xs
xsm
sm
md
lg

ปาฏิหาริย์หนูน้อยสามขวบ!!-พิชิตมะเร็งสมองด้วยตัวเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เดลิเมล์ – ตอนที่ลิเบอร์ตี้ ฟินน์ ไม่สามารถรับการบำบัดทางเคมีอันแสนทรมานได้อีกต่อไป พ่อแม่ของเด็กหญิงวัยสามขวบที่มีเนื้อร้ายในสมองที่ไม่อาจผ่าตัดออกได้ ต่างหวาดหวั่นว่าสิ่งเลวร้ายที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น
เนื้อร้ายดังกล่าวลุกลามจนทำให้ลิเบอร์ตี้มองไม่เห็น และมีความเสี่ยงที่สมองจะถูกทำลาย เช่นเดียวกับพัฒนาการอื่นๆ
แต่หลังจากหยุดการรักษาเกือบปี ครอบครัวฟินน์ทั้งประหลาดใจและดีใจสุดขีดที่เนื้อร้ายหดลีบเหลือเพียงร่องรอยแผลเป็นเท่านั้น และลิเบอร์ตี้กลับมามองเห็นอีกครั้ง
ลิเบอร์ตี้และคู่แฝด เดสทินี ไม ดูแข็งแรงดีตอนที่คลอดออกมาในเดือนธันวาคม 2006 แต่ผ่านไป 6 สัปดาห์ คาร์ล เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลแห่งหนึ่ง และดอว์น พ่อแม่ของหนูน้อย สังเกตว่าตาของลิเบอร์ตี้ยุบเข้าด้านใน
แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นอาการลูกตากระตุก แต่การตรวจเพิ่มเติมในศูนย์การแพทย์ควีนส์ นอตติ้งแฮม อังกฤษ พบว่า สาเหตุเกิดจากเนื้องอกในสมองที่เกิดขึ้นระหว่างสมองกับดวงตา ทำให้ลิเบอร์ตี้สูญเสียความสามารถในการมองเห็น ที่ร้ายคือไม่สามารถผ่าตัดเนื้องอกนี้ทิ้งได้เนื่องจากขนาดและอยู่ในตำแหน่งที่อ่อนไหวอย่างยิ่ง
เดือนตุลาคม 2007 เมื่อลิเบอร์ตี้อายุเพียง 10 เดือน เด็กหญิงต้องเริ่มการบำบัดด้วยเคมีและกินยาต่างๆ นาน 18 เดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการทดลองบำบัดของอินเตอร์เนชันแนล โซไซตี้ ฟอร์ เพเดรียทริก ออนโคโลจี้
เมื่อสิ้นสุดการบำบัด แพทย์พบว่าเนื้อร้ายฝ่อลง 50% แต่หนูน้อยไม่สามารถทนได้ต่อไป การบำบัดจึงต้องยุติลงเพียงเท่านั้น โดยความเสี่ยงที่เหลืออยู่คือ ลิเบอร์ตี้อาจตาบอดตลอดชีวิตและมีอาการแทรกซ้อนหากเนื้อร้ายกลับลุกลามจนมีขนาดเท่าเดิม
กระนั้น การสแกนเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วพบว่าเนื้อร้ายหายไป เช่นเดียวกับผลข้างเคียงจากการบำบัด สร้างความงุนงงแกมยินดีทั้งต่อครอบครัวฟินน์และทีมแพทย์ที่ทำการรักษา
“เราไปโรงพยาบาลโดยทำใจไปแล้วว่า หมอจะบอกว่าเนื้อร้ายโตขึ้นและยังไม่ได้หายไปไหน และเราไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ามันจะหายไป
“ฉันรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่ในความฝัน ก่อนหน้านั้นเนื้อร้ายก้อนใหญ่มาก
“ฉันต้องถามหมอซ้ำว่าใช่เคสลิเบอร์ตี้จริงหรือเปล่า คาร์ลและฉันพูดอะไรไม่ออก แต่พอโทรไปบอกแม่ ฉันร้องไห้ทำนบแตก
“รู้สึกเหมือนลิเบอร์ตี้เป็นกรณีหนึ่งในล้านที่ร่างกายต่อสู้กับเนื้อร้ายสำเร็จ
“เธอเป็นที่รักของทุกคนที่ได้พบ ฉันไม่เคยเปลี่ยนแปลงลูกเพื่อใครหรือสิ่งใดๆ
“นี่เป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็นความหวังสำหรับพ่อแม่ของเด็กคนอื่นๆ ที่มีอาการเดียวกับลิเบอร์ตี้ว่าปาฏิหาริย์สามารถเกิดขึ้นได้” ดอว์นเล่า
ตอนนี้อนาคตของลิเบอร์ตี้กลับมาสดใสอีกครั้ง เธอจะได้มีชีวิตปกติสุขร่วมกับคู่แฝด รวมถึงอเล็กซ์ พี่ชายวัย 15 ปี และเจมมา หลุยส์ พี่สาววัย 7 ขวบ
ลิเบอร์ตี้ยังต้องเข้ารับการสแกนทุก 6 เดือน แต่อาจขยายเป็นปีละครั้งถ้าอาการดีขึ้น
ศาสตราจารย์ริชาร์ด กรุนดี้ จากศูนย์การแพทย์ควีนส์ บอกว่าไม่ว่าจะเป็นผลจากการบำบัดด้วยเคมีหรือร่างกายของลิเบอร์ตี้เองก็ไม่สำคัญ แต่ต้องถือว่าลิเบอร์ตี้เป็นเด็กที่โชคดีมาก เพราะปกติแล้วการบำบัดด้วยเคมีจะไม่มีผลกับเนื้อร้ายที่เกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าว และยากที่ผู้ป่วยจะกลับมามองเห็นได้ใหม่
“แม้ยังมีสัญญาณของเนื้อเยื่อที่มีปัญหากระจัดกระจายอยู่บ้าง แต่ที่น่าดีใจคือ แกนกลางของเนื้อร้ายหายไปหมดแล้ว”
“เนื้อร้ายอาจหายไปจากวิธีการบำบัดต่างๆ หรือข้อเท็จจริงที่ว่าร่างกายของลิเบอร์ตี้แข็งแรงพอจะต่อสู้กับมะเร็งได้
“ในความเป็นจริงผลจากการบำบัดด้วยเคมีสิ้นสุดลงหลังจากยุติการบำบัดไม่กี่เดือน และนี่ตอกย้ำว่าเราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับมะเร็งสมอง” รอซ ออสบอร์น จากซาแมนธา ดิ๊กสัน เบรน ทิวเมอร์ ทรัสต์ สำทับ
กำลังโหลดความคิดเห็น