Quantitative Analyst ก่อนหน้า (เดือน ธ.ค. 2552) SCRI ได้แนะนำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน SET Index ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2552 เพื่อรอ "ขายทำกำไร" ในช่วงเดือน ม.ค. 2553 ที่ SET Index จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงไปใช้ Earnings Yield ของปี 2553 แทนที่ปี 2552 สำหรับกลยุทธ์การลงทุนจากการวิเคราะห์โดยใช้หลักการวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analyst) สำหรับเดือน ก.พ. 2553 นั้น SCRI แนะนำให้ทยอย "เพิ่มน้ำหนักการลงทุน" ใน SET Index เนื่องจาก SCRI Yield Gap ณ สิ้นเดือน ม.ค. 2553 ได้ปรับเข้าสู่ระดับ Fully Value (SCRI Yield Gap เท่ากับ 0 จุด) จากเดิมที่เป็นระดับ Over Value (SCRI Yield Gap น้อยกว่าหรือเท่ากับ -2.0) ในช่วงที่ผ่านมา
SCRI Yield Gap สิ้นเดือน ม.ค. 2552 เท่ากับ -0.47 จุด ซึ่งจาก Model ของ SCRI บ่งชี้ว่าเป็นระดับที่แสดงว่า SET Index เป็นระดับที่ Fully Value จึงมีความน่าสนใจลงทุนมากขึ้นจากเดิมที่เป็นระดับ Over Value ในช่วงเดือน ต.ค. – ธ.ค. 2552 ทั้งนี้ SET Index ณ ระดับ 696.5 จุด วันที่ 29 ม.ค. 2553 มี Earnings Yield 9.53% และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี (TBDC5Y) เท่ากับ 3.27%
อย่างไรก็ตามการที่ SCRI Yield Gap ปรับขึ้นสู่ระดับ Fully Value นั้นจะเป็นช่วงที่ SET Index อาจมีความผันผวนได้ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงทำให้ SCRI Yield GAP ปรับสูงขึ้นหรือลดลงได้เช่นกัน โดยปัจจัยที่จะทำให้ SCRI Yield Gap ปรับลดลง (SET Index มีแนวโน้มปรับขึ้น) นั้นคือ การที่ TBDC5Y ปรับสูงขึ้นเนื่องจากอุปทานพันธบัตรรัฐบาลที่จะเพิ่มขึ้นรวมทั้งการคาดการณ์ถึงอัตราเงินเฟ้อในปี 2553 และการปรับประมาณการ EPS ของหุ้นใน SET Index ลงจากความกังวลเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจ ในทางกลับกันปัจจัยที่จะส่งผลให้ SCRI Yield Gap ปรับสูงขึ้น (SET Index มีแนวโน้มปรับลดลง) คือ ดัชนี SET Index ที่ปรับตัวลงจากภาวะความผันผวนของตลาดหุ้น และปัจจัยทางการเมือง SET Index ที่มีแนวโน้มผันผวนนั้น จึงเป็นโอกาสในการ ทยอยเข้าลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลในอัตราที่สูง ได้แก่ SPALI (มูลค่าเหมาะสม 7.30 บาท / Dividend Yield สำหรับผลการดำเนินงาน 2H/52 เท่ากับ 6%) และ TMT (มูลค่าเหมาะสม 6.20 บาท / Dividend Yield สำหรับผลการดำเนินงานปี 2552 เท่ากับ 7.5%)
ทั้งนี้ SCRI ประเมินระดับที่ SET Index ประมาณ 620 – 630 จุด จะเป็นช่วงที่ SET Index Under Value (SCRI Yield Gap เท่ากับ 2.00 จุด) และเป็นระดับที่น่าสนใจลงทุน ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า เป็นระดับที่ SET Index จะปรับตัวขึ้น (Turning Point) โดยใช้สมมติฐาน EPS ของ SET Index ที่ระดับ 66.40 บาท/หุ้น (Bloomberg Consensus) และ TBDC5Y เท่ากับ 3.5% (คาดว่า TBDC5Y จะปรับสูงขึ้น) ซึ่งในช่วงดังกล่าวหุ้นกลุ่ม Growth Stock เช่น BAY/ CPN / QH / TASCO และ หุ้นกลุ่ม Commodity อาทิ PTTEP จะเป็นหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจลงทุน
SCRI Yield Gap สิ้นเดือน ม.ค. 2552 เท่ากับ -0.47 จุด ซึ่งจาก Model ของ SCRI บ่งชี้ว่าเป็นระดับที่แสดงว่า SET Index เป็นระดับที่ Fully Value จึงมีความน่าสนใจลงทุนมากขึ้นจากเดิมที่เป็นระดับ Over Value ในช่วงเดือน ต.ค. – ธ.ค. 2552 ทั้งนี้ SET Index ณ ระดับ 696.5 จุด วันที่ 29 ม.ค. 2553 มี Earnings Yield 9.53% และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี (TBDC5Y) เท่ากับ 3.27%
อย่างไรก็ตามการที่ SCRI Yield Gap ปรับขึ้นสู่ระดับ Fully Value นั้นจะเป็นช่วงที่ SET Index อาจมีความผันผวนได้ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงทำให้ SCRI Yield GAP ปรับสูงขึ้นหรือลดลงได้เช่นกัน โดยปัจจัยที่จะทำให้ SCRI Yield Gap ปรับลดลง (SET Index มีแนวโน้มปรับขึ้น) นั้นคือ การที่ TBDC5Y ปรับสูงขึ้นเนื่องจากอุปทานพันธบัตรรัฐบาลที่จะเพิ่มขึ้นรวมทั้งการคาดการณ์ถึงอัตราเงินเฟ้อในปี 2553 และการปรับประมาณการ EPS ของหุ้นใน SET Index ลงจากความกังวลเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจ ในทางกลับกันปัจจัยที่จะส่งผลให้ SCRI Yield Gap ปรับสูงขึ้น (SET Index มีแนวโน้มปรับลดลง) คือ ดัชนี SET Index ที่ปรับตัวลงจากภาวะความผันผวนของตลาดหุ้น และปัจจัยทางการเมือง SET Index ที่มีแนวโน้มผันผวนนั้น จึงเป็นโอกาสในการ ทยอยเข้าลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลในอัตราที่สูง ได้แก่ SPALI (มูลค่าเหมาะสม 7.30 บาท / Dividend Yield สำหรับผลการดำเนินงาน 2H/52 เท่ากับ 6%) และ TMT (มูลค่าเหมาะสม 6.20 บาท / Dividend Yield สำหรับผลการดำเนินงานปี 2552 เท่ากับ 7.5%)
ทั้งนี้ SCRI ประเมินระดับที่ SET Index ประมาณ 620 – 630 จุด จะเป็นช่วงที่ SET Index Under Value (SCRI Yield Gap เท่ากับ 2.00 จุด) และเป็นระดับที่น่าสนใจลงทุน ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า เป็นระดับที่ SET Index จะปรับตัวขึ้น (Turning Point) โดยใช้สมมติฐาน EPS ของ SET Index ที่ระดับ 66.40 บาท/หุ้น (Bloomberg Consensus) และ TBDC5Y เท่ากับ 3.5% (คาดว่า TBDC5Y จะปรับสูงขึ้น) ซึ่งในช่วงดังกล่าวหุ้นกลุ่ม Growth Stock เช่น BAY/ CPN / QH / TASCO และ หุ้นกลุ่ม Commodity อาทิ PTTEP จะเป็นหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจลงทุน
