xs
xsm
sm
md
lg

"ลูกกัลยาณี" โต้เสื้อแดง ยันแม่ทำบุญกับป๋าเปรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "วัชระ พรรณเชษฐ์" ลูกชาย "กัลยาณี" โต้เสื้อแดง แจงเงินแม่ให้ "ป๋าเปรม" แค่ทำบุญร่วมกันที่วัดสวนแก้ว ไม่เกี่ยวธุรกิจ พร้อมโชว์ใบอนุโมทนาบัตร ขณะที่ "ณัฐวุฒิ" ยังไม่เลิกตอแย เตรียมเปิดข้อมูลเงินไหลเข้าบัญชี "ป๋า" อีก ส่วนแก๊งเสื้อแดงบุกป่วน กกต. "วีระ" ยัน 26 ก.พ.ไม่ก่อม็อบกดดันศาลฯตัดสินคดียึดทรัพย์

วานนี้ (15 ก.พ.) นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย บุตรชายนางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ ชี้แจงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวหาพัวพันเส้นทางการเงินของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองมนตรีและรัฐบุรุษว่า คุณแม่ตนไม่สบายใจที่ทำให้ผู้ใหญ่ที่นับถือเสียหาย เพราะเงินก้อนดังกล่าวเป็นการช่วยทำบุญกันของผู้ใหญ่ทั้ง 2 ท่าน โดยเงินก้อนนี้เป็นการไปทำบุญที่วัดสวนแก้ว เมื่อช่วงปี 2546-2547 เพื่อก่อสร้างอาคารให้คนที่มาจากต่างจังหวัดแล้วไม่มีที่พักอาศัยได้อาศัย

"เงินที่บริจาคเป็นโครงการบ้านทักษะชีวิตของวัดสวนแก้วโดยให้ผู้มาทำธุระมาพักอาศัยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย นายวัชระ กล่าวพร้อมกับโชว์หลักฐานคือ ใบอนุโมทนาบัตร ภาพอาคารทักษะชีวิต สำเนาเช็คต่อสื่อมวลชน สำหรับใบอนุโมทนาบัตรออกเมื่อวันที่ 20 ส.ค.47 ซึ่งเช็คสั่งจ่าย 5 มี.ค.47 พองานก่อสร้างเสร็จวัดตรวจรับแล้วจึงมีการออกอนุโมทนาบัตรให้ ออกโดยวัดสวนแก้วลงนามโดยพระพิศาลธรรมพาที หรือพระพยอม ให้กับบริษัทเอ็มเอ็นเอช โฮลดิ้งจำกัดในนามผู้บริจาค"

ส่วนที่ไม่โอนเงินเข้าวัดสวนแก้วเลย แต่กลับโอนให้ พล.อ.เปรม นายวัชระ กล่าวว่า ปกติการทำบุญร่วมกันก็จะมีการรวบรวมกัน เป็นการฝากทำบุญ ซึ่ง พล.อ.เปรมเป็นผู้ใหญ่จะได้ตรวจงานเป็นระยะๆ จึงเป็นการทำบุญตามการรับมอบงาน การจ่ายเช็คเป็นการชำระเป็นงวดๆ และคนที่รับเช็คก็เป็นคนทำงานก่อสร้างอาคารของวัด
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการจ่าย 2 ครั้งๆ 1.8 ล้านบาท นายวัชระ กล่าวว่า จากเช็คที่เห็นมีการชำระเงินเป็นงวดๆ และมีอนุโมทนาบัตรจากวัดเรียบร้อย ทราบว่า คนที่รับเช็คต่อไปเป็นผู้ที่ไปทำการก่อสร้างอาคารของวัด มีหลักฐานเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้จ่ายเงินไปเท่าไร นายวัชระ กล่าวว่า มีเช็คประมาณ 4-5 ใบ ทั้งหมดจะมียอดรวม 6 ล้านบาท ต่อข้อถามว่านายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง เห็นว่าไม่ถึง 2 ล้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของ ปปง. นายวัชระ กล่าวว่า ไม่ใช่ โครงการนี้ไม่มาก แต่เราไม่ได้ทำบุญทั้งก้อน เสร็จเป็นระยะๆ เช็คใบนี้ก็เข้าตรงไปที่ผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่ทำงานให้วัด เมื่อเสร็จแต่ละครั้งมีอนุโมทนาบัตรรับรอง เมื่อถามว่าโอนเข้าในนามมูลนิธิพล.อ.เปรม นายวัชระ กล่าวว่า ไม่ใช่ครับ การเซ็นต์เช็คเหมือนตอนเราทำบุญแล้วให้เงินสดที่นำไปสู่ผู้ที่ต้องใช้จ่าย คือในกรณีของเราคือผู้รับเหมาก่อสร้างอาคาร

ส่วนที่ไม่จ่ายตรงไปที่ผู้รับเหมาเพราะท่านประธานองคมนตรีจะได้มีโอกาสไปดู ความคืบหน้าของการก่อสร้างได้เป็นระยะๆ ปกติแล้วในเช็คสามารถนำไปส่งมอบ ให้ใครได้เลยไม่ได้เข้าบัญชีท่าน

ผู้สื่อข่าวถามว่า เช็คสั่งจ่ายในนาม พล.อ.เปรม นายวัชระ ยอมรับว่าใช่ เป็นการทำบุญรวมกันจึงรวมเงินไว้ที่ท่าน ที่เป็นผู้ใหญ่ เหมือทำกฐิน ผ้าป่า และใส่ซองรวมซองไปที่คนๆ หนึ่ง คนๆ นั้นก็นำไปที่วัด

ผู้สื่อข่าวถามว่า นางกัลยากับพล.อ.เปรมไม่ใช่เครือข่ายบุญอย่างเดีิยว แต่เป็น เครือข่ายทุนด้วย นายวัชระ ปฏิเสธว่าไม่ใช่ และประธานองคมนตรีก็ไม่เป็นที่ปรึกษา บริษัทใดทั้งสิ้น ท่านก็เป็นผู้ใหญ่ที่นับถือ เรียกว่ามีเจตนาทำประโยชน์ต่อสาธารณะตลอดเวลาอยู่แล้ว มีโอกาสได้รับคำแนะนำจากท่านเราก็สามารถไปร่วมสนับสนุนการทำบุญต่างๆ
"ที่จริงกลุ่มเพื่อน 11 เป็นเพื่อนที่จักจักกัน ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจหรือมีวัตถุประสงค์อื่นใด คนวัยเดียวกันก็พูดจาพบปะกันบ้าง ไม่มีจุดประสงค์อื่นแน่นอน ส่วนเรื่องทำบุญคุณลุง คุณป้าจะมีใจบุญก็ทำบุญกันอยู่แล้ว"

นายวัชระ ยืนยันว่าพร้อมให้ตรวจสอบเส้นทางเงิน และคุณแม่ของตนกับ พล.อ.เปรม ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางธุรกิจเลยเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือกัน

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งข้อสังเกตถึงการสั่งจ่ายเช็ค จำนวน 2.6 บาทจากนางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ เข้าบัญชีของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ว่าเหตุใด จึงเป็นการโอนให้โดยตรงกับ พล.อ.เปรม ซึ่งจริงๆ แล้วควรโอนผ่านมูลนิธิรัฐบุรุษหรือวัดสวนแก้ว การการะทำดังกล่าวถือได้ว่า พล.อ.เปรมได้รับประโยชน์จาก กลุ่มทุนรวมทั้งเงินจำนวนดังกล่าวก็ไม่ยอมนำไปเสียภาษีทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่ โดยการกระทำดังกล่าว พล.อ.เปรม ควรเปลี่ยนอาชีพเป็นผู้รับเหมา ตามที่นายวัชระอ้างว่าเป็นการโอนเงินเพื่อใช้ก่อสร้างอาคาร

นอกจากนี้ ยังทราบอีกว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของ พล.อ.เปรม และมูลนิธิรัฐบุรุษอีกหลายครั้งเป็นเวลาติดต่อกัน ซึ่งการกระทำเช่นนี้ เปรียบพล.อ.เปรม เหมือนเป็นบ่อพักน้ำเลี้ยงของระบบอำมาตย์ ซึ่งรัฐบาลควรออกมาตรวจสอบ ข้อเท็จจริงเรื่องนี้

ส่วนกรณีที่นาย วัชระ ออกมาปฏิเสธ กรณีดังกล่าว ถือว่ามีข้อเท็จจริง ที่ไม่เพียงพอและเชื่อถือไม่ได้เนื่องจากมีหลักฐานชี้ชัดว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชี พล.อ.เปรมโดยตรง อย่างไรก็ตามในวันที่ 17 ก.พ. นี้ตนจะออกมาเปิดเผยข้อมูล ซึ่งเป็นหลักกฐานเกี่ยวกับการโอนเงินไหลเข้าสู่บัญชีของ พล.อ.เปรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (15 ก.พ.) กลุ่มคนเสื้อแดงราว 500 คน ได้มารวมตัวชุมนุมบริเวณหนจ้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)โดยเปิดการปราศรัยโจมตีรัฐบาล และความล่าช้าของกกต. ในการตรวจสอบ กรณี เงินบริจาค 258 ล้านของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลที่มารักษาความปลอดภัยก็ได้ตั้งแถวเรียงหน้ากระดานพร้อมโล่ อยู่บริเวณรั้วกั้น กับผู้ชุมนุม ขณะที่ภายในอาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นที่ทำงานของ กกต. เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลคอยรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง ส่วนเจ้าหน้าที่ กกต. ก็ได้มาบันทึกภาพ และวิดีโอการปราศรัยของผู้ชุมนุมเอาไว้ด้วย

นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวโจมตีว่า กกต. 4 คน ยกเว้น นายวิสุทธิ์ โพธิแท่าน มาจาก คมช.ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้คนเสื้อแดงยอมรับไม่ได้ การพิจารณาคดีก็ไม่ยุติธรรม โดยเฉพาะเรื่องเงินบริจาค 258 ล้านบาท

"นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ต้องชั่งใจให้ดีว่าจะขึ้นสวรรค์ หรือลงขุมนรกที่ให้ความยุติธรรมกับประชาชน การที่เขาล่าช้าในการพิจารณา ทำให้ตกนรกไปแล้วครึ่งตัว สิ่งที่นายอภิชาตทำเป็นความตั้งใจยื้อเวลาดึงเกมส์ให้รัฐบาลนี้อยู่จนหมดวาระ"

นายวีระ ยังได้โจมตีคอลัมน์นิสต์หนังสือพิมพ์ ว่ารับจ้างเขียนข่าวจากรัฐบาล ในเรื่องที่มีการกล่าวหาว่าพ.ต.ท.ทักษิณโอนเงินจากต่างประเทศมาให้คนเสื้อแดงอักษรชื่อ ส.เสือ ซึ่งในเสื้อแดงมี 2 คน คือ นายสมหวัง เจ้าของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า และนายสงคราม เจ้าของศูนย์การค้าอิมพีเรียล ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ถ้ารัฐบาลมีหลักฐานขอให้ดำเนินคดี กล่าวโทษคนเหล่านี้ได้เลยโดยตนพร้อมที่จะรับผิดชอบติดคุกแทน

นอกจากนี้ ยังกล่าวด้วยว่า มีการกล่าวหาว่าคนเสื้อแดงจะชุมนุมกดดันในช่วงพิจารณาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการคิดเอาเอง เพราะในวันที่ 26 ก.พ.ที่ศาลฎีกาฯจะตัดสินคดียึดทรัพย์ คนเสื้อแดงจะไม่นัดชุมนุม แต่ถือเป็นอิสระของคนไทยทุกคนที่จะเดินทางไปที่ศาลฎีกาหรือไม่ก็ได้

ต่อมาเวลา 16.00 น. นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายสุพร อัตถาวงศ์ เป็นตัวแทนคนเสื้อแดง นำ พล.ต.ต.มณเทียร ประทีปะวณิช อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย ยืนหนังสือถึงประธาน กกต. ให้เร่งดำเนินการพิจารณา กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกันนี้ยังขอให้ตรวจสอบกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจ้างพยานเพื่อให้การเท็จในคดียุบพรรคไทยรักไทย โดยการยื่นหนังสือครั้งนี้ได้นำ รายชื่อประชาชน พร้อมด้วยหลักฐาน เป็นซีดี คำให้การของนายชวการ โตสวัสดิ์ นายสุขสันต์ ชัยเทศ พยานคดียุบพรรคไทยรักไทย ประกอบกับวาระการประชุมของคณะกรรมาธิการยุติธรรม สภาผู้แทนฯ และคำร้องให้ ยุบพรรคไทยรักไทยของนายสุเทพ มามอบให้ นายอิสระ เสียงเพราะดี ผอ.สำนักเลขาธิการ กกต. ที่เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือจาก กกต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการปราศรัยของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงยังคงวนเวียนอยู่กับการโจมตี กกต. และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ จนกระทั้งเวลา 19.00 น. จึงประกาศยุติการชุมนุม
กำลังโหลดความคิดเห็น