เอเอฟพี - ยูเลีย ติมอเชงโก นายกรัฐมนตรีหญิงของยูเครน ซึ่งเพิ่งพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีให้แก่วิกเตอร์ ยานูโควิช ออกโรงมาประกาศด้วยตนเองเป็นครั้งแรกในวันเสาร์ (13) ว่าเธอจะร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งต่อศาล การประกาศเช่นนี้ของเธอทำให้เป็นที่หวั่นเกรงกันว่าจะทำให้การเมืองในยูเครนปั่นป่วนอีกครั้ง
ติมอเชงโก ปฏิเสธไม่ยอมรับชัยชนะของยานูโควิช โดยเธออ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของยูเครนเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ซึ่งส่งผลต่อคะแนนเสียงถึงกว่า 1 ล้านคะแนน ทั้งนี้ตามผลการนับคะแนนเบื้องต้นของคณะกรรมการเลือกตั้งกลางของยูเครน ยานูโควิชชนะติมอเชงโกอย่างเฉียดฉิวเพียง 3.5% หรือไม่ถึง 890,000 คะแนน
“ดิฉันตัดสินใจแล้วว่าจะร้องคัดค้านต่อศาล ดิฉันจะปกป้องประเทศของเราและการตัดสินใจเลือกของพวกท่านโดยอาศัยการสนับสนุนจากข้อกฎหมาย” ติมอเชงโก กล่าว
นายกรัฐมนตรีหญิงผู้นี้อ้างด้วยว่า ผู้สังเกตการณ์บางคนจากองค์การเพื่อความมั่นคงและการร่วมมือกันในยุโรป (OSCE) เตรียมที่จะให้การในศาลว่า มีการฉ้อโกงการเลือกตั้งกันอย่างเป็นระบบ
ทว่ากลุ่มผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งของฝ่ายตะวันตก ซึ่งรวมทั้ง OSCE ด้วย ต่างออกมาแถลงแล้วว่าการเลือกตั้งของยูเครนคราวนี้เป็นไปอย่างใสสะอาด และพวกผู้นำชาติตะวันตก เป็นต้นว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีแห่งฝรั่งเศส ต่างก็ได้โทรศัพท์แสดงความยินดีกับยานูโควิชแล้ว
อย่างไรก็ตาม ติมอเชงโก กล่าวว่าเธอจะไม่จัดการประท้วงใหญ่แบบเดียวกับที่เคยเป็นแกนนำคนหนึ่งใน “การปฏิวัติสีส้ม” ที่จัตุรัสอิสรภาพในกรุงเคียฟเมื่อปี 2004 โดยในครั้งนั้นเป็นการประท้วงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งยานูโควิชได้ชัยชนะเช่นกัน แต่ต่อมาศาลได้ตัดสินให้จัดการเลือกตั้งใหม่ และปรากฏว่าวิคเตอร์ ยูเชนโก ซึ่งเป็นผู้นำคนหนึ่งของ “การปฏิวัติสีส้ม” ที่โลกตะวันตกให้การสนับสนุน เป็นผู้ชนะ
ติมอเชงโก ปฏิเสธไม่ยอมรับชัยชนะของยานูโควิช โดยเธออ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของยูเครนเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ซึ่งส่งผลต่อคะแนนเสียงถึงกว่า 1 ล้านคะแนน ทั้งนี้ตามผลการนับคะแนนเบื้องต้นของคณะกรรมการเลือกตั้งกลางของยูเครน ยานูโควิชชนะติมอเชงโกอย่างเฉียดฉิวเพียง 3.5% หรือไม่ถึง 890,000 คะแนน
“ดิฉันตัดสินใจแล้วว่าจะร้องคัดค้านต่อศาล ดิฉันจะปกป้องประเทศของเราและการตัดสินใจเลือกของพวกท่านโดยอาศัยการสนับสนุนจากข้อกฎหมาย” ติมอเชงโก กล่าว
นายกรัฐมนตรีหญิงผู้นี้อ้างด้วยว่า ผู้สังเกตการณ์บางคนจากองค์การเพื่อความมั่นคงและการร่วมมือกันในยุโรป (OSCE) เตรียมที่จะให้การในศาลว่า มีการฉ้อโกงการเลือกตั้งกันอย่างเป็นระบบ
ทว่ากลุ่มผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งของฝ่ายตะวันตก ซึ่งรวมทั้ง OSCE ด้วย ต่างออกมาแถลงแล้วว่าการเลือกตั้งของยูเครนคราวนี้เป็นไปอย่างใสสะอาด และพวกผู้นำชาติตะวันตก เป็นต้นว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีแห่งฝรั่งเศส ต่างก็ได้โทรศัพท์แสดงความยินดีกับยานูโควิชแล้ว
อย่างไรก็ตาม ติมอเชงโก กล่าวว่าเธอจะไม่จัดการประท้วงใหญ่แบบเดียวกับที่เคยเป็นแกนนำคนหนึ่งใน “การปฏิวัติสีส้ม” ที่จัตุรัสอิสรภาพในกรุงเคียฟเมื่อปี 2004 โดยในครั้งนั้นเป็นการประท้วงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งยานูโควิชได้ชัยชนะเช่นกัน แต่ต่อมาศาลได้ตัดสินให้จัดการเลือกตั้งใหม่ และปรากฏว่าวิคเตอร์ ยูเชนโก ซึ่งเป็นผู้นำคนหนึ่งของ “การปฏิวัติสีส้ม” ที่โลกตะวันตกให้การสนับสนุน เป็นผู้ชนะ