“คมนาคม”ยกทีมโชว์สารพัดโปรเจกต์ ปั้นเชียงรายเชื่อมเส้นทางการค้าจีน

เชียงราย – “ปลัด-อธิบดี-รองอธิบดี”กระทรวงคมนาคมเรียงแถวโชว์ผลงาน ทำสารพัดโครงการปั้นเมืองพ่อขุนฯเชื่อมเส้นทางการค้าจีน ทั้งถนน-ท่าเรือ-เส้นทางบิน เผยเฉพาะทางบกมีงบลงแล้วกว่า 4,500 ล้าน ด้านผู้ว่าฯย้ำ SGA ดีเดย์เปิดบินเชียงราย-เชียงรุ่ง(จิ่งหง หรือสิบสองปันนา) 1 เมษาฯนี้แน่

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ในเวทีเสวนา “คมนาคม...กับการพัฒนาเชียงราย” ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ยกขบวนผู้บริหารระดับสูงทุกกรมเข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นนายชัยรัตน์ สงวนซื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท นายวีระ เรืองศรีสุขวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง นายพงษ์วรรณ จารุเดชารองอธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี นายสมชาย จันทร์รอด รองอธิบดีกรมการบินพลเรือน และนายยุทธนา ทับเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ขณะที่มีประชาชนเข้าร่วมรับฟังประมาณ 1,300 คนนั้น

นายสุพจน์ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญแก่เชียงรายมาก เพราะมีกายภาพเหมาะสมกับการพัฒนาเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับประเทศลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะที่ท่าเรือแห่งเดิมของ อ.เชียงแสน มีมูลค่าการค้ารวมปีละกว่า 15,000 ล้านบาท

ดังนั้น จึงมีโครงการก่อสร้างท่าเรือในแม่น้ำโขงที่ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ที่จะเสร็จเร็ว ๆ นี้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อม อ.เชียงของ-ห้วยทราย เมืองบ่อแก้ว สปป.ลาว เชื่อมถนน R3a ไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ ที่เชื่อว่าจะเริ่มได้ไม่เกินเดือนเมษายน 2553

ด้านนายวีระ กล่าวว่า ในส่วนของกรมทางหลวง ดำเนินโครงการในเชียงรายมากมาย โดยเฉพาะการก่อสร้างถนนเชื่อมโครงข่ายชายแดนสาย อ.แม่จัน-เชียงแสน ระยะทาง 19.2 กิโลเมตร 630 ล้านบาท และรองบประมาณอีก 540 ล้านบาทเพื่อก่อสร้างช่วงที่ 1 โครงการถนนเชื่อม อ.แม่สาย-เชียงแสน ระยะทาง 30.6 กิโลเมตร 300 ล้านบาท โครงการก่อสร้าง อ.เชียงแสน-เชียงของ ระยะทาง 59 กิโลเมตร 995 ล้านบาท รวมทั้งอยู่ระหว่างของบประมาณ 850 ล้านบาท ก่อสร้างถนนสายเชียงราย-เชียงของ ช่วงที่ 3 ซึ่งเหลืออีกเพียง 25 กิโลเมตร เพื่อให้แล้วเสร็จปี 2554 ด้วย

“ที่ผ่านมามีงบกระจายลงพื้นที่ผ่านโครงการก่อสร้างถนนต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่า 4,500 ล้านบาท และในปี 54 คาดว่าจะมีเม็ดเงินเพิ่มเติมอีกประมาณ 270 ล้านบาทด้วย” นายวีระ กล่าว

ด้านนายพงษ์วรรณ กล่าวว่า กรมการขนส่งทางน้ำอยู่ระหว่างก่อสร้างท่าเรือในแม่น้ำโขงที่ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ด้วยงบประมาณ 1,546,400 ล้านบาทเพื่อรองรับเรือสินค้าในแม่น้ำโขง ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม2552 เพื่อให้แล้วเสร็จตามสัญญาวันที่ 28 ธันวาคม2554 ขณะนี้คืบหน้าไปแล้วประมาณ 16% ซึ่งถือว่าเร็วกว่าแผนที่วางเอาไว้กว่า 4% ทั้งนี้ตามลักษณะทั่วไปของท่าเรือขนาดใหญ่มักจะมีโครงข่ายเป็นถนน เครื่องบิน รถไฟ ฯลฯ รองรับซึ่งเชื่อว่า จ.เชียงราย ก็คงจะมีโครงการต่างๆ รองรับอย่างพร้อมสรรพเช่นกัน

นายสมชาย กล่าวถึงความพร้อมด้านการบินว่า ปัจจุบันเชียงรายมีท่าอากาศยานซึ่งเป็นสากลตั้งอยู่ที่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสนามบินที่มีความกว้างขวางมากเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศรองจากสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง รวมทั้งมีศักยภาพในการใช้ทำการบินมากกว่าสนามบินภูเก็ต-สนามบินเชียงใหม่ ที่มีปัญหาความแออัดและกายภาพที่ไม่สะดวกสบายเท่าอีกด้วย เพราะมีรันเวย์ที่ยาวกว่า 5 กิโลเมตรและกว้าง 1 กิโลเมตรกว่า ดังนั้น กรมการบินพลเรือนยืนยันว่า ได้เตรียมความพร้อมรองรับความเจริญของเชียงรายเอาไว้อย่างเต็มที่แล้ว

ขณะที่นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดได้ประสานกับเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ อย่างต่อเนื่อง เพราะต้องการเชื่อมการบินระหว่างเชียงราย-สิบสองปันนา เพื่อเปิดเป็นท่าอากาศยานสากลอย่างแท้จริง และจากการหารือกับท่านเตา หลินอิน ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา หลายครั้ง ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากสนามบินนานาชาติสิบสองปันนา ให้สามารถนำเครื่องบินจากเชียงราย แลนดิ้งได้ฟรีโดยไม่เสียค่าลงจอดเป็นเวลา 1 ปี ทั้งๆ ที่เดิมมีการค่าลงจอดแพงมากจนเป็นอุปสรรคสำคัญ เบื้องต้นได้ประสานกับสายการบินเอสจีเอ แล้ว ทราบว่ามีแผนบินตามเส้นทางนี้

บริษัทนี้ได้สั่งซื้อเครื่องบินขนาด 33 ที่นั่งจากออสเตรเลียเอามาไว้แล้ว และอยู่ระหว่างการแปลงเป็นสัญชาติไทย คาดว่าจะสามารถบินเชื่อมเชียงราย-สิบสองปันนา ได้อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะมีต้นทุนด้านค่าใช้จ่ายต่อคนที่สายการบินต้องแบกรับ หัวละเพียงประมาณ 2,000 กว่าบาทเท่านั้น ซึ่งใกล้เคียงกับสายเชียงราย-กรุงเทพฯ มาก