บีบีซีนิวส์ - ประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยุชเชนโก ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นวีรบุรุษในการปฏิวัติสีส้มในยูเครน ถูกเขี่ยกระเด็นออกมากการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันอาทิตย์(17) หลังจากได้คะแนนเสียงเพียงร้อยละ 5 ไม่สามารถผ่านเข้าไปในการเลือกตั้งรอบสอง หรือรอบตัดเชือกในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ได้
ผลการนับคะแนนไปแล้วกว่าร้อยละ 80 ปรากฏว่า ประธานาธิบดียุชเชนโก ได้คะแนนเพียงร้อยละ 5 ขณะที่อดีตนายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ยานุโควิช ได้ร้อยละ 36 นำนายกรัฐมนตรียูเลีย ทีโมเชนโก ที่ได้ร้อยละ 25 อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งรอบชี้ขาดต่อไปในวันที่ 7 เดือนหน้า เนื่องจากไม่มีผู้สมัครคนใดได้คะแนนเกินร้อยละ 50
ในอดีต ผู้มีคะแนนนำสองคนแรกทั้งสองอยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน แต่ปัจจุบันสนับสนุนการฝักใฝ่รัสเซียทั้งคู่
ในปี 2004 เป็นชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของยานุโควิช ซึ่งถูกท้าทายจากการปฏิวัติส้ม ชัยชนะครั้งนั้นของเขาถูกศาลสูงสุดสั่งให้เป็นโมฆะ ทั้งนี้ ยุชเชนโก และทีโมเชนโก ร่วมกันเป็นพันธมิตรผลักดันการปฏิวัติส้มดังกล่าว จนทำให้พวกเขาได้เป็นประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีคู่กัน อย่างไรก็ตาม ต่อมา พวกเขากับกลายเป็นคู่แข่งทางการเมืองกันเองอย่างน่าขมขื่น และก็ช่วงชิงกันขึ้นสู่อำนาจ
แม้ว่าผลเลือกตั้งจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ผู้สื่อข่าวของบีบีซีระบุว่ เห็นชัดเจนว่า ชาวยูเครนปฏิเสธชายที่เคยเป็นผู้นำคัดค้านการฝักใฝ่พวกชาติตะวันตกของยานุโควิช ในจัตตุรัสอินดิเพนเดนท์ เมื่อ 5 ปีก่อน สะท้อนให้เห็นความไม่พอใจของชาวยูเครนที่เขาไม่สามารถแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น และการผลักดันการเชื่อมโยงกับกลุ่มสหภาพยุโรปได้
ผลการเลือกตั้งออกมาตามคาดการณ์ ผู้ชนะในรอบแรก คือ ยานุโควิช และทีโมเชนโก จากนี้ทั้งสองจะต้องลงห้ำหั่นในการเลือกตั้งรอบชี้ขาดในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า โดยยานุโควิชนั้นได้คะแนนนำนายกรัฐมนตรีหญิงเหล็ก ถือว่าเป็นการกลับมาอย่างไม่ธรรมดา หลังจากชัยชนะของเขาเมื่อ 5 ปีก่อนถูกตัดสินว่ามีการทุจริต
ทั้งนี้ ดูเหมือนว่า ยานุโควิชปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่เอาชนะศัตรูเก่าได้ เขากล่าวว่า " วันนี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของพลังสีส้ม ไม่มีที่ว่างให้แก่(ยุชเชนโก) ในการเลือกตั้งรอบสอง เขาสูญสิ้นศรัทธาจากประชาชนแล้ว"
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า นายกรัฐมนตรีทีโมเชนโกจะทำคะแนนได้คะแนนมากขึ้นในการเลือกตั้งรอบสอง และการเลือกตั้งจะเป็นไปอย่ากคู่คี่สูสีกันมาก
ทั้งนี้ ผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุดทั้งสองต่างฝ่ายต่างกล่าวหากันว่า พยายามจะโกงการเลือกตั้ง ขณะที่มีคำเตือนว่าอาจจะเกิดความไม่สงบเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งด้วย
องค์การเพื่อความร่วมมือและความมั่นคง(OSCE) ซึ่งเป็นกลุ่มสังเหตุการณ์การเลือกตั้งมีกำหนดเผยผลการตัดสินการเลือกตั้งเบื้องต้นในบ่ายวันนี้(18) ขณะที่ประธานสภาสังเกตการรณ์แห่งยุโรประบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างสงบและสันติอย่างยิ่ง
ด้านคณะกรรมการการเลือกตั้งยูเครนระบุว่า ไม่พบหลักฐานใดที่บ่งบอกว่ามีการคุกคามและโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้น ซึ่งมีผู้ลงชิงชัยทั้งหมด 18 คน และมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์คิดเป้นร้อยละ 67