วานนี้ (24 ก.พ.) ที่ รร.ดิเอ็มเมอรัลด์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ตอนหนึ่ง ในหัวข้อเรื่อง นโยบายการประกันรายได้ของเกษตรกร ในการสัมมนาเรื่อง มาตรการแทรกแซงตลาดพืชผลการเกษตรเพื่อป้องกันการทุจริต ที่จัดโดยสำนักงานป.ป.ช. ว่า ภารกิจของป.ป.ช.ที่คนทั่วไปมักจะมุ่งไปในเรื่องของกรณีที่เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นแล้ว และจึงมีการตรวจสอบ เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ ตนทราบว่าการทำงานของ ป.ป.ช. ต้องการทำงานเชิงลึกมากขึ้น หมายถึง การศึกษาเพื่อที่จะหาแนวทางในการป้องกันและลดการทุจริต และหากทำได้สำเร็จก็จะทำให้การปราบปรามการทุจริตมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การสัมมนาในหัวข้อ มาตรการแทรกแซงตลาดพืชผลการเกษตรเพื่อป้องกันการทุจริต นับเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากและงบประมาณจำนวนมหาศาล ที่ผ่านมามีการกล่าวหาและมีการทุจริตเกิดขึ้นหลายครั้งในหลายรูปแบบ กับกรณีสินค้าเกษตรอาจจะเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่จะสะท้อนและนำไปสู่ข้อคิดในเรื่องแนวทางการกำหนดนโยบายสาธารณะ หรือนโยบายการแก้ไขปัญหาต่างๆในลักษณะที่จะมีการป้องกันหรือไม่ให้การทุจริตเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นที่จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานต่างๆและกับป.ป.ช.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เรื่องสินค้าเกษตรในขั้นตอนการรับจำนำที่มีหลายขั้นตอนอาทิ เรื่องโควตา ,การตรวจสอบปริมาณ,คุณภาพ และประเภทพืชผลผลทางการเกษตร ต่างนั้น เป็นช่องว่างที่สามารถทุจริตได้ในหลายขั้นตอน และโครงการที่รัฐเข้าไปแทรกแซงและรับจำนำในราคาที่สูงเกินความเป็นจริงทำให้รัฐบาลต้องมี สต๊อกสินค้าทางการเกษตรไว้เป็นจำนวนมาก ในต้นทุนที่สูง และจำเป็นต้องเร่งระบายสินค้า จุดนี้ก็เป็นอีกช่องทางในการทุจริต
“ กรณีของลำไยที่เกิดขึ้นในอดีตสร้างปัญหามากมาย รัฐบาลต้องเสียงบประมาณไปเป็นจำนวนมาก การเข้าไปแทรกแซงของรัฐบาลในครั้งนั้นทำให้เกิดการทุจริต ที่ส่งผลกระทบไปยังเกษตรกรที่บางครั้งไม่ทราบถูกชักจูงให้มาเกี่ยวข้องทำให้ถูกลงโทษในที่สุด บางรายก็มีชื่ออยู่ในบัญชีดำทำให้เข้าโครงการต่างๆของรัฐบาลได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า บทเรียนที่ตนคิดว่า ทางป.ป.ช.น่าจะสรุป นอกเหนือจากตัวนโยบายแล้วคือปัญหาการทุจริตในภาครัฐที่เกิดขึ้น สามารถป้องกันได้ ถ้ามีการออกแบบนโยบาย และกำหนดกติกาต่างๆให้เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด มีขั้นตอนที่ยุ่งยากน้อยที่สุด ฝืนธรรมชาติน้อยที่สุด และตราบใดก็ตามที่เราพยายามที่จะผลักดันนโยบายใดก็ตามที่ฝืนธรรมชาติ ที่ฝืนตลาด ที่ต้องมีขั้นตอนที่ต้องมีการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ก็จะทำให้เกิดช่องทางและช่องว่างให้คนมาแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบตลอดเวลา และกับพืชผลทางการเกษตรก็ยังมีอีกหลายตัวที่รัฐบาลต้องไปสะสางเช่น อ้อย และราคาน้ำตาล ส่วนผลไม้ก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ อยู่นั้น บริเวณชั้นล่างด้านซ้ายมือหน้าโรงแรมได้มีกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มาจากบริเวณย่านห้วยขวางประมาณ 10 คน พากันมารวมตัวและชูมือตบโห่ร้องขับไล่นายอภิสิทธิ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.ห้วยขวางควบคุมอยู่ และเมื่อนายอภิสิทธิ์เสร็จสิ้นภารกิจก็ได้เดินทางวออกจากรร.โดยทันทีเพื่อไปปฏิบัติภารกิจในการประชุมสภาฯ โดยขบวนรถนายกฯได้ใช้เส้นทางที่ใช้เป็นเส้นทางเข้ารร.เป็น เส้นทางเดินทางออก โดยไม่ผ่านกลุ่มผู้คนเสื้อแดงดังกล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การสัมมนาในหัวข้อ มาตรการแทรกแซงตลาดพืชผลการเกษตรเพื่อป้องกันการทุจริต นับเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากและงบประมาณจำนวนมหาศาล ที่ผ่านมามีการกล่าวหาและมีการทุจริตเกิดขึ้นหลายครั้งในหลายรูปแบบ กับกรณีสินค้าเกษตรอาจจะเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่จะสะท้อนและนำไปสู่ข้อคิดในเรื่องแนวทางการกำหนดนโยบายสาธารณะ หรือนโยบายการแก้ไขปัญหาต่างๆในลักษณะที่จะมีการป้องกันหรือไม่ให้การทุจริตเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นที่จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานต่างๆและกับป.ป.ช.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เรื่องสินค้าเกษตรในขั้นตอนการรับจำนำที่มีหลายขั้นตอนอาทิ เรื่องโควตา ,การตรวจสอบปริมาณ,คุณภาพ และประเภทพืชผลผลทางการเกษตร ต่างนั้น เป็นช่องว่างที่สามารถทุจริตได้ในหลายขั้นตอน และโครงการที่รัฐเข้าไปแทรกแซงและรับจำนำในราคาที่สูงเกินความเป็นจริงทำให้รัฐบาลต้องมี สต๊อกสินค้าทางการเกษตรไว้เป็นจำนวนมาก ในต้นทุนที่สูง และจำเป็นต้องเร่งระบายสินค้า จุดนี้ก็เป็นอีกช่องทางในการทุจริต
“ กรณีของลำไยที่เกิดขึ้นในอดีตสร้างปัญหามากมาย รัฐบาลต้องเสียงบประมาณไปเป็นจำนวนมาก การเข้าไปแทรกแซงของรัฐบาลในครั้งนั้นทำให้เกิดการทุจริต ที่ส่งผลกระทบไปยังเกษตรกรที่บางครั้งไม่ทราบถูกชักจูงให้มาเกี่ยวข้องทำให้ถูกลงโทษในที่สุด บางรายก็มีชื่ออยู่ในบัญชีดำทำให้เข้าโครงการต่างๆของรัฐบาลได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า บทเรียนที่ตนคิดว่า ทางป.ป.ช.น่าจะสรุป นอกเหนือจากตัวนโยบายแล้วคือปัญหาการทุจริตในภาครัฐที่เกิดขึ้น สามารถป้องกันได้ ถ้ามีการออกแบบนโยบาย และกำหนดกติกาต่างๆให้เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด มีขั้นตอนที่ยุ่งยากน้อยที่สุด ฝืนธรรมชาติน้อยที่สุด และตราบใดก็ตามที่เราพยายามที่จะผลักดันนโยบายใดก็ตามที่ฝืนธรรมชาติ ที่ฝืนตลาด ที่ต้องมีขั้นตอนที่ต้องมีการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ก็จะทำให้เกิดช่องทางและช่องว่างให้คนมาแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบตลอดเวลา และกับพืชผลทางการเกษตรก็ยังมีอีกหลายตัวที่รัฐบาลต้องไปสะสางเช่น อ้อย และราคาน้ำตาล ส่วนผลไม้ก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ อยู่นั้น บริเวณชั้นล่างด้านซ้ายมือหน้าโรงแรมได้มีกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มาจากบริเวณย่านห้วยขวางประมาณ 10 คน พากันมารวมตัวและชูมือตบโห่ร้องขับไล่นายอภิสิทธิ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.ห้วยขวางควบคุมอยู่ และเมื่อนายอภิสิทธิ์เสร็จสิ้นภารกิจก็ได้เดินทางวออกจากรร.โดยทันทีเพื่อไปปฏิบัติภารกิจในการประชุมสภาฯ โดยขบวนรถนายกฯได้ใช้เส้นทางที่ใช้เป็นเส้นทางเข้ารร.เป็น เส้นทางเดินทางออก โดยไม่ผ่านกลุ่มผู้คนเสื้อแดงดังกล่าว
