ASTVผู้จัดกการรายวัน - ก.ล.ต. เปิดรับฟังหาแนวคิด เพื่อปรับหลักเกณฑ์การจัดตั้งกองทุนรวมพิเศษ ที่ลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง เน้นกำหนดหลักเกณฑ์รองรับการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมทั้ง 2 รูปแบบ และกำหนดคุณสมบัติทองคำแท่งที่กองทุนรวมจะลงทุนเป็นทรัพย์สินได้ พร้อมให้ gold ETF จะอนุญาตให้ทำธุรกิจให้ยืมทองคำแท่งได้ ช่วยกระบวนการ arbitrage ราคาระหว่างตลาดแรกและตลาดรองรวดเร็วและมีประสิทธิภาพขึ้น เปิดรับฟังถึง 17 ก.พ.นี้
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) แจ้งว่า สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ เอื้ออำนวยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ในตลาดทุน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุน โดยการสนับสนุนให้มีการจัดตั้งกองทุนรวมพิเศษที่มีนโยบายมุ่งลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง หรือ gold fund พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็น จนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2553
สำหรับการจัดตั้งกองทุนรวมพิเศษที่มีนโยบายมุ่งลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง (gold fund) สามารถจัดตั้งได้ทั้งในรูปกองทุนรวมที่เน้นลงทุนโดยตรงในทองคำแท่ง (physical gold fund) และกองทุนรวมอีทีเอฟทองคำ ( gold ETF ) ซึ่งจะนำไปจดทะเบียนให้ผู้ลงทุนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมทั้ง 2 รูปแบบดังกล่าว และจะกำหนดคุณสมบัติของทองคำแท่งที่กองทุนรวมจะลงทุนเป็นทรัพย์สินได้ รวมถึงผู้ที่ทำหน้าที่เก็บรักษาทองคำแท่งซึ่งต้องมีความสามารถและความชำนาญในการเก็บรักษาทองคำแท่งโดยต้องมีระบบงานในการเก็บรักษาทองคำแท่งที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย
นอกจากนี้ gold ETF จะอนุญาตให้ทำธุรกิจให้ยืมทองคำแท่งได้ เพื่อช่วยให้กระบวนการ arbitrage ราคาระหว่างตลาดแรกและตลาดรองเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในการนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่หลักการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องไว้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) จึงเชิญชวนผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2553 ที่เว็บไซต์ดังกล่าว หรือทางโทรสารหมายเลข 0-2263-6348 และ 0-2256-7702 หรือทาง e-mail ที่ tanom@sec.or.th
ก่อนหน้านี้ ก.ล.ต.ได้หนุนจัดตั้ง gold ETF เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้นักลงทุน และสนับสนุนให้ร้านทองมีส่วนร่วมในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพราะเชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมทองคำและเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดทุน พร้อมให้ทำหน้าที่ส่งคำสั่งซื้อขายไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้โดยไม่ต้องผ่านบริษัทหลักทรัพย์ และเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่จะสามารถซื้อ ขาย หรือยืมทองคำแท่งกับกองทุนรวมได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งมองว่า gold ETF จะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมทองคำโดยรวม ขณะเดียวกันจะช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดทุนด้วย ทั้งนี้ gold ETF ทั้งสองรูปแบบเป็นการลงทุนครบเต็มจำนวน ไม่มี leverage หรือลงทุนโดยวางหลักประกัน (margin) และมีความซับซ้อนน้อยกว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงทองคำ (gold futures) โดยคณะกรรมการฯ กำหนดแผนให้มีการจัดตั้ง gold ETF ให้สำเร็จภายใน 3 เดือนนับจาก ก.พ.ปีนี้
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) แจ้งว่า สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ เอื้ออำนวยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ในตลาดทุน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุน โดยการสนับสนุนให้มีการจัดตั้งกองทุนรวมพิเศษที่มีนโยบายมุ่งลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง หรือ gold fund พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็น จนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2553
สำหรับการจัดตั้งกองทุนรวมพิเศษที่มีนโยบายมุ่งลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง (gold fund) สามารถจัดตั้งได้ทั้งในรูปกองทุนรวมที่เน้นลงทุนโดยตรงในทองคำแท่ง (physical gold fund) และกองทุนรวมอีทีเอฟทองคำ ( gold ETF ) ซึ่งจะนำไปจดทะเบียนให้ผู้ลงทุนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมทั้ง 2 รูปแบบดังกล่าว และจะกำหนดคุณสมบัติของทองคำแท่งที่กองทุนรวมจะลงทุนเป็นทรัพย์สินได้ รวมถึงผู้ที่ทำหน้าที่เก็บรักษาทองคำแท่งซึ่งต้องมีความสามารถและความชำนาญในการเก็บรักษาทองคำแท่งโดยต้องมีระบบงานในการเก็บรักษาทองคำแท่งที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย
นอกจากนี้ gold ETF จะอนุญาตให้ทำธุรกิจให้ยืมทองคำแท่งได้ เพื่อช่วยให้กระบวนการ arbitrage ราคาระหว่างตลาดแรกและตลาดรองเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในการนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่หลักการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องไว้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) จึงเชิญชวนผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2553 ที่เว็บไซต์ดังกล่าว หรือทางโทรสารหมายเลข 0-2263-6348 และ 0-2256-7702 หรือทาง e-mail ที่ tanom@sec.or.th
ก่อนหน้านี้ ก.ล.ต.ได้หนุนจัดตั้ง gold ETF เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้นักลงทุน และสนับสนุนให้ร้านทองมีส่วนร่วมในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพราะเชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมทองคำและเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดทุน พร้อมให้ทำหน้าที่ส่งคำสั่งซื้อขายไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้โดยไม่ต้องผ่านบริษัทหลักทรัพย์ และเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่จะสามารถซื้อ ขาย หรือยืมทองคำแท่งกับกองทุนรวมได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งมองว่า gold ETF จะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมทองคำโดยรวม ขณะเดียวกันจะช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดทุนด้วย ทั้งนี้ gold ETF ทั้งสองรูปแบบเป็นการลงทุนครบเต็มจำนวน ไม่มี leverage หรือลงทุนโดยวางหลักประกัน (margin) และมีความซับซ้อนน้อยกว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงทองคำ (gold futures) โดยคณะกรรมการฯ กำหนดแผนให้มีการจัดตั้ง gold ETF ให้สำเร็จภายใน 3 เดือนนับจาก ก.พ.ปีนี้