ศูนย์ข่าวภูมิภาค - “ชัยวุฒิ” แฉลูกสมุน "นช.แม้ว" เตรียมขอยืมรถ มรภ.ทางภาคอีสานเป็นพาหนะขนคนมาร่วมม็อบเสื้อแดงป่วนกรุง พร้อมเตือนสติ ขรก. พนักงาน อย่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง แนะวางตัวเป็นกลาง “มทภ.2 ” เผย “ป๋าเปรม” ห่วงการชุมนุมของคนเสื้อแดง ถามถึงการเคลื่อนไหวในภาคอีสาน ฝาก ปชช.ให้คำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลัก "ป้าทักษิณ" ระดมเสื้อแดงลำพูน ทำบุญสะเดาเคราะห์หวั่นถูกยึดทรัพย์
นายชัยวุฒิ บรรณาวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยในสถาบันการศึกษาว่า การดูแลไม่ใช่เฉพาะมหาวิทยาลัยเท่านั้น รวมถึงโรงเรียนด้วย เพราะข้าราชการ พนักงานราชการ ไม่ควรเป็นผู้ที่มีส่วนทำให้เหตุความรุนแรง หรือกลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิดความรุนแรง หรือความวุ่นวายทางการเมือง ควรวางตัวเป็นกลางทางการเมืองจะเหมาะสมกว่า
“ทราบมาว่ามีการขอยืมรถของมหาวิทยาลัยราชภัฏ ทางภาคอีสานจะใช้เป็นพาหนะขนคนเพื่อเข้ามาร่วมชุมนุม ซึ่งไม่ควรให้เกิดขึ้น อยากให้ทุกมหาวิทยาลัยระมัดระวังอย่าให้เกิดเรื่องลักษณะนี้ สำหรับการดูแลความปลอดภัยโดยรอบของสถานที่ราชการ ได้ประชุมร่วมกับนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการให้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ระมัดระวังเพราะมีบทเรียนจาการชุมนุมครั้งก่อนที่เกือบจะเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มาแล้วครั้งนี้ ต้องเฝ้าระมัดระวังเพิ่มขึ้น” นายชัยวุฒิ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดคุยกรณีการรวมตัวของนักศึกษามหาวิทยารามคำแหงหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับ อธิการ ม.รามคำแหง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีเวลาในการสอนเรื่องระบอบประชาธิปไตย หรือเรื่องราวลักษณะนี้น้อย ตนเชื่อว่านักศึกษาโตพอที่เขาจะรู้และเข้าใจว่าควรกระทำตัวอย่างไร แต่หากเขาจะเคลื่อนไหวแต่ทำในรูปของกลุ่ม สโมสรในมหาวิทยาลัยก็ถือเป็นสิทธิเสรีภาพของนักศึกษา เราก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปห้าม
**มทภ.2เผย"ป๋า"ถามเป็นห่วงม็อบเสื้อแดง
ด้าน พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวเผยภายหลังเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านพัก “บ้านแม่ทัพ” เลขที่ 1885 ถ.สืบศิริ หน้ากองบัญชาการช่วยที่ 2 (บชร.2) กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ก่อนที่ พล.อ.เปรม เดินทางกลับบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 10.00 น.ของวานนี้ว่า พล.อ.เปรม เดินทางมาพักผ่อนที่บ้านพักโคราชตามปกติ ท่านไม่ได้กำชับหรืออะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ได้สอบถามเกี่ยวกับภารกิจของแม่ทัพภาคที่ 2 ของผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ว่ามีงานอะไรบ้าง ซึ่งเป็นการพูดคุยกันธรรมดา ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
นอกจากนี้ พล.อ.เปรม ท่านยังได้ซักถามเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มพลังมวลชนโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่ามีอะไร อย่างไรบ้าง ซึ่งตน และพล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ตร.ภ.3) และนายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียนให้ท่านทราบว่า ก็มีบ้าง แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวที่จะก่อให้เกิดเหตุรุนแรงหรือน่าวิตกกังวลแต่อย่างใด
“อย่างไรก็ตามขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่า ขณะนี้บ้านเมืองเราเกิดปัญหาความแตกแยก เกิดการแตกความสามัคคีกัน อยากให้พี่น้องทุกคนหันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน อยากขอให้คำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลัก เพราะขณะนี้ต่างชาติดูเราอยู่ อยากจะให้ช่วยกันทำให้เกิดความสงบสุข เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก” พล.ท.วีร์วลิต กล่าว
**ป้า"นช.แม้ว"ระดมเสื้อแดงทำบุญสะเดาเคราะห์
เช้าวันเดียวกันมีรายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มคนเสื้อแดงรักเชียงใหม่ 51 นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล และนางกัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม รวมตัวที่หน้าโรงแรมวโรรส แกรนด์พาเลซ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อออกเดินทางไปยังวัดสันป่ายางหลวง อ.เมือง จ.ลำพูน เพื่อร่วมกับนางจันทร์สม ชินวัตร ป้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อประกอบพิธีทำบุญสืบชะตาหลวงล้านนาในเวลา 08.30 น. เพื่อสะเดาะเคราะห์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.ลำพูน พร้อมสมาชิกคนเสื้อแดงจาก จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูนกว่า 300 คน เข้าร่วมพิธี
นางกัญญาภัค กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็นการสืบชะตาหลวงตามประเพณีล้านนามีเกจิอาจารย์ชื่อดังของชาวล้านนากว่า 25 รูป ร่วมประกอบพิธีสำคัญ ซึ่งมีการไถ่ชีวิตโคกระบือจำนวน 3 ตัว เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กำลังถูกตัดสินในคดียึดทรัพย์ 6.7 หมื่นล้านบาท
"เรายังไม่ได้สรุปว่าจะเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ หรือไม่ คาดว่าจะรอประเมินสถานการณ์ก่อน เบื้องต้นจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่หน้าโรงแรมเพื่อฟังคำตัดสินพร้อมกัน หากผลออกมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกยึดทรัพย์ มั่นใจได้เลยว่ากลุ่มเสื้อแดงไม่มีทางยอม และจะต้องเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน" นางกัญญาภัค กล่าว
**เผยเกมรวมกลุ่มแดง ชร.ล่มชี้“หัวคิว”เป็นเหตุ
มีรายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า หลังจากกลุ่ม นปช.เชียงราย 52 มีความพยายามจะรวมกลุ่มกันตั้งร้าน Red Shop ข้างโรงแรมวังคำ อ.เมือง และดึง "เลขาตุ๋ย-มือจ่ายเงินในเขตเลือกตั้งที่ 3 ของกลุ่มการเมืองใหญ่ในพื้นที่" ที่ว่ากันว่าเป็นคนเคยใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่หลบหนีคดีอาญาแผ่นดินนั้น เพื่อจัดตั้งกลุ่มแดงเชียงรายเอาไว้ขับเคลื่อนครั้งใหญ่ในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ก่อนคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท และอ้างว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนเสื้อแดงกลุ่มต่างๆ นั้น ปรากฏว่า ล่าสุดแผนการทั้งหมดต้องล้มเหลว เพราะมีหลายกลุ่มไม่ให้การยอมรับ
แกนนำคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่ง เปิดเผยว่า สำหรับเลขาตุ๋ย เป็นน้อง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งหนึ่งในเชียงแสน โดยเป็นแม่หม้ายเปิดร้านอินเตอร์เน็ตอยู่ที่ถนนภายในตัว อ.เชียงแสน ซึ่งหลังจากเป็นหม้ายได้ไปมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ดังนั้นเมื่อเร็วๆ นี้จึงได้รับความไว้วางใจให้กลับไปร่วมงานกับกลุ่มการเมือง และกลุ่มคนเสื้อแดงเฉพาะพื้นที่เชียงราย โดยให้ประสานกับกลุ่มคนเสื้อแดงต่างๆ แต่เลขาตุ๋ย ต้องการจะให้บทบาทดังกล่าวในการส่งเสริมให้พี่ชายได้เติบโตทางการเมืองมากกว่า ดังนั้นจึงได้หันมาร่วมกับกลุ่มร้าน Red Shop ดังกล่าวเพียงกลุ่มเดียวและเปิดตัวพี่ชายในการประชุมแกนนำคนเสื้อแดงหลายกลุ่มไปเมื่อเร็วๆ นี้
"ทราบมาด้วยว่าก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ให้เงิน 800,000 บาทให้เลขาตุ๋ย ไปทอดผ้าป่าที่วัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงแสน แต่เมื่อถึงเวลาแทนที่จะให้เครดิตท่านทักษิณ ในการเป็นองค์ประธานหรือผู้บริจาค กลับใช้ชื่อตัวเองในการทอดผ้าป่าเสีย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ทำให้หลายคนที่พบเห็นเริ่มไม่เชื่อถือ" แกนนำคนเสื้อแดงคนหนึ่งกล่าว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่าในหมู่บรรดา ส.ส.ในเชียงราย ก็ไม่ค่อยพอใจเลขาตุ๋ย มากนัก เพราะมักจะอ้างการผูกขาดนำมวลชนไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้ ปัจจุบันจึงเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มที่อยู่ในร้าน Red Shop ซึ่งกลุ่ม นปช.เชียงราย 52 ใช้เป็นสถานที่ประสานงานใหญ่นำโดยนายจิระโชติ อุ่นนะ และนายณรงค์ ทิพย์นวล โดยก่อนหน้านี้เตรียมจัดกิจกรรมโรงเรียน นปช.ที่โรงแรมวังทอง อ.แม่สาย โดยมีแผนจะระดมเงินทุนจากฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองให้ได้อำเภอละ 10,000 บาท เพื่อนำไปจ้างคนให้เข้าร่วมโรงเรียน
แต่มีข่าวรั่วว่าอาจจะมีการหักหัวคิว 20% รวมทั้งมีข่าวความขัดแย้งกับกลุ่มอื่นๆ และปัญหาที่ นปช.ส่วนกลาง จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกการจัดกิจกรรมไปในที่สุด
ด้าน น.ส.จิรนันท์ จันทวงษ์ แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย กล่าวว่า กลุ่มเราไม่จำเป็นต้องไปร่วมกับกลุ่มที่ร้าน Red Shop ที่สำคัญเรามีแนวทางการเคลื่อนไหวที่ตรงไปตรงมาโดยเฉพาะด้านข้อมูลต่างๆ นั้นตนไม่มีปิดบังอำพลางกับสมาชิกอยู่แล้ว
ขณะที่ น.ส.เกษนีย์ ชื่นชม แกนนำชมรมคนรักทักษิณ เชียงราย 49 กล่าวว่า ปัจจุบันตนมีรถยนต์ซึ่งติดตั้งเครื่องเสียงด้วยงบประมาณส่วนตัวและภายในกลุ่มของพวกเราเรียบร้อยแล้ว เคยออกไปร่วมการชุมนุมกับ นปช.ส่วนกลางที่กรุงเทพฯ และสถานที่อื่นๆ ที่ถูกกำหนดไว้แล้วหลายครั้ง จึงไม่เห็นการไปร่วมกันจัดตั้งกลุ่มแดงเชียงรายจะเกิดประโยชน์อย่างไร
สำหรับการเคลื่อนไหวของมวลชนคนเสื้อแดงในพื้นที่ จ.เชียงราย พบว่าหน่วยงานต่างๆ ได้มีการประเมินใกล้เคียงกันว่าแกนนำคนเสื้อแดงแต่ละกลุ่ม กำลังเตรียมจะนำมวลชนของตัวเองทั้งหมดเดินทางไปร่วมการชุมนุมที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ แต่ก็มีบางหน่วยที่รับทราบข้อมูลที่แตกต่างออกไปว่า จะมีการนำมวลชนเพียงบางส่วนไปร่วมการชุมนุมที่กรุงเทพฯ แต่ส่วนหนึ่งจะปักหลักชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดทุกแห่งใกล้เคียงกับการชุมนุมในช่วงเดือน เม.ย.2552 ที่ผ่านมา
โดยขณะนี้มีความเคลื่อนไหวเตรียมวัสดุอุปกรณ์และเสบียงเพื่อเตรียมพร้อมจะชุมนุมยาวหลายวันบริเวณศาลากลางจังหวัดควบคู่กับการชุมนุมที่กรุงเทพฯ ด้วย อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวในอนาคตต้องเฝ้าจับตากันวันต่อวัน เนื่องจากปัจจุบันเกือบทุกกลุ่มรอคำสั่งจาก นปช.ส่วนกลางทำให้ไม่สามารถตัดสินใจกันเองในพื้นที่ได้
นายชัยวุฒิ บรรณาวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยในสถาบันการศึกษาว่า การดูแลไม่ใช่เฉพาะมหาวิทยาลัยเท่านั้น รวมถึงโรงเรียนด้วย เพราะข้าราชการ พนักงานราชการ ไม่ควรเป็นผู้ที่มีส่วนทำให้เหตุความรุนแรง หรือกลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิดความรุนแรง หรือความวุ่นวายทางการเมือง ควรวางตัวเป็นกลางทางการเมืองจะเหมาะสมกว่า
“ทราบมาว่ามีการขอยืมรถของมหาวิทยาลัยราชภัฏ ทางภาคอีสานจะใช้เป็นพาหนะขนคนเพื่อเข้ามาร่วมชุมนุม ซึ่งไม่ควรให้เกิดขึ้น อยากให้ทุกมหาวิทยาลัยระมัดระวังอย่าให้เกิดเรื่องลักษณะนี้ สำหรับการดูแลความปลอดภัยโดยรอบของสถานที่ราชการ ได้ประชุมร่วมกับนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการให้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ระมัดระวังเพราะมีบทเรียนจาการชุมนุมครั้งก่อนที่เกือบจะเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มาแล้วครั้งนี้ ต้องเฝ้าระมัดระวังเพิ่มขึ้น” นายชัยวุฒิ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดคุยกรณีการรวมตัวของนักศึกษามหาวิทยารามคำแหงหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับ อธิการ ม.รามคำแหง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีเวลาในการสอนเรื่องระบอบประชาธิปไตย หรือเรื่องราวลักษณะนี้น้อย ตนเชื่อว่านักศึกษาโตพอที่เขาจะรู้และเข้าใจว่าควรกระทำตัวอย่างไร แต่หากเขาจะเคลื่อนไหวแต่ทำในรูปของกลุ่ม สโมสรในมหาวิทยาลัยก็ถือเป็นสิทธิเสรีภาพของนักศึกษา เราก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปห้าม
**มทภ.2เผย"ป๋า"ถามเป็นห่วงม็อบเสื้อแดง
ด้าน พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวเผยภายหลังเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านพัก “บ้านแม่ทัพ” เลขที่ 1885 ถ.สืบศิริ หน้ากองบัญชาการช่วยที่ 2 (บชร.2) กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ก่อนที่ พล.อ.เปรม เดินทางกลับบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 10.00 น.ของวานนี้ว่า พล.อ.เปรม เดินทางมาพักผ่อนที่บ้านพักโคราชตามปกติ ท่านไม่ได้กำชับหรืออะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ได้สอบถามเกี่ยวกับภารกิจของแม่ทัพภาคที่ 2 ของผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ว่ามีงานอะไรบ้าง ซึ่งเป็นการพูดคุยกันธรรมดา ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
นอกจากนี้ พล.อ.เปรม ท่านยังได้ซักถามเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มพลังมวลชนโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่ามีอะไร อย่างไรบ้าง ซึ่งตน และพล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ตร.ภ.3) และนายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียนให้ท่านทราบว่า ก็มีบ้าง แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวที่จะก่อให้เกิดเหตุรุนแรงหรือน่าวิตกกังวลแต่อย่างใด
“อย่างไรก็ตามขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่า ขณะนี้บ้านเมืองเราเกิดปัญหาความแตกแยก เกิดการแตกความสามัคคีกัน อยากให้พี่น้องทุกคนหันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน อยากขอให้คำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลัก เพราะขณะนี้ต่างชาติดูเราอยู่ อยากจะให้ช่วยกันทำให้เกิดความสงบสุข เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก” พล.ท.วีร์วลิต กล่าว
**ป้า"นช.แม้ว"ระดมเสื้อแดงทำบุญสะเดาเคราะห์
เช้าวันเดียวกันมีรายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มคนเสื้อแดงรักเชียงใหม่ 51 นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล และนางกัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม รวมตัวที่หน้าโรงแรมวโรรส แกรนด์พาเลซ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อออกเดินทางไปยังวัดสันป่ายางหลวง อ.เมือง จ.ลำพูน เพื่อร่วมกับนางจันทร์สม ชินวัตร ป้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อประกอบพิธีทำบุญสืบชะตาหลวงล้านนาในเวลา 08.30 น. เพื่อสะเดาะเคราะห์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.ลำพูน พร้อมสมาชิกคนเสื้อแดงจาก จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูนกว่า 300 คน เข้าร่วมพิธี
นางกัญญาภัค กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็นการสืบชะตาหลวงตามประเพณีล้านนามีเกจิอาจารย์ชื่อดังของชาวล้านนากว่า 25 รูป ร่วมประกอบพิธีสำคัญ ซึ่งมีการไถ่ชีวิตโคกระบือจำนวน 3 ตัว เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กำลังถูกตัดสินในคดียึดทรัพย์ 6.7 หมื่นล้านบาท
"เรายังไม่ได้สรุปว่าจะเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ หรือไม่ คาดว่าจะรอประเมินสถานการณ์ก่อน เบื้องต้นจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่หน้าโรงแรมเพื่อฟังคำตัดสินพร้อมกัน หากผลออกมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกยึดทรัพย์ มั่นใจได้เลยว่ากลุ่มเสื้อแดงไม่มีทางยอม และจะต้องเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน" นางกัญญาภัค กล่าว
**เผยเกมรวมกลุ่มแดง ชร.ล่มชี้“หัวคิว”เป็นเหตุ
มีรายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า หลังจากกลุ่ม นปช.เชียงราย 52 มีความพยายามจะรวมกลุ่มกันตั้งร้าน Red Shop ข้างโรงแรมวังคำ อ.เมือง และดึง "เลขาตุ๋ย-มือจ่ายเงินในเขตเลือกตั้งที่ 3 ของกลุ่มการเมืองใหญ่ในพื้นที่" ที่ว่ากันว่าเป็นคนเคยใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่หลบหนีคดีอาญาแผ่นดินนั้น เพื่อจัดตั้งกลุ่มแดงเชียงรายเอาไว้ขับเคลื่อนครั้งใหญ่ในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ก่อนคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท และอ้างว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนเสื้อแดงกลุ่มต่างๆ นั้น ปรากฏว่า ล่าสุดแผนการทั้งหมดต้องล้มเหลว เพราะมีหลายกลุ่มไม่ให้การยอมรับ
แกนนำคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่ง เปิดเผยว่า สำหรับเลขาตุ๋ย เป็นน้อง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งหนึ่งในเชียงแสน โดยเป็นแม่หม้ายเปิดร้านอินเตอร์เน็ตอยู่ที่ถนนภายในตัว อ.เชียงแสน ซึ่งหลังจากเป็นหม้ายได้ไปมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ดังนั้นเมื่อเร็วๆ นี้จึงได้รับความไว้วางใจให้กลับไปร่วมงานกับกลุ่มการเมือง และกลุ่มคนเสื้อแดงเฉพาะพื้นที่เชียงราย โดยให้ประสานกับกลุ่มคนเสื้อแดงต่างๆ แต่เลขาตุ๋ย ต้องการจะให้บทบาทดังกล่าวในการส่งเสริมให้พี่ชายได้เติบโตทางการเมืองมากกว่า ดังนั้นจึงได้หันมาร่วมกับกลุ่มร้าน Red Shop ดังกล่าวเพียงกลุ่มเดียวและเปิดตัวพี่ชายในการประชุมแกนนำคนเสื้อแดงหลายกลุ่มไปเมื่อเร็วๆ นี้
"ทราบมาด้วยว่าก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ให้เงิน 800,000 บาทให้เลขาตุ๋ย ไปทอดผ้าป่าที่วัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงแสน แต่เมื่อถึงเวลาแทนที่จะให้เครดิตท่านทักษิณ ในการเป็นองค์ประธานหรือผู้บริจาค กลับใช้ชื่อตัวเองในการทอดผ้าป่าเสีย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ทำให้หลายคนที่พบเห็นเริ่มไม่เชื่อถือ" แกนนำคนเสื้อแดงคนหนึ่งกล่าว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่าในหมู่บรรดา ส.ส.ในเชียงราย ก็ไม่ค่อยพอใจเลขาตุ๋ย มากนัก เพราะมักจะอ้างการผูกขาดนำมวลชนไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้ ปัจจุบันจึงเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มที่อยู่ในร้าน Red Shop ซึ่งกลุ่ม นปช.เชียงราย 52 ใช้เป็นสถานที่ประสานงานใหญ่นำโดยนายจิระโชติ อุ่นนะ และนายณรงค์ ทิพย์นวล โดยก่อนหน้านี้เตรียมจัดกิจกรรมโรงเรียน นปช.ที่โรงแรมวังทอง อ.แม่สาย โดยมีแผนจะระดมเงินทุนจากฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองให้ได้อำเภอละ 10,000 บาท เพื่อนำไปจ้างคนให้เข้าร่วมโรงเรียน
แต่มีข่าวรั่วว่าอาจจะมีการหักหัวคิว 20% รวมทั้งมีข่าวความขัดแย้งกับกลุ่มอื่นๆ และปัญหาที่ นปช.ส่วนกลาง จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกการจัดกิจกรรมไปในที่สุด
ด้าน น.ส.จิรนันท์ จันทวงษ์ แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย กล่าวว่า กลุ่มเราไม่จำเป็นต้องไปร่วมกับกลุ่มที่ร้าน Red Shop ที่สำคัญเรามีแนวทางการเคลื่อนไหวที่ตรงไปตรงมาโดยเฉพาะด้านข้อมูลต่างๆ นั้นตนไม่มีปิดบังอำพลางกับสมาชิกอยู่แล้ว
ขณะที่ น.ส.เกษนีย์ ชื่นชม แกนนำชมรมคนรักทักษิณ เชียงราย 49 กล่าวว่า ปัจจุบันตนมีรถยนต์ซึ่งติดตั้งเครื่องเสียงด้วยงบประมาณส่วนตัวและภายในกลุ่มของพวกเราเรียบร้อยแล้ว เคยออกไปร่วมการชุมนุมกับ นปช.ส่วนกลางที่กรุงเทพฯ และสถานที่อื่นๆ ที่ถูกกำหนดไว้แล้วหลายครั้ง จึงไม่เห็นการไปร่วมกันจัดตั้งกลุ่มแดงเชียงรายจะเกิดประโยชน์อย่างไร
สำหรับการเคลื่อนไหวของมวลชนคนเสื้อแดงในพื้นที่ จ.เชียงราย พบว่าหน่วยงานต่างๆ ได้มีการประเมินใกล้เคียงกันว่าแกนนำคนเสื้อแดงแต่ละกลุ่ม กำลังเตรียมจะนำมวลชนของตัวเองทั้งหมดเดินทางไปร่วมการชุมนุมที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ แต่ก็มีบางหน่วยที่รับทราบข้อมูลที่แตกต่างออกไปว่า จะมีการนำมวลชนเพียงบางส่วนไปร่วมการชุมนุมที่กรุงเทพฯ แต่ส่วนหนึ่งจะปักหลักชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดทุกแห่งใกล้เคียงกับการชุมนุมในช่วงเดือน เม.ย.2552 ที่ผ่านมา
โดยขณะนี้มีความเคลื่อนไหวเตรียมวัสดุอุปกรณ์และเสบียงเพื่อเตรียมพร้อมจะชุมนุมยาวหลายวันบริเวณศาลากลางจังหวัดควบคู่กับการชุมนุมที่กรุงเทพฯ ด้วย อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวในอนาคตต้องเฝ้าจับตากันวันต่อวัน เนื่องจากปัจจุบันเกือบทุกกลุ่มรอคำสั่งจาก นปช.ส่วนกลางทำให้ไม่สามารถตัดสินใจกันเองในพื้นที่ได้