ASTVผู้จัดการรายวัน- ก.พลังงานเดินหน้าสำรวจปิโตรเลียมบนบกลงนามสัมปทาน 4 สัมปทาน 5 แปลงเผยสำรวจระยะ 3 ปีแรก(ปี 53-55) เตรียมลงทุน 47 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 1,500 ล้านบาท เผยปีนี้เปิดสัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 21 ไม่ทัน
วานนี้(25ก.พ.) นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีลงนามให้สัมปทานเพื่อสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแปลงสำรวจบนบกจำนวน 4 สัมปทาน ใน 5 แปลงสำรวจ แก่กลุ่มบริษัทผู้รับสัมปทาน 5 บริษัท ตาม พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ.2514
ทั้งนี้ แปลงสำรวจบนบก ประกอบด้วย 1. แปลงสำรวจหมายเลข L3/50 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ตาก และลำปาง ออกให้แก่ บริษัท JSX Energy (Thailand) Limited 2. แปลงสำรวจหมายเลข L50/50 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสระแก้ว บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ออกให้แก่บริษัท Pearl Oil (Resources) Ltd.
3. แปลงสำรวจหมายเลข L52/50 และ L53/50 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และกระบี่ ออกให้แก่ บริษัท Pearl Oil (Petroleum) Ltd. และ 4. บริษัท Carnarvon Petroleum Limited แปลงสำรวจหมายเลข L31/50 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และสุรินทร์ ออกให้แก่บริษัท Shaanxi Yanchang Petroleum (Group) Co., Ltd.
น.พ.วรรณรัตน์กล่าวว่า 5แปลงสำรวจมีข้อผูกพันที่จะต้องลงทุนดำเนินงานสำรวจช่วงระยะ 3 ปีแรก (ปี 2553 – 2555) คือ ทำการศึกษาธรณีวิทยา ธรณีฟิสิกส์ ประมวลผลข้อมูลเดิม การสำรวจวัดความไหวสะเทือนแบบ 2 มิติ ฯลฯ ซึ่งจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,500 ล้านบาท นอกจากนี้ การลงนามสัมปทานครั้งนี้รัฐจะได้รับเงินผลประโยชน์พิเศษในรูปของโบนัสการลงนาม เงินอุดหนุนเพื่อพัฒนาปิโตรเลียมในประเทศไทย ทุนการศึกษาและฝึกอบรม เป็นเงินอีกประมาณ 52 ล้านบาท
นายคุรุจิต นาครทรรพ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า การจะเปิดสัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 21 ต่อไปหรือไม่นั้นขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลในหลายๆ ด้านทั้งปัจจัยราคาน้ำมัน ภาวะเศรษฐกิจตลอดจนแปลงสำรวจที่เหลือว่าจะมีศักยภาพมากน้อยเพียงใดซึ่งคาดว่าปีนี้คงจะไม่ทัน
วานนี้(25ก.พ.) นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีลงนามให้สัมปทานเพื่อสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแปลงสำรวจบนบกจำนวน 4 สัมปทาน ใน 5 แปลงสำรวจ แก่กลุ่มบริษัทผู้รับสัมปทาน 5 บริษัท ตาม พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ.2514
ทั้งนี้ แปลงสำรวจบนบก ประกอบด้วย 1. แปลงสำรวจหมายเลข L3/50 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ตาก และลำปาง ออกให้แก่ บริษัท JSX Energy (Thailand) Limited 2. แปลงสำรวจหมายเลข L50/50 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสระแก้ว บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ออกให้แก่บริษัท Pearl Oil (Resources) Ltd.
3. แปลงสำรวจหมายเลข L52/50 และ L53/50 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และกระบี่ ออกให้แก่ บริษัท Pearl Oil (Petroleum) Ltd. และ 4. บริษัท Carnarvon Petroleum Limited แปลงสำรวจหมายเลข L31/50 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และสุรินทร์ ออกให้แก่บริษัท Shaanxi Yanchang Petroleum (Group) Co., Ltd.
น.พ.วรรณรัตน์กล่าวว่า 5แปลงสำรวจมีข้อผูกพันที่จะต้องลงทุนดำเนินงานสำรวจช่วงระยะ 3 ปีแรก (ปี 2553 – 2555) คือ ทำการศึกษาธรณีวิทยา ธรณีฟิสิกส์ ประมวลผลข้อมูลเดิม การสำรวจวัดความไหวสะเทือนแบบ 2 มิติ ฯลฯ ซึ่งจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,500 ล้านบาท นอกจากนี้ การลงนามสัมปทานครั้งนี้รัฐจะได้รับเงินผลประโยชน์พิเศษในรูปของโบนัสการลงนาม เงินอุดหนุนเพื่อพัฒนาปิโตรเลียมในประเทศไทย ทุนการศึกษาและฝึกอบรม เป็นเงินอีกประมาณ 52 ล้านบาท
นายคุรุจิต นาครทรรพ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า การจะเปิดสัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 21 ต่อไปหรือไม่นั้นขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลในหลายๆ ด้านทั้งปัจจัยราคาน้ำมัน ภาวะเศรษฐกิจตลอดจนแปลงสำรวจที่เหลือว่าจะมีศักยภาพมากน้อยเพียงใดซึ่งคาดว่าปีนี้คงจะไม่ทัน