ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ชมรมผู้ค้าน้ำมัน จ.สงขลา รวมตัวเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปรามน้ำมันเถื่อน หลังระบาดอย่างหนักทุกมุมเมือง ทำให้สถานีบริการน้ำมันยอดขายตกร้อยละ30
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ ผู้ค้าน้ำมันในจ.สงขลา กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากมีน้ำมันเถื่อนทะลักเข้ามาในพื้นที่ ชมรมผู้ค้าน้ำมัน จ.สงขลา จึงได้รวมตัวกำหนดมาตรการเคลื่อนไหว เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเร่งแก้ปัญหาน้ำมันเถื่อนที่กำลังระบาดอย่างหนักใน จ.สงขลา โดยมีการเปิดปั๊มหลอดแก้วผิดกฎหมาย และแบ่งใส่ขวดขายทั่วทั้งเมือง ส่งผลกระทบต่อสถานีบริการน้ำมันโดยตรง จนยอดขายลดลงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากผู้ใช้รถนิยมไปเติมน้ำมันเถื่อนที่มีส่วนต่างของราคาถูกกว่ากันลิตรละ 9 - 10 บาททั้งน้ำมันดีเซลและเบนซิน
นางระเบียบ จิตรเกื้อ ประธานชมรมผู้ค้าน้ำมัน จ.สงขลา เปิดเผยว่า มาตรการเคลื่อนไหวในเบื้องต้น ชมรมผู้ค้าน้ำมัน จ.สงขลา จะทำหนังสือผ่านไปยัง รมว.กระทรวงมหาดไทย รมว.กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร และผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ให้ออกมาตรการควบคุมการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน และสั่งการเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปรามและจับกุมผู้ค้าน้ำมันเถื่อนอย่างจริงจัง และเห็นเป็นรูปธรรม โดยจะให้เวลา 30 วันหากปัญหาน้ำมันเถื่อนยังไม่ได้รับการแก้ไขชมรมผู้ค้าน้ำมัน จ.สงขลา จะรวมตัวใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเคลื่อนไหวทันที
นางระเบียบ ระบุว่า น้ำมันเถื่อนที่ทะลักเข้ามาในพื้นที่ จ.สงขลา กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ค้าน้ำมันใน จ.สงขลา โดยเฉพาะสถานีบริการน้ำมันทุกแห่ง เพราะยอดขายตกลงเรื่อยๆ เช่นจากที่ขายได้เดือนละ 5 แสนลิตรต่อเดือนขณะนี้ไม่ถึง3 แสนลิตร เพราะผู้ใช้รถหันไปเติมน้ำมันเถื่อนที่เปิดทั่วบ้านทั่วเมือง บนถนนสายหลักสายรอง และทุกตรอกซอกซอยจะมีการเปิดปั๊มหลอดแก้วหรือแบ่งใส่ขวดขาย
“ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามน้ำมันเถื่อนไม่มีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา และบางส่วนได้รับผลประโยชน์จากผู้ค้าน้ำมันเถื่อน และหลายครั้งอ้างความชอบธรรมที่ประชาชนจะได้ใช้ของถูก แต่กลับไม่มองถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันที่ต้องเสียภาษีถูกต้อง”
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการค้าส่งน้ำมันใน จ.สงขลา เผยว่า ปัญหาน้ำมันเถื่อนที่เป็นอยู่ขณะนี้ถือว่าระบาดหนักที่สุด อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะจะเห็นน้ำมันเถื่อนวางจำหน่ายทั่วทั้งเมือง โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองหาดใหญ่ ที่มีการเปิดปั๊มหลอดแก้วแบบผิดกฎหมาย ซื้อขายน้ำมันเถื่อนกันอย่างโจ่งแจ้งโดยที่ไม่ถูกจับกุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ ผู้ค้าน้ำมันในจ.สงขลา กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากมีน้ำมันเถื่อนทะลักเข้ามาในพื้นที่ ชมรมผู้ค้าน้ำมัน จ.สงขลา จึงได้รวมตัวกำหนดมาตรการเคลื่อนไหว เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเร่งแก้ปัญหาน้ำมันเถื่อนที่กำลังระบาดอย่างหนักใน จ.สงขลา โดยมีการเปิดปั๊มหลอดแก้วผิดกฎหมาย และแบ่งใส่ขวดขายทั่วทั้งเมือง ส่งผลกระทบต่อสถานีบริการน้ำมันโดยตรง จนยอดขายลดลงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากผู้ใช้รถนิยมไปเติมน้ำมันเถื่อนที่มีส่วนต่างของราคาถูกกว่ากันลิตรละ 9 - 10 บาททั้งน้ำมันดีเซลและเบนซิน
นางระเบียบ จิตรเกื้อ ประธานชมรมผู้ค้าน้ำมัน จ.สงขลา เปิดเผยว่า มาตรการเคลื่อนไหวในเบื้องต้น ชมรมผู้ค้าน้ำมัน จ.สงขลา จะทำหนังสือผ่านไปยัง รมว.กระทรวงมหาดไทย รมว.กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร และผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ให้ออกมาตรการควบคุมการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน และสั่งการเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปรามและจับกุมผู้ค้าน้ำมันเถื่อนอย่างจริงจัง และเห็นเป็นรูปธรรม โดยจะให้เวลา 30 วันหากปัญหาน้ำมันเถื่อนยังไม่ได้รับการแก้ไขชมรมผู้ค้าน้ำมัน จ.สงขลา จะรวมตัวใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเคลื่อนไหวทันที
นางระเบียบ ระบุว่า น้ำมันเถื่อนที่ทะลักเข้ามาในพื้นที่ จ.สงขลา กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ค้าน้ำมันใน จ.สงขลา โดยเฉพาะสถานีบริการน้ำมันทุกแห่ง เพราะยอดขายตกลงเรื่อยๆ เช่นจากที่ขายได้เดือนละ 5 แสนลิตรต่อเดือนขณะนี้ไม่ถึง3 แสนลิตร เพราะผู้ใช้รถหันไปเติมน้ำมันเถื่อนที่เปิดทั่วบ้านทั่วเมือง บนถนนสายหลักสายรอง และทุกตรอกซอกซอยจะมีการเปิดปั๊มหลอดแก้วหรือแบ่งใส่ขวดขาย
“ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามน้ำมันเถื่อนไม่มีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา และบางส่วนได้รับผลประโยชน์จากผู้ค้าน้ำมันเถื่อน และหลายครั้งอ้างความชอบธรรมที่ประชาชนจะได้ใช้ของถูก แต่กลับไม่มองถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันที่ต้องเสียภาษีถูกต้อง”
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการค้าส่งน้ำมันใน จ.สงขลา เผยว่า ปัญหาน้ำมันเถื่อนที่เป็นอยู่ขณะนี้ถือว่าระบาดหนักที่สุด อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะจะเห็นน้ำมันเถื่อนวางจำหน่ายทั่วทั้งเมือง โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองหาดใหญ่ ที่มีการเปิดปั๊มหลอดแก้วแบบผิดกฎหมาย ซื้อขายน้ำมันเถื่อนกันอย่างโจ่งแจ้งโดยที่ไม่ถูกจับกุม
