ASTVผู้จัดการรายวัน - ก.ล.ต.หนุนตั้ง gold ETF เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้นักลงทุน และสนับสนุนให้ร้านทองมีส่วนร่วมในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เชื่อเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมทองคำและเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดทุน พร้อมให้ทำหน้าที่ส่งคำสั่งซื้อขายไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้โดยไม่ต้องผ่านบริษัทหลักทรัพย์ และเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่จะสามารถซื้อ ขาย หรือยืมทองคำแท่งกับกองทุนรวมได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แจ้งผลการประชุมคณะกรรมการกำกับตลาดทุนในการประชุมครั้งที่ 1/2553 ประจำเดือนมกราคม 2553 ว่า สำนักงาน ก.ล.ต. สนับสนุนแผนพัฒนาตลาดทุนในการจัดตั้ง gold ETF เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุน พร้อมทั้งจะสนับสนุนให้ร้านค้าทองสามารถมีส่วนร่วมในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าประเภทนี้รูปแบบของ gold ETF มี 2 รูปแบบ คือ (1) กองทุนรวม gold ETF ที่เป็น feeder fund ลงทุนในกองทุนรวมของต่างประเทศที่มีนโยบายลงทุนในทองคำ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการขออนุมัติวงเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยในการนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศ และ (2) กองทุนรวม gold ETF ที่ลงทุนโดยตรงในทองคำแท่งในประเทศ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีผู้รับรองคุณภาพและผู้เก็บรักษาทองคำแท่งที่มีความสามารถ ความชำนาญและระบบงานที่ได้มาตรฐานเพื่อให้มั่นใจในมาตรฐานคุณภาพและสามารถเก็บรักษาทองคำแท่งได้อย่างปลอดภัย
คณะกรรมการฯ เห็นว่ากองทุน gold ETF จะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมทองคำโดยรวม ขณะเดียวกันจะช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดทุนด้วย ทั้งนี้ gold ETF ทั้งสองรูปแบบเป็นการลงทุนครบเต็มจำนวน ไม่มี leverage หรือลงทุนโดยวางหลักประกัน (margin) และมีความซับซ้อนน้อยกว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงทองคำ (gold futures) โดยคณะกรรมการฯ กำหนดแผนให้มีการจัดตั้ง gold ETF ให้สำเร็จภายใน 3 เดือน
โดยหลังจากนี้ ก.ล.ต. จะร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ความรู้เกี่ยวกับ gold ETF รวมถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการมีสินค้าดังกล่าวในตลาดทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งในส่วนของร้านค้าทองจะสามารถมีส่วนร่วมได้โดยจะมีการอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขาย gold ETF เพื่อทำหน้าที่ส่งคำสั่งซื้อขายไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้โดยไม่ต้องผ่านบริษัทหลักทรัพย์ รวมถึงเปิดให้ทำหน้าที่เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ (participating dealers) ที่จะสามารถซื้อ ขาย หรือยืมทองคำแท่งกับกองทุนรวมได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่ง ก.ล.ต. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แจ้งผลการประชุมคณะกรรมการกำกับตลาดทุนในการประชุมครั้งที่ 1/2553 ประจำเดือนมกราคม 2553 ว่า สำนักงาน ก.ล.ต. สนับสนุนแผนพัฒนาตลาดทุนในการจัดตั้ง gold ETF เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุน พร้อมทั้งจะสนับสนุนให้ร้านค้าทองสามารถมีส่วนร่วมในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าประเภทนี้รูปแบบของ gold ETF มี 2 รูปแบบ คือ (1) กองทุนรวม gold ETF ที่เป็น feeder fund ลงทุนในกองทุนรวมของต่างประเทศที่มีนโยบายลงทุนในทองคำ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการขออนุมัติวงเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยในการนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศ และ (2) กองทุนรวม gold ETF ที่ลงทุนโดยตรงในทองคำแท่งในประเทศ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีผู้รับรองคุณภาพและผู้เก็บรักษาทองคำแท่งที่มีความสามารถ ความชำนาญและระบบงานที่ได้มาตรฐานเพื่อให้มั่นใจในมาตรฐานคุณภาพและสามารถเก็บรักษาทองคำแท่งได้อย่างปลอดภัย
คณะกรรมการฯ เห็นว่ากองทุน gold ETF จะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมทองคำโดยรวม ขณะเดียวกันจะช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดทุนด้วย ทั้งนี้ gold ETF ทั้งสองรูปแบบเป็นการลงทุนครบเต็มจำนวน ไม่มี leverage หรือลงทุนโดยวางหลักประกัน (margin) และมีความซับซ้อนน้อยกว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงทองคำ (gold futures) โดยคณะกรรมการฯ กำหนดแผนให้มีการจัดตั้ง gold ETF ให้สำเร็จภายใน 3 เดือน
โดยหลังจากนี้ ก.ล.ต. จะร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ความรู้เกี่ยวกับ gold ETF รวมถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการมีสินค้าดังกล่าวในตลาดทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งในส่วนของร้านค้าทองจะสามารถมีส่วนร่วมได้โดยจะมีการอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขาย gold ETF เพื่อทำหน้าที่ส่งคำสั่งซื้อขายไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้โดยไม่ต้องผ่านบริษัทหลักทรัพย์ รวมถึงเปิดให้ทำหน้าที่เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ (participating dealers) ที่จะสามารถซื้อ ขาย หรือยืมทองคำแท่งกับกองทุนรวมได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่ง ก.ล.ต. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
