เอเจนซีส์ – ผลวิจัยล่าสุดระบุโทรศัพท์มือถืออาจช่วยฟื้นความจำและต่อต้านโรคอัลไซเมอร์ส ซึ่งถือเป็นการค้นพบที่ทั้งน่าประหลาดใจและน่ายินดี เนื่องจากอาจนำไปสู่วิธีรักษาอาการความจำเสื่อมแบบใหม่ที่ไม่ต้องใช้ยา
ในหนึ่งในการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่คาดไม่ถึงมากที่สุด นักวิจัยอเมริกันพบว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถืออาจช่วยฟื้นสภาพด้านการรู้คิด
หลังจากมีคำเตือนมานานนับปีเกี่ยวกับอันตรายต่อสุขภาพจากการใช้โทรศัพท์มือถือ นักวิจัยในฟลอริดายอมรับว่าประหลาดใจอย่างยิ่งที่พบว่าอุปกรณ์สื่อสารชนิดนี้อาจดีต่อสมอง แต่ยอมรับว่าต้องตรวจสอบอย่างจริงจังต่อไปว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือสามารถเป็นส่วนส่งเสริมประสิทธิภาพความจำและวิธีบำบัดโรคอัลไซเมอร์ในคนได้จริงหรือไม่
ที่ผ่านมา เป็นที่สงสัยกันว่าโทรศัพท์มือถือเป็นสาเหตุของอาการต่างๆ ตั้งแต่ปวดหูจนถึงมะเร็งสมอง จากการทำให้อุณหภูมิบริเวณศีรษะสูงขึ้นและทำให้เซลล์ถูกอนุมูลอิสระทำลายและเสื่อมเรื้อรัง ดังนั้น จึงมีความพยายามในการตรวจสอบเกี่ยวกับความปลอดภัยของอุปกรณ์นี้กันอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ดี ที่สุดแล้วองค์กรชั้นนำหลายแห่ง อาทิ องค์การอนามัยโลก, อเมริกัน แคนเซอร์ โซไซตี้ และสถาบันสุขภาพแห่งชาติ ได้ข้อสรุปว่าหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไม่บ่งชี้ว่าการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอันตรายต่อสุขภาพแต่อย่างใด
นักวิจัยจากแผนกเซลล์ชีววิทยา มหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา พยายามศึกษาผลกระทบแง่ลบโดยการทำให้หนูทดลองได้รับรังสีแบบเดียวกับที่แพร่ออกมาจากโทรศัพท์มือถือครั้งละหนึ่งชั่วโมง วันละสองครั้งช่วงเช้ากับบ่าย และนาน 8 เดือน ซึ่งเทียบเท่าความถี่ในการใช้โทรศัพท์มือถือของคนทั่วไป
ทั้งนี้ หนูทดลองครึ่งหนึ่งถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้มีอาการอัลไซเมอร์ส และพบว่าในหมู่หนูเหล่านี้ การได้สัมผัสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีความสัมพันธ์กับการหายไปของโปรตีนอะมีลอยด์ปลั๊ก (amyloid plaques) ที่เป็นโปรตีนตกตะกอนจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อนซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสาเหตุของอาการสมองเสื่อม
นักวิจัยรายงานในวารสารเจอร์นัล ออฟ อัลไซเมอร์ส ดีซีสว่า ในหนูหนุ่มสาว คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าช่วยป้องกันการสะสมของอะมีลอยด์ปลั๊ก และทำให้มีความจำดีขึ้น โดยอาจเกิดจากการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาท
ศาสตราจารย์ แกรี่ อาร์เรนแดช ผู้นำการจัดทำรายงานชิ้นนี้ กล่าวว่าการค้นพบนี้สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเขาเคยคิดมาตลอดว่า การได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์จะทำให้โรคสมองเสื่อมรุนแรงยิ่งขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่า หนูได้รับการปกป้องจากโรคนี้หากได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงต้นของวัยผู้ใหญ่ หรือหากได้รับหลังจากความจำเริ่มเสื่อม
อาร์เรนแดชสำทับว่า การค้นพบนี้ยังนำไปสู่โอกาสใหม่ในการพัฒนาวิธีการบำบัดโรคอัลไซเมอร์โดยไม่ต้องใช้ยา และว่าทีมนักวิจัยได้ดัดแปลงการทดลองเพื่อเตรียมศึกษาว่าจะสามารถให้ผลที่เร็วขึ้นได้หรือไม่ และจะทดลองกับคนได้หรือไม่
รีเบ็กกา วูด ประธานบริหารอัลไซเมอร์ส รีเสิร์ช ทรัสต์ในอังกฤษ แสดงความคิดเห็นว่า งานวิจัยนี้ทดลองกับหนู จึงยังไม่รู้แน่ว่าจะเกิดผลอย่างไรกับคน และจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อรับประกันความปลอดภัยของการได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือในระยะยาว ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้ใช้โทรศัพท์มือถือกันตลอดทั้งวัน
ในหนึ่งในการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่คาดไม่ถึงมากที่สุด นักวิจัยอเมริกันพบว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถืออาจช่วยฟื้นสภาพด้านการรู้คิด
หลังจากมีคำเตือนมานานนับปีเกี่ยวกับอันตรายต่อสุขภาพจากการใช้โทรศัพท์มือถือ นักวิจัยในฟลอริดายอมรับว่าประหลาดใจอย่างยิ่งที่พบว่าอุปกรณ์สื่อสารชนิดนี้อาจดีต่อสมอง แต่ยอมรับว่าต้องตรวจสอบอย่างจริงจังต่อไปว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือสามารถเป็นส่วนส่งเสริมประสิทธิภาพความจำและวิธีบำบัดโรคอัลไซเมอร์ในคนได้จริงหรือไม่
ที่ผ่านมา เป็นที่สงสัยกันว่าโทรศัพท์มือถือเป็นสาเหตุของอาการต่างๆ ตั้งแต่ปวดหูจนถึงมะเร็งสมอง จากการทำให้อุณหภูมิบริเวณศีรษะสูงขึ้นและทำให้เซลล์ถูกอนุมูลอิสระทำลายและเสื่อมเรื้อรัง ดังนั้น จึงมีความพยายามในการตรวจสอบเกี่ยวกับความปลอดภัยของอุปกรณ์นี้กันอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ดี ที่สุดแล้วองค์กรชั้นนำหลายแห่ง อาทิ องค์การอนามัยโลก, อเมริกัน แคนเซอร์ โซไซตี้ และสถาบันสุขภาพแห่งชาติ ได้ข้อสรุปว่าหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไม่บ่งชี้ว่าการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอันตรายต่อสุขภาพแต่อย่างใด
นักวิจัยจากแผนกเซลล์ชีววิทยา มหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา พยายามศึกษาผลกระทบแง่ลบโดยการทำให้หนูทดลองได้รับรังสีแบบเดียวกับที่แพร่ออกมาจากโทรศัพท์มือถือครั้งละหนึ่งชั่วโมง วันละสองครั้งช่วงเช้ากับบ่าย และนาน 8 เดือน ซึ่งเทียบเท่าความถี่ในการใช้โทรศัพท์มือถือของคนทั่วไป
ทั้งนี้ หนูทดลองครึ่งหนึ่งถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้มีอาการอัลไซเมอร์ส และพบว่าในหมู่หนูเหล่านี้ การได้สัมผัสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีความสัมพันธ์กับการหายไปของโปรตีนอะมีลอยด์ปลั๊ก (amyloid plaques) ที่เป็นโปรตีนตกตะกอนจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อนซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสาเหตุของอาการสมองเสื่อม
นักวิจัยรายงานในวารสารเจอร์นัล ออฟ อัลไซเมอร์ส ดีซีสว่า ในหนูหนุ่มสาว คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าช่วยป้องกันการสะสมของอะมีลอยด์ปลั๊ก และทำให้มีความจำดีขึ้น โดยอาจเกิดจากการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาท
ศาสตราจารย์ แกรี่ อาร์เรนแดช ผู้นำการจัดทำรายงานชิ้นนี้ กล่าวว่าการค้นพบนี้สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเขาเคยคิดมาตลอดว่า การได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์จะทำให้โรคสมองเสื่อมรุนแรงยิ่งขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่า หนูได้รับการปกป้องจากโรคนี้หากได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงต้นของวัยผู้ใหญ่ หรือหากได้รับหลังจากความจำเริ่มเสื่อม
อาร์เรนแดชสำทับว่า การค้นพบนี้ยังนำไปสู่โอกาสใหม่ในการพัฒนาวิธีการบำบัดโรคอัลไซเมอร์โดยไม่ต้องใช้ยา และว่าทีมนักวิจัยได้ดัดแปลงการทดลองเพื่อเตรียมศึกษาว่าจะสามารถให้ผลที่เร็วขึ้นได้หรือไม่ และจะทดลองกับคนได้หรือไม่
รีเบ็กกา วูด ประธานบริหารอัลไซเมอร์ส รีเสิร์ช ทรัสต์ในอังกฤษ แสดงความคิดเห็นว่า งานวิจัยนี้ทดลองกับหนู จึงยังไม่รู้แน่ว่าจะเกิดผลอย่างไรกับคน และจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อรับประกันความปลอดภัยของการได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือในระยะยาว ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้ใช้โทรศัพท์มือถือกันตลอดทั้งวัน