นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ได้คุณภาพ และราคาแพงเกินจริงว่า จากผลการตรวจพิสูจน์ของนักวิชาการ และการตรวจสอบจากทางการของประเทศอังกฤษได้ออกมายืนยันในทางเดียวกันแล้วว่า เป็นเครื่องลวงโลก และได้สั่งห้ามจำหน่ายแล้ว แต่ปรากฏว่า ผู้บังคับบัญชาทหารบางคนรวมถึงแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กลับยืนยันว่า เครื่องตรวจวัตถุระเบิดดังกล่าวมีคุณสมบัติที่ใช้การได้ดี จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีความผิดปกติในการจัดซื้อเครื่อง จีที 200 เพราะหากพิจารณาราคาที่จัดซื้อจะพบว่า เครื่องดังกล่าวมีต้นทุนการผลิตไม่กี่พันบาท แต่บริษัทผู้สั่งซื้อกลับนำมาขายให้กองทัพ ในราคาถึง 1.4 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ขายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติในราคาเพียงเครื่องละ 5 แสนบาท ซึ่งราคาแตกต่างกับราคาต้นทุนอย่างมาก
ดังนั้น ราคาส่วนที่เกินตกไปอยู่ในกระเป๋าใคร ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหมือนกับการทุจริตงบโครงการไทยเข้มแข็ง ของกระทรวงสาธารณสุข ถ้าพบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวกับความไม่โปร่งใส ก็ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า เครื่องมือดังกล่าวเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทหาร ตำรวจ และประชาชน เมื่อเครื่องไม่สามารถใช้งานได้ ก็ต้องยุติการใช้งานทันที และหาเครื่องมือชนิดใหม่ หรือวิธีการใหม่ในการตรวจสอบ อย่านำชีวิตของประชาชน ข้าราชการทหาร ตำรวจ ไปเสี่ยงกับความไม่แน่นอน นายอภิสิทธิ์ต้องดำเนินการตั้งคณะกรรมการอย่างรีบด่วน หากไม่ดำเนินการจะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป เพราะหากเรื่องนี้สอบตามกฎหมาย เชื่อว่านายทหารระดับพลเอกต้องติดคุกกันบ้าง ตอนนี้ฝ่ายค้านมีข้อมูลหมด เตรียมที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องนี้ด้วย
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่าถึงเรื่องนี้ว่า ตนยังไม่ได้สั่งการอะไรพิเศษ เพราะผู้มีหน้าที่รับผิดชอบกำลังดำเนินการ
อย่างไรก็ตามเรื่องที่กำลังถกเถียงกันนั้นยังเป็นเรื่องทางเทคนิค ซึ่งมีโอกาสที่จะพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดเจน ไม่ใช่เรื่องที่ต้องรีบเร่ง และไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เครื่องมือดังกล่าวเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ใช้ทำงานในการตรวจจับ เก็บกู้วัตถุระเบิด ซึ่งเท่าที่ตนไปติดตามมานั้นทราบว่าผู้ปฏิบัติเป็นคนร้องขอที่อยากได้เครื่องมือชนิดนี้ ซึ่งผู้บังคับบัญชาจึงจัดซื้อจัดหาให้ แต่ไม่ใช่อาวุธยุทโธปกรณ์ตามปกติ อย่างไรก็ตามคงต้องมีการพิสูจน์ให้ชัดเจน ส่วนพรรคเพื่อไทยเตรียมส่งเรื่องดังกล่าวให้ป.ป.ช.ตรวจสอบนั้นก็ไม่เป็นไร เพราะเครื่องมือนี้ เริ่มซื้อเมื่อปี 2547 สมัยพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ตอนที่ตนเข้ามาเป็นรัฐบาลยังไม่มีการจัดซื้อเครื่องมือเหล่านี้แต่ประการใด
"ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้คิดโทษรัฐบาลนั้น เนื่องจากผมไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยอยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อเป็นที่สงสัยเคลือบแคลง ก็ต้องทำเรื่องให้กระจ่าง" นายสุเทพกล่าว
ดังนั้น ราคาส่วนที่เกินตกไปอยู่ในกระเป๋าใคร ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหมือนกับการทุจริตงบโครงการไทยเข้มแข็ง ของกระทรวงสาธารณสุข ถ้าพบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวกับความไม่โปร่งใส ก็ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า เครื่องมือดังกล่าวเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทหาร ตำรวจ และประชาชน เมื่อเครื่องไม่สามารถใช้งานได้ ก็ต้องยุติการใช้งานทันที และหาเครื่องมือชนิดใหม่ หรือวิธีการใหม่ในการตรวจสอบ อย่านำชีวิตของประชาชน ข้าราชการทหาร ตำรวจ ไปเสี่ยงกับความไม่แน่นอน นายอภิสิทธิ์ต้องดำเนินการตั้งคณะกรรมการอย่างรีบด่วน หากไม่ดำเนินการจะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป เพราะหากเรื่องนี้สอบตามกฎหมาย เชื่อว่านายทหารระดับพลเอกต้องติดคุกกันบ้าง ตอนนี้ฝ่ายค้านมีข้อมูลหมด เตรียมที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องนี้ด้วย
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่าถึงเรื่องนี้ว่า ตนยังไม่ได้สั่งการอะไรพิเศษ เพราะผู้มีหน้าที่รับผิดชอบกำลังดำเนินการ
อย่างไรก็ตามเรื่องที่กำลังถกเถียงกันนั้นยังเป็นเรื่องทางเทคนิค ซึ่งมีโอกาสที่จะพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดเจน ไม่ใช่เรื่องที่ต้องรีบเร่ง และไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เครื่องมือดังกล่าวเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ใช้ทำงานในการตรวจจับ เก็บกู้วัตถุระเบิด ซึ่งเท่าที่ตนไปติดตามมานั้นทราบว่าผู้ปฏิบัติเป็นคนร้องขอที่อยากได้เครื่องมือชนิดนี้ ซึ่งผู้บังคับบัญชาจึงจัดซื้อจัดหาให้ แต่ไม่ใช่อาวุธยุทโธปกรณ์ตามปกติ อย่างไรก็ตามคงต้องมีการพิสูจน์ให้ชัดเจน ส่วนพรรคเพื่อไทยเตรียมส่งเรื่องดังกล่าวให้ป.ป.ช.ตรวจสอบนั้นก็ไม่เป็นไร เพราะเครื่องมือนี้ เริ่มซื้อเมื่อปี 2547 สมัยพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ตอนที่ตนเข้ามาเป็นรัฐบาลยังไม่มีการจัดซื้อเครื่องมือเหล่านี้แต่ประการใด
"ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้คิดโทษรัฐบาลนั้น เนื่องจากผมไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยอยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อเป็นที่สงสัยเคลือบแคลง ก็ต้องทำเรื่องให้กระจ่าง" นายสุเทพกล่าว
