ASTV ผู้จัดการรายวัน – “เซลลิงก์ เอเยนต์”โวย! โดนโบรกฯร้านทองเล่นตุกติก ส่งบทเคราะห์ให้ทั้งเครือข่ายไม่ตรงกัน ครึ่งหนึ่ง Long /ครึ่งหนึ่ง Short ตามเกมที่ต้องการสร้างปริมาณซื้อขายสัญญาโกลด์ ฟิวเจอร์สให้มากๆ เพื่อหวังกินแค่ค่าธรรมเนียมให้บริการ และลงทุนสวนทางบทวิเคราะห์ของตนเองเพื่อฟันกำไร โดยไม่สนผลขาดทุนที่เกิดขึ้นทั้ง SA และลูกค้า อีกทั้งยังค้างจ่ายค่าคอมมิสชั่น หนำซ้ำยังชวนโยกเล่นทองคำต่างประเทศต่อ หลัง TFEX ปิดซื้อขาย กินส่วนต่างค่าพรีเมี่ยมในราคา Bid/offer ที่บวกเพิ่มอีกจากต่างชาติ หากราคาขึ้นลงไวจัดรับมือไม่ทัน ก็ปิดโทรศัพท์หนี วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางกรอบควบคุม
แหล่งข่าวตัวแทนสนับสนุนการซื้อขาย (Selling Agent หรือ SA) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน โบรกเกอร์ร้านทองคำบางแห่งได้แนะนำการทำธุรกิจที่ผิดๆให้แก่ พวกตน และลูกค้า กล่าวคือ แนะนำให้ SA เข้าลงทุนในโกลด์ ฟิวเจอร์สเอง ผ่านการลงทุนที่ใช้วิธีเปิดบัญชีผู้อื่น เพื่อรับผลตอบแทนที่นอกเหนือจากส่วนแบ่งในรูปค่านายหน้าจากการหาลูกค้าให้เข้ามาเทรดโกลด์ฟิวเจอร์สผ่านบริษัท แต่ปรากฏว่า แทนที่เซลลิงก์ เอเยนต์ และลูกค้าจะได้รับข้อมูลคำแนะนำการลงทุนที่ถูกต้อง กลับโดนโบรกเกอร์ร้านทองตุกติก ด้วยวิธีส่งข้อมูลแนะนำการลงทุนที่คละกันทั้งShort และ Long ให้กับSA ในเครือ และแนะนำการลงทุนที่ตรงข้ามกับการลงทุนป้องกันความเสี่ยงของโบรกฯร้านทองเอง ส่งผลให้SA และลูกค้าที่ได้รับคำแนะนำนั้น พากันขาดทุนไปเป็นจำนวนมาก จนเกิดความไม่พอใจ
“โบรกฯร้านทอง เขาจะส่งบทวิเคราะห์มาให้เรา แต่ไม่เหมือนกันหมด เช่นมีSA 10 ราย ก็จะส่งว่าให้ลงShort ไป5ราย อีก 5 รายก็แนะให้ถือLong ซึ่งมันจะเป็นการสร้างปริมาณสัญญาลงทุน โดยตัวเขาก็จะได้รับค่าธุรกรรมจากการเปิดสัญญาที่มีจำนวนมากขึ้น และไม่สนว่าเราจะขาดทุนหรือไม่ พอขาดทุนมากเข้า ก็บอกมาว่าจะตั้งกองทุนทองให้เราและลูกค้าเอาเงินมาให้เขา แล้วเขาจะบริหารให้โดยรับประกันเงินต้น แต่ไม่รับประกันกำไร บางรายก็ใช้อาบิทราจมาล่อ โดยการันตีผลตอบแทน3-5%”
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวยังระบุว่า แม้จะส่งคำสั่งของลูกค้าไปให้โบรกเกอร์ร้านทองแล้ว แต่ค่าคอมมิสชั่นที่ตนควรได้รับ กลับไม่ได้มาเต็มที่ มีการค้างจ่ายให้แก่เซลลิงก์ เอเยนต์ไม่ครบถ้วนตามที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ผิดต่อหลักเกณฑ์ และตลาดอนุพันธ์(ประเทศไทย) กับ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเข้ามาดูแลและตรวจสอบในเรื่องนี้
ทั้งนี้ ปัญหาผลขาดทุนของSA ที่เริ่มมีกระแสความไม่พอใจต่อโบรกเกอร์ร้านทองในขณะนี้ เริ่มขึ้นจากโบรกเกอร์ร้านทองคำ ไม่พยายามซัพพอร์ตหรือช่วยเหลือSAของตนทั้งในด้านข้อมูลความรู้ การจัดกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ เหมือนที่เคยตกลงกันไว้ และเท่าที่ได้พูดคุยกับSA บางรายระบุว่าตอนชักชวนเข้าร่วมบอกว่าลงทุนเพียงประมาณ 1 ล้านบาทและจะได้รับผลตอบแทนกลับคืนเพียงแค่ 6 เดือน แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะผลที่ได้กลับคืนมาคือลูกค้าเพียงไม่กี่ราย จึงได้ค่าคอมมิชชั่นหรือค่านายหน้าไม่มากดังที่คาดไว้ โดยเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงการไม่ประสบความสำเร็จในการหาลูกค้าของ SA ด้วย
“โบรกเกอร์ร้านทอง ไม่ยอมวิเคราะห์ข้อด้อยของSA และควรแนะนำให้SA บอกลูกค้าว่าควรทยอยลงทุนจากน้อยไปก่อน โดยใช้ความรู้เป็นตัวนำ เพราะโบรกฯพยายามหาแต่แฟร์นไซด์มากกว่า เพื่อรับค่านายหน้าจากปริมาณสัญญาการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สเพียงอย่างเดียว”แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ บางแห่ง ยังมีการชักชวนลูกค้าเข้ามาซื้อขายGold Spot ในตอนกลางคืนหรือตอนปิดตลาด TFEXแล้ว แต่บังคับให้ลูกค้าตัดขายขาดทุนภายในไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงก่อนปิดให้บริการ (บางปิด22.00น. บางแห่ง 24.00 น.) ทั้งที่เวลาซื้อขายจริงมีเกือบทั้งคืน หรือประมาณ 04.00น.ของอีกวันหนึ่ง รวมทั้งมีการตั้งBid และOffer โดยเพิ่มส่วนต่างราคาซื้อขายจริงที่ส่งมาจากต่างประเทศ เข้าไปอีก 5 – 6 เหรียญ เพื่อรับกินเงินส่วนต่างนี้แทน ก่อนที่จะส่งคำสั่งซื้อของลูกค่าไปยังตลาดต่างประเทศ แต่หากบางครั้งราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเร็วไป จนลูกค้าต้องการจะขายทำกำไร และบริษัทหาวิธีรองรับไม่ทัน ก็ใช้วิธีหลบเลี่ยงการติดต่อสื่อสาร เช่นปิดโทรศัพท์ หรือทำเหมือนไม่มีผู้ให้บริการ จนทำให้ลูกค้าสูญเสียโอกาส
แหล่งข่าวกล่าวว่า เคยมีการพูดคุยกับคนในสมาคมผู้ค้าทองคำ แต่ทางสมาคมยอมรับว่า ไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ได้ เพราะทางสมาคมฯมีหน้าที่ในการดูแลเฉพาะธุรกิจด้านทองคำแท่ง และรูปพรรณเท่านั้น อีกทั้งโบรกเกอร์ร้านทองเหล่านี้ก็จดทะเบียนและเป็นสมาชิกของตลาดอนุพันธ์ ดังนั้นหากมีการดำเนินงานที่ไม่โปร่งใสเกิดขึ้น ก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ของตลาดอนุพันธ์ ซึ่งจุดนี้เชื่อว่า ทางสำนักงานก.ล.ต.เองก็จะเข้ามาดูแลได้ เพราะเชื่อว่ามีข้อมูลให้ตรวจสอบได้แน่นอน
**ดึงก.พาณิชย์ตั้งกฏคุมเทรดกลางคืน
แหล่งจากบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับผู้จะเข้ามาดำเนินตรวจสอบบทวิเคราะห์ที่มีการจัดส่งให้เซลลิงก์ เอเยนต์ เนื่องจากSA เกือบทั้งหมดเป็นร้านค้าทอง ซึ่งกระจายอยู่หลายที่ ขณะที่บล.นั้นจะมีทีมงานฝ่ายวิเคราะห์ทีมเดียวอยู่ที่บริษัท จึงสามารถตรวจสอบได้ง่ายกว่า โดยข้อเหลื่อมล้ำนี้ เชื่อว่าเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายเข้าใจ เพียงแต่ต้องปล่อยไปก่อน เพื่อให้โกลด์ ฟิวเจอร์สสามารถเข้ามาซื้อขายในตลาดTFEXให้ได้ในช่วงเริ่มต้น แล้วจึงค่อยใช้กฏเกณฑ์ต่างๆเข้ามาควบคุมเพิ่มเติมภายหลัง
ส่วนการชักชวนลูกค้าไปลงทุนในทองคำต่างประเทศหลังตลาดTFEX ปิดการซื้อขาย แหล่งข่าว กล่าวว่า อาจเป็นเรื่องการป้องกันความเสี่ยงของโบรกเกอร์ด้วยการลงทุนต่างประเทศ หรือเป็นเรื่องของการสวมหมวกคนละใบ คนละหน้าที่ และเป็นข้อตกลงพร้อมใจของลูกค้าเอง ที่ต้องการไปลงทุนในทองคำเวลากลางคืน ทั้งที่ให้บริการไม่ครบตลอดเวลาที่ทองคำในต่างประเทศมีการซื้อขาย โดยโบรกฯทองคำที่จะมีความผิด มองว่าน่าจะเป็นส่วนการลงทุนในประเภท ลูกค้าไม่มีการจ่ายเงินลงทุนจริง แต่จะจ่ายเพียงเงินในส่วนหักลบกลบหนี้ในส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น หรือลดลงไปเท่านั้น และในจุดนี้ มองว่าอยู่นอกเหนืออำนาจของ ก.ล.ต.และTFEX แต่ควรเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ควรเข้ามาดูแลด้วย
แหล่งข่าวตัวแทนสนับสนุนการซื้อขาย (Selling Agent หรือ SA) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน โบรกเกอร์ร้านทองคำบางแห่งได้แนะนำการทำธุรกิจที่ผิดๆให้แก่ พวกตน และลูกค้า กล่าวคือ แนะนำให้ SA เข้าลงทุนในโกลด์ ฟิวเจอร์สเอง ผ่านการลงทุนที่ใช้วิธีเปิดบัญชีผู้อื่น เพื่อรับผลตอบแทนที่นอกเหนือจากส่วนแบ่งในรูปค่านายหน้าจากการหาลูกค้าให้เข้ามาเทรดโกลด์ฟิวเจอร์สผ่านบริษัท แต่ปรากฏว่า แทนที่เซลลิงก์ เอเยนต์ และลูกค้าจะได้รับข้อมูลคำแนะนำการลงทุนที่ถูกต้อง กลับโดนโบรกเกอร์ร้านทองตุกติก ด้วยวิธีส่งข้อมูลแนะนำการลงทุนที่คละกันทั้งShort และ Long ให้กับSA ในเครือ และแนะนำการลงทุนที่ตรงข้ามกับการลงทุนป้องกันความเสี่ยงของโบรกฯร้านทองเอง ส่งผลให้SA และลูกค้าที่ได้รับคำแนะนำนั้น พากันขาดทุนไปเป็นจำนวนมาก จนเกิดความไม่พอใจ
“โบรกฯร้านทอง เขาจะส่งบทวิเคราะห์มาให้เรา แต่ไม่เหมือนกันหมด เช่นมีSA 10 ราย ก็จะส่งว่าให้ลงShort ไป5ราย อีก 5 รายก็แนะให้ถือLong ซึ่งมันจะเป็นการสร้างปริมาณสัญญาลงทุน โดยตัวเขาก็จะได้รับค่าธุรกรรมจากการเปิดสัญญาที่มีจำนวนมากขึ้น และไม่สนว่าเราจะขาดทุนหรือไม่ พอขาดทุนมากเข้า ก็บอกมาว่าจะตั้งกองทุนทองให้เราและลูกค้าเอาเงินมาให้เขา แล้วเขาจะบริหารให้โดยรับประกันเงินต้น แต่ไม่รับประกันกำไร บางรายก็ใช้อาบิทราจมาล่อ โดยการันตีผลตอบแทน3-5%”
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวยังระบุว่า แม้จะส่งคำสั่งของลูกค้าไปให้โบรกเกอร์ร้านทองแล้ว แต่ค่าคอมมิสชั่นที่ตนควรได้รับ กลับไม่ได้มาเต็มที่ มีการค้างจ่ายให้แก่เซลลิงก์ เอเยนต์ไม่ครบถ้วนตามที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ผิดต่อหลักเกณฑ์ และตลาดอนุพันธ์(ประเทศไทย) กับ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเข้ามาดูแลและตรวจสอบในเรื่องนี้
ทั้งนี้ ปัญหาผลขาดทุนของSA ที่เริ่มมีกระแสความไม่พอใจต่อโบรกเกอร์ร้านทองในขณะนี้ เริ่มขึ้นจากโบรกเกอร์ร้านทองคำ ไม่พยายามซัพพอร์ตหรือช่วยเหลือSAของตนทั้งในด้านข้อมูลความรู้ การจัดกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ เหมือนที่เคยตกลงกันไว้ และเท่าที่ได้พูดคุยกับSA บางรายระบุว่าตอนชักชวนเข้าร่วมบอกว่าลงทุนเพียงประมาณ 1 ล้านบาทและจะได้รับผลตอบแทนกลับคืนเพียงแค่ 6 เดือน แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะผลที่ได้กลับคืนมาคือลูกค้าเพียงไม่กี่ราย จึงได้ค่าคอมมิชชั่นหรือค่านายหน้าไม่มากดังที่คาดไว้ โดยเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงการไม่ประสบความสำเร็จในการหาลูกค้าของ SA ด้วย
“โบรกเกอร์ร้านทอง ไม่ยอมวิเคราะห์ข้อด้อยของSA และควรแนะนำให้SA บอกลูกค้าว่าควรทยอยลงทุนจากน้อยไปก่อน โดยใช้ความรู้เป็นตัวนำ เพราะโบรกฯพยายามหาแต่แฟร์นไซด์มากกว่า เพื่อรับค่านายหน้าจากปริมาณสัญญาการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สเพียงอย่างเดียว”แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ บางแห่ง ยังมีการชักชวนลูกค้าเข้ามาซื้อขายGold Spot ในตอนกลางคืนหรือตอนปิดตลาด TFEXแล้ว แต่บังคับให้ลูกค้าตัดขายขาดทุนภายในไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงก่อนปิดให้บริการ (บางปิด22.00น. บางแห่ง 24.00 น.) ทั้งที่เวลาซื้อขายจริงมีเกือบทั้งคืน หรือประมาณ 04.00น.ของอีกวันหนึ่ง รวมทั้งมีการตั้งBid และOffer โดยเพิ่มส่วนต่างราคาซื้อขายจริงที่ส่งมาจากต่างประเทศ เข้าไปอีก 5 – 6 เหรียญ เพื่อรับกินเงินส่วนต่างนี้แทน ก่อนที่จะส่งคำสั่งซื้อของลูกค่าไปยังตลาดต่างประเทศ แต่หากบางครั้งราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเร็วไป จนลูกค้าต้องการจะขายทำกำไร และบริษัทหาวิธีรองรับไม่ทัน ก็ใช้วิธีหลบเลี่ยงการติดต่อสื่อสาร เช่นปิดโทรศัพท์ หรือทำเหมือนไม่มีผู้ให้บริการ จนทำให้ลูกค้าสูญเสียโอกาส
แหล่งข่าวกล่าวว่า เคยมีการพูดคุยกับคนในสมาคมผู้ค้าทองคำ แต่ทางสมาคมยอมรับว่า ไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ได้ เพราะทางสมาคมฯมีหน้าที่ในการดูแลเฉพาะธุรกิจด้านทองคำแท่ง และรูปพรรณเท่านั้น อีกทั้งโบรกเกอร์ร้านทองเหล่านี้ก็จดทะเบียนและเป็นสมาชิกของตลาดอนุพันธ์ ดังนั้นหากมีการดำเนินงานที่ไม่โปร่งใสเกิดขึ้น ก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ของตลาดอนุพันธ์ ซึ่งจุดนี้เชื่อว่า ทางสำนักงานก.ล.ต.เองก็จะเข้ามาดูแลได้ เพราะเชื่อว่ามีข้อมูลให้ตรวจสอบได้แน่นอน
**ดึงก.พาณิชย์ตั้งกฏคุมเทรดกลางคืน
แหล่งจากบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับผู้จะเข้ามาดำเนินตรวจสอบบทวิเคราะห์ที่มีการจัดส่งให้เซลลิงก์ เอเยนต์ เนื่องจากSA เกือบทั้งหมดเป็นร้านค้าทอง ซึ่งกระจายอยู่หลายที่ ขณะที่บล.นั้นจะมีทีมงานฝ่ายวิเคราะห์ทีมเดียวอยู่ที่บริษัท จึงสามารถตรวจสอบได้ง่ายกว่า โดยข้อเหลื่อมล้ำนี้ เชื่อว่าเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายเข้าใจ เพียงแต่ต้องปล่อยไปก่อน เพื่อให้โกลด์ ฟิวเจอร์สสามารถเข้ามาซื้อขายในตลาดTFEXให้ได้ในช่วงเริ่มต้น แล้วจึงค่อยใช้กฏเกณฑ์ต่างๆเข้ามาควบคุมเพิ่มเติมภายหลัง
ส่วนการชักชวนลูกค้าไปลงทุนในทองคำต่างประเทศหลังตลาดTFEX ปิดการซื้อขาย แหล่งข่าว กล่าวว่า อาจเป็นเรื่องการป้องกันความเสี่ยงของโบรกเกอร์ด้วยการลงทุนต่างประเทศ หรือเป็นเรื่องของการสวมหมวกคนละใบ คนละหน้าที่ และเป็นข้อตกลงพร้อมใจของลูกค้าเอง ที่ต้องการไปลงทุนในทองคำเวลากลางคืน ทั้งที่ให้บริการไม่ครบตลอดเวลาที่ทองคำในต่างประเทศมีการซื้อขาย โดยโบรกฯทองคำที่จะมีความผิด มองว่าน่าจะเป็นส่วนการลงทุนในประเภท ลูกค้าไม่มีการจ่ายเงินลงทุนจริง แต่จะจ่ายเพียงเงินในส่วนหักลบกลบหนี้ในส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น หรือลดลงไปเท่านั้น และในจุดนี้ มองว่าอยู่นอกเหนืออำนาจของ ก.ล.ต.และTFEX แต่ควรเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ควรเข้ามาดูแลด้วย