีโครงการออฟฟิสเช่าและออฟฟิศขนาดใหญ่เกิดใหม่จำนวนมาก อาทิ โครงการอาคารสำนักงานของ ปตท. โรงพยาบาลศิริราช วึ่งถือเป็นโอกาศของบรัทที่จะเข้าไปประมูลงานในส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้น
ด้านนางสาวจรินทร ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด กล่าวว่าในปีนี้ทางอินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 1,500 ล้านบาทในการปรับรูปแบบและตกแต่งอินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์สาขาบางนาบนเนื้อที่กว่า 11 ไร่ให้เป็น Store ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรกตามบริษัทมีแผนจะลงทุนในช่วง 2 ปี (2553-2554) จะจัดสรรงบกว่า 500 ล้านบาท ขยายไลน์ผลิตสินค้าที่โรงงานมหาชัย เพื่อรองรับแผนการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ในช่วงกลางปีนี้จะใช้งบมากกว่า 100 ล้านบาท ปรับปรุงสาขาบางใหญ่ 60 ล้านบาท ที่เหลืออีก 40 ล้านบาทใช้สำหรับปรับปรุงร้านอินเด็กซ์ฯ ที่อยู่ภายในศูนย์การค้าสู่ภาพลักษณ์ใหม่ทั้งหมด
“ในปี54ยังจะใช้งบมากกว่า 500 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ย่านราชพฤกษ์ บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ รองรับลูกค้าย่านปิ่นเกล้า เพชรเกษม กัลปพฤกษ์ ซึ่งภายหลังการเปิดสาขาดังกล่าวนี้จะทำให้อินเด็กซ์ฯ มีรูปแบบร้านสแตนอะโลนขนาดใหญ่ครอบคลุม 4 มุมเมือง ได้แก่ รังสิต บางใหญ่ บางนา และราชพฤกษ์ พร้อมกันนี้ยังจัดสรรงบ 250 ล้านบาทใช้ทำการตลาดเชิงรุก เน้นสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนทำงานและครอบครัวรุ่นใหม่ พร้อมจัดแคมเปญซีเอสอาร์ เพื่รองรับออเดอร์สั่งสินค้า และความต้องการของผู้บริโภคในปี53 ซึ่งจะมียอดโอนที่อยุ่อาศัยใหม่จำนวนมาก”นางสาวจรินทร กล่าว
เป็นที่น่าจับตาว่าในขณะที่ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ แพลนแผนงานและการขยายธุรกิจรวมถึงการลงทุนไว้รองรับการเติบโตของตลาดหลังเศราฐกิจเริ่มฟื้น และผลบวกจากการโอนที่อยู่อาศัยจำนวนมากในช่วงต้นปี53 จนทำให้ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์กลับมาคึกคักเพราะหวังอานิสงส์จากดีมานด์ใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังการโอนที่อยู่อาศัยในตลาด แต่ปัจจัยลบจากการยกเลิกมาตรการภาษีภาคอสังหาฯกับปัญหาการเมืองที่เริ่มประทุขึ้นภายหลังจากการตัดสินยึดทรัพย์ นช.ทักษิณ ชินวัตร จำนวน4.6 หมื่นล้านบาท ในช่วงที่ผ่านมาจะส่งผลให้ตลาดในช่วงไตรมาส2 เป็นต้นไปกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง
โดยเพาะปัญหาการเมือง ซึ่งหากในช่วงวันที่ 14 มี.ค. 53 วึ่งจะมีการนัดรวมตัวชุมชนของคนเสื้อแดง หากในการชุมชนครั้งนี้เกิดความรุนแรงขึ้น จนส่งผลต่อความไม่สงบในประเทศจะส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหา ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำของเฟอร์นิเจอร์ อาจจะส่งผลให้ในปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ยากจะก้าวผ่านเช่นปีที่ผ่านมา
