ASTVผู้จัดการรายวัน - หน่วยรบพรึ่บ! ทั่วประเทศ ทั้งกองทัพภาคที่ 4 ,ผบ.หน่วยรบใน กทม.และปริมณฑล 17 กองพล , มทบ.11 ,มทบ.33 กู้ศักดิ์ศรีกองทัพบก ลูกบิ๊กจ๊อดนำทหารหนุ่มคุมกำลังรบประณาม เสธ.แดงทำเรื่องน่าละอาย สร้างความแตกแยกในกองทัพ เตือนระวังมีคนจองกฐินเพียบ "เสธ.แดง" โต้ เป็นพวกประจบสอพลอหวังเป็นใหญ่ ขู่ ผบ.พล. 1 ให้ระวังถูกจี้กบาล ลั่น "เพื่อไทย" ใหญ่ตนขึ้นแม่ทัพภาค 1
วานนี้ (28 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจาก พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ "เสธ.แดง" ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งประกาศตัวเป็นอยู่กับฝ่ายกลุ่มคนเสื้อแดง แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ข่มขู่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาอย่างไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทำให้เกิดปฎิกริยาอย่างรุนแรงลามไปยังทหารทั่วประเทศ จนมีการเคลื่อนไหวแสดงพลังเพื่อต่อต้านการกระทำของ พล.ต.ขัตติยะ ของหน่วยทหารต่างๆ ที่คุมกำลังรบ เริ่มจาก เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมาทหารจากกองบังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (28 ม.ค.) ที่ ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ร.11 รอ. พร้อมด้วย นายทหารระดับผู้บังคับหน่วยของกองทัพบก ประกอบด้วย พ.อ.นัฐวัฒน์ อัครนิบุตร ผบ.ร.1 รอ. พ.อ.กฤษณ์ดนัย อิทธิมณฑล ผบ.ป.1 รอ. พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผบ.ร.2 รอ. พ.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท ผบ.ร.31 รอ. พ.อ.บรรยง ทองน่วม ผบ.กรมทหารพรรานที่ 13 และ พ.ท.ชินสรณ์ เรืองสุข ผบ.ม.พัน.4 รอ. ร่วมกันแถลงข่าวตอบโต้ พฤติกรรมของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เพื่อปกป้อง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.และปกป้องศักดิ์ศรีของกองทัพบก โดยได้เชิญผู้บังคับกองพันและทหารในสังกัดบางส่วนมานั่งรับฟังการแถลงข่าว รวม 17 กองพัน
พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่าช่วงเช้ามีการสัมมนาเรื่อง แนวทางกวดขันวินัยกำลังพล โดยมีทหารระดับผู้บังคับกองพันและผู้บังคับกองร้อยในกรุงเทพฯและปริมณฑลกว่า 17 กองพันเข้าร่วมสัมมนา ถือเป็นระดับคุมกำลังทั้งหมด ซึ่งมีการถกแถลงกันในทุกประเด็นเกี่ยวกับวินัยกำลังพล
"ในอดีตกองทัพบกปกป้องศักดิ์ศรีจากบุคคลภายนอก แต่ในขณะนี้ เราต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของกองทัพ โดยการย่ำยีของคนในกองทัพบกเอง เป็นเรื่องที่น่าละอายใจเป็นอย่างยิ่ง ผมเชื่อว่าการกระทำใดๆ ของนายพลผู้นี้มีนัยทางการเมืองแอบแฝง มีความพยายามสร้างสถานการณ์ ทั้งที่ประเทศชาติต้องการสร้างความสมัครสมานสามัคคี กลับมาสร้างความแตกแยก ซึ่งการแสดงความไม่พอใจสามารถทำได้ โดยมีนายทหารหลายท่านที่ไม่พอใจกองทัพ ก็สามารถพลิดผันตัวเองไปสู่เวทีการเมือง ใช้เวทีการเมืองต่อสู้ และตอบโต้กองทัพ แต่ไม่ใช่แสดงการย่ำยี โดยใส่เครื่องแบบของกองทัพบกและมาย่ำยีกันเองเช่นนี้"
**เตือน "เสธ.แดง" มีคนจองกฐินเพียบ
พ.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า ทหารได้ปฏิญาณต่อหน้าธงชัยเฉลิมพลว่าจะประพฤติและปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด ซึ่งคิดว่านายพลผู้นั้นก็เคยปฏิญาณตน ไม่รู้กี่ครั้งแต่ทำไมไม่ปฏิบัติตาม ซึ่งการแสดงออกของพวกเราวันนี้ ต้องการให้ทุกคน เห็นถึงความสมัครสมานสามัคคีของกองทัพบก และเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนว่ากองทัพไม่มีความแตกแยกอย่างที่หลายท่านเข้าใจ การมารวมตัวกันของ ผบ.หน่วยคุมกำลังหลักของกองทัพบกวันนี้ทั้งจากกรุงเทพฯ ปราจีนบุรี ลพบุรี มีความรักใคร่ สามัคคี กลมเกลียวกัน เป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน ขอยืนยันเราเป็นปึกแผ่นภายใต้การบังคับบัญชาของ ผบ.ทบ.
"สุดท้ายอยากขอความกรุณาให้พี่แดง หรือ พล.ต.ขัตติยะ ให้ยุติบทบาท ที่แสดงออกมาทั้งหมด ผมได้หารือและคุยกันว่า ผมเชื่อว่าพี่แดงไม่ได้มีเจตนาพูด หรือโจมตีกองทัพในลักษณะนั้น อาจจะทำด้วยอารมณ์โกรธและอารมณ์โมโห เพราะถูกพักราชการ ผมเชื่อว่าหากพี่แดงยุติบทบาท หรือหยุดกระทำก้าวร้าวเช่นนั้น ก็ยังสามารถเป็นรุ่นพี่ที่ดีเป็นฮีโร่ หรือเป็นนักรบอย่างที่ท่านชอบพูดไว้กับกลุ่มคนบางคนได้ต่อไป ส่วนการนำเสนอข่าวนั้น อยากเรียนว่าควรจะนำเสนอในประเด็นที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองมากกว่าเรื่องของ พล.ต.ขัตติยะ ขณะนี้คนจ้องกฐิน พล.ต.ขัตติยะ มาก หากยังดื้อดึงทำเช่นนี้อยู่ คนที่ไม่พอใจ คงไม่ใช่แค่พวกเราที่จบจาก รร.จปร. คงมีกำลังพลหลายคน หากเกิดอะไรขึ้นตรงไหน แล้วโทษเป็นฝีมือคนในกองทัพคงไม่ใช่"
**ลั่นใครกระทบเบื้องสูงตอบโต้ทันที
พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า พวกเรายังได้ปฏิญาณตนแน่วแน่แล้วว่า ต่อไปนี้ หากมีสิ่งใด หรือการกระทำจากบุคคลใดก็ตามที่จะกระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะออกมาตอบโต้ทันที เป็นสิ่งเดียวที่เราไม่ยอมโดยเด็ดขาด ในฐานะของทหารรักษาพระองค์ ในฐานะทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวกเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นนายทหาร นายสิบ และพลทหารว่า อย่ามีสิ่งใดระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เราจะไม่ยอมเด็ดขาด
พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวว่า พวกตนคือตัวแทนกองทัพในกรุงเทพฯและปริมณฑล ทุกคนต่างผ่านการศึกษาในสถาบันของชาติในระดับต่างๆ โดยเฉพาะจบจาก โรงเรียนพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รร.จปร.) ทุกคนล้วนปลูกฝังให้มีระเบียบวินัยให้เคารพเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา โรงเรียนทหารสอนให้เรามีระบบเกียรติศักดิ์ ระบบอาวุโส เคารพรุ่นพี่รุ่นน้องมาแต่อดีตถึงปัจจุบัน เชื่อฟังเคารพผู้บังคับบัญชา กำลังพลทุกระดับล้วนเสียสละทำคุณประโยชน์ให้ชาติต่อเนื่อง ไม่เคยมีผู้ใดลบหลู่ หรือหยามเกียรติผู้บังคับบัญชาในหน่วยของตนมาก่อน เชื่อว่าในหลายหน่วยงาน หรือองค์กร คงไม่มีใครในองค์กรตัวเองกล่าวให้ร้ายลบหลู่เหยียดหยามผู้บังคับบัญชาตัวเอง
"ราขอเป็นตัวแทนออกมาแสดงความไม่พอใจ และรู้สึกละอายใจในการกระทำของนายพลบางท่าน เชื่อว่าคนไทยที่รับฟังคงเอื้อมระอากับการกระทำที่พบเห็น พวกเราสรุปผลการสัมมนาว่า บุคคลท่านนั้นขาดจิตสำนึกผิดขนบธรรมเนียม ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง และถือเป็นตัวอย่างไม่ดีของผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนในกองทัพ สิ่งที่ พล.ต.ขัตติยะ ทำท่านรู้อยู่แก่ใจ ที่เรามาคุยวันนี้ เพราะความไม่สบายใจและไม่พอใจ ท่านเป็นถึงนายพลแต่ขาดจิตสำนึกและวินัยหย่อนยาน แต่เชื่อว่าจิตสำนึก ของทหารระดับนายพล เมื่อมีน้องๆ มาพูดขนาดนี้ท่านน่าจะคิดได้"
ด้าน พ.อ.กฤษณ์ดนัย กล่าวว่า เรามาอยู่ที่นี้ผ่านสถาบันการศึกษาทุกระดับ ผ่านการบังคับบัญชาหน่วยตั้งแต่ระดับผู้บังคับหมู่ ผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับกองพัน ถึงผู้บังคับการกรม ทุกคนล้วนได้รับการสั่งสอนจากครูบาอาจารย์ ตนเห็นว่าการที่มีคนพูดว่าเคยเป็นอาจารย์ เคยเป็นนักรบ และผู้บังคับหน่วย แต่พฤติกรรมปัจจุบันไม่ใช่มีการให้ร้ายผู้บังคับบัญชา ถือว่า เป็นสิ่งที่ใช้ไม่ได้ ในฐานะที่เป็นทหารอาชีพอย่างพวกเรา ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นผู้บังคับบัญชา เราต้องให้เกียรติในทุกสถานะ แม้ผู้บังคับบัญชาจะเป็นรุ่นน้องก็ตาม และผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุดของกองทัพบก แต่กลับถูกโจมตีเป็นสิ่งที่พวกเราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นเป็นอันขาด
**ประกาศเลิกเคารพ "เสธ.แดง"
พ.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า การดำรงไว้ของทหารที่มีระเบียบวินัยเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการปฏิบัติตามสายการบังคับบัญชาที่ต้องเชื่อฟังอย่างเคร่งครัด ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการปกครองทหาร หากมีตัวอย่างไม่ดีหรือไม่ถูกต้อง นับว่าเป็นการบ่อนทำลายกองทัพมากกว่าถูกบ่อนทำลายจากฝ่ายตรงข้าม
"ไม่ว่าท่านจะทำด้วยจุดประสงค์ใด รร.จปร. ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และมีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จปู่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อยู่ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เกี่ยวข้องจะจบมาจากสถาบันนั้น และคนที่ทำต้องกลับไปทบทวนใคร่ครวญว่าสมควรหรือไม่ ทั้งนี้ เราคงไม่ต้องสนใจ พล.ต.ขัตติยะ บุคคลเพียงคนเดียวจะมาทำให้กองทัพและบ้านเมืองวุ่นว่าย คิดว่าอย่าไปสนใจและบอยคอตในทุกเรื่อง อย่าไปคิดว่าชั้นยศติดบนบ่าแสดงถึงอำนาจ หากเขายังทำตัวไม่สมกับชั้นยศที่ได้รับอยู่ ก็ไม่ต้องไปแสดงความเคารพ ไม่ต้องสนใจปล่อยให้พูดไป เหมือนเป็นคนๆ หนึ่ง เชื่อว่าวันหนึ่งประชาชนจะเอื้อมระอา เบื่อหน่ายไปเอง"
พ.อ.กู้เกียรติ กล่าวว่า กองทัพบกให้อะไรเรามากมายทั้งเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ฐานะความเป็นอยู่ การที่เราไม่รู้จักบุญคุณกองทัพบก คิดว่าคงยอมไม่ได้ และอยากยกสุภาษิตของไทยว่า อย่ากินบนเรือนแล้วขี้รดบนหลังคา อยากฝากไปถึงบุคคล ที่กระทำต่อความไม่สงบ เราทุกคนคงยอมไม่ได้
พ.อ.บรรยงค์ กล่าวว่า ได้หารือกับพี่น้องทหารพรานถึงทหารที่ขาดวินัย พวกเรารู้สึกไม่สบายใจกับการกระทำดังกล่าว และขอยืนยันกับผู้บังคับบัญชาว่า พวกเราทหารพราน นักรบประชาชน เป็นผู้ที่มีวินัย และพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกมาแอ็คชั่นครั้งนี้มีไฟเขียวจากผู้บังคับบัญชา ให้มาเช็คกระแสกำลังพลหรือไม่ พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่ใช่ประเด็นนั้น ซึ่งการสัมมนานี้เพราะกรมกำลังพลทหารบกเป็นห่วง เนื่องจากการประชุมระดับของกองทัพบกค่อนข้างห่วงข่าวสารที่เกิดขึ้น จึงกำชับทุกหน่วยประชุมหารือและจัดสัมมนากัน เพื่อได้จบเสียทีให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และหากเป็นทหารอาชีพ ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง ทั้งนี้ ไม่ใช่ไฟเขียวจากใคร แต่เป็นการกวดขันวินัยกำลังพล
ต่อข้อถามว่าเป็นการแสดง 2 มาตรฐานหรือไม่ เพราะกรณีพล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสด ขึ้นเวทีพันธมิตรฯโจมตีกองทัพ แต่ไม่มีทหารออกมาปกป้อง พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ที่นั่งอยู่นี้เราสังกัดกองทัพบก แต่ พล.อ.ปฐมพงษ์ ท่านเป็นทหารในสังกัดของกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งต้นสังกัดก็มีวิธีการโต้ตอบเขา ซึ่งเราแยกออกจากกัน แต่หากคนในกองทัพบกทำแบบนั้นก็ต้องออกมาตอบโต้
**ปัดเช็คกำลังหน่วยคุมกำลังเพื่อปฏิวัติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกมาเคลื่อนไหวของผู้บังคับบัญชาหน่วยรบเพื่อต้องการ ปรามผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับกองทัพใช่หรือไม่ พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่าการออกมารวมตัววันนี้ไม่มีนัยยะการเมือง เรามีความรักและเป็นทหารที่มีวินัย เราต้องการจุดยืนชัดเจนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองทหารเป็นของประชาชน ตนยืนยันว่ากองทัพเป็นของประชาชนและทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้น ใครดึงกองทัพเขจ้าไปเกี่ยวพันทางการเมือง เราก็ไม่พอใจเช่นกัน
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่าการออกมาครั้งนี้ก็ไม่ใช่เช็คกำลังทหารที่จะทำรัฐประหาร แต่เป็นการออกมากวดขัดวินัยกำลังพล ไม่เกี่ยวข้องการกับการออกมาเช็คกำลังหรืออะไร และที่ผ่านมาแต่ละหน่วยมีการพูดคุยกันถึงการกวดขัน แต่ละหน่วยอยู่แล้ว เมื่อเห็นตรงกันก็มาจัดสัมมนา เพื่อให้กำลังพลมีความเข้าใจและเห็นตรงกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ พล.ต.ขัตติยะ เพราะจะทำให้เสียการปกครองบังคับบัญชา และไม่สบายใจที่มีทหารชั้นนายพลของกองทัพออกมาแสดงออกเช่นนี้ เพราะทำให้กองทัพบกเสียเกียรติยศ อีกทั้งยังเห็นว่า ถ้าทหารขาดวินัยก็เปรียบเหมือนกองโจรที่ถืออาวุธ
**มทบ.11นำทหารให้กำลังใจ ป๊อก.
ขณะเดียวกัน 15.30 น. ที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) พล.ต. อุกฤษฎ์ ณรงค์วิทย์ ผบ.มทบ.11 ได้นำกำลังพลหน่วยขึ้นตรง มทบ.11 ประกอบด้วยจังหวัดทหารบกกรุงเทพ (จทบ.กท.) กองพันสารวัตรทหารที่ 11 (พัน.สห.ทบ.)กองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11)มาทำพิธีแสดงพลังเพื่อปกป้อง สถาบันทหาร โดยมีกำลังพลระดับนายทหารสัญญาบัตร และนายทหารประทวน เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก
พล.ต.อุกฤษฎ์ กล่าวต่อหน้ากำลังพลเข้าร่วมพิธีปฏิญาณว่า ทุกคนทราบดีแล้วว่าในปัจจุบันประเทศชาติได้เกิดมีความขัดแย้ง ทางด้านความคิดขึ้นของกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม และได้มีความพยายามที่จะดึงสถาบันทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งดังกล่าว โดยใช้กำลังพลบางนายในกองทัพเป็นเครื่องมือ เพื่อมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์แก่กลุ่มบุคคลเหล่านั้น โดยการแสดงพฤติกรรมที่จาบจ้วง และดูหมิ่นเหยียดหยามเกียรติยศศักดิ์ศรีของสถาบันทหารอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความแตกแยก และการแสดงออกของเราวันนี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า พวกท่านเป็นทหารที่ดีมีระเบียบวินัย มีความเชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชา และปฏิบัติตามคำสั่งโดยเคร่งครัด ที่สำคัญจะช่วยกันรักษาไว้ ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของกองทัพบก ความหมายของทหารตามพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ประทานไว้ 3 ประการ 1.ทหารเป็นผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติให้เป็นสุภาพบุรุษถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2.ทหารเป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชน 3.ทหารคือผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกกว่าเงิน และเพื่อเป็นการให้คำมั่นสัญญาต่อผู้บังคับบัญชาว่าจะเป็นทหารที่ดีมีระเบียบวินัย รวมทั้งจะเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของสถาบันทหารให้คงสืบต่อไป
พล.ต.อุกฤษฎ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จพิธีว่า สำหรับพิธีดังกล่าว เป็นการแสดงออกของหน่วยทหาร เพื่อแสดงพลังในการกอบกูศักดิ์ศรี เกียรติยศของ กองทัพบก เพราะสถานการณ์ปัจจุบันมีนายทหารบางนายได้แสดงพฤติกรรม ที่ส่งผลกระทบต่อสถาบันทหาร จึงต้องมีการแสดงการให้กำลังใจผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นของกองทัพบก และให้ความมั่นใจว่าหน่วยกำลังของ มทบ.11 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพฯจะดำรงการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มขีดความสามารถ เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งครัด
"เราต้องช่วยกันดำรงและรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของกองทัพบก โดย มทบ.11 เป็นหน่วยทหารดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญของกองทัพบกในกรุงเทพฯ ส่วนกำลังพล สห.ทบ.ดูแลในเรื่องระเบียบวินัยกำลังพล และร่วมในการรักษากฎหมาย รักษาความปลอดภัยบุคคล และสถานที่สำคัญ ดังนั้น ทหารต้องมีระเบียบวินัย และเชื่อฟังคำสั่งในผู้บังคับบัญชาอย่างสูง"
**แม่ทัพภาค 4 นำกำลังพลแสดงพลัง
ด้านกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภ. 4 สน.) พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 และผอ.กอ.รมน.ภ.4 สน. นำลังพลมารวมกันที่ศาลาพิณประเสริฐ เพื่อรวมพลังปกป้องสถาบันทหาร พร้อมทั้งร่วมให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และผู้บัญชาการทหารในทุกระดับ ในการต่อสู่ยืนหยัด ในการป้องกันเกียรติภูมิของทหาร และปฎิบัติงานตามแนวทางของคำขวัญกองทัพบก คือ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน โดยมีนายทหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่ทหาร 4 เหล่าทัพ เข้าร่วมพิธีรวม 350 นาย
พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร กล่าวว่า วันนี้ทุกคนมาร่วมแสดงจุดยืน ที่จะยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่สำคัญคือ ทหารทุกนาย จะเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา เนื่องจากที่ผ่านมามีทหารบางคน แสดงความก้าวร้าวกับผู้บังคับบัญชา และ ไม่ปฏิบัติตนในกรอบของสังคมทหาร จึงได้มีการรวมตัวกันของเหล่าทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้กำลังใจแก่ พล.อ.อนุพง์ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทหาร ผู้ใต้บังคับบัญชาในพื้นที่ ต่างก็ได้รับการดูแล เอาใจใส่ จาก ผบ.ทบ.เป็นอย่างดี รวมทั้งการแสดงพลังครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการยืนยันว่า ทหารทุกนาย ในพื้นที่ ต่างมีความจงรักภักดี และยึดมั่นในระเบียบของทหาร และ ที่สำคัญที่สุดคือ การยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์
**ผบ.พล9-ผบ.มทบ.33 แอ๊คชั่น
วันเดียวกัน ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ หน้ามณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ชานุกร ตัณฑโกศล ผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) นำกำลังพลทหารทุกหน่วย และทหารกองหนุน รวมทั้งนักศึกษาวิชาทหาร ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณตนในการปกป้องรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมทั้งจะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บัญชาอย่างเคร่งครัด และไม่แพร่งพรายความลับของทางราชการทหารเป็นอันขาด
พล.ต.ชานุกร กล่าวกับกำลังพลที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันได้เกิดความแตกแยกทางความคิด ส่งผลต่อการดำเนินวิถีชีวิตของประชาชนและความสามัคคีของคนในชาติ ซึ่งเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้ทางกองทัพมีนโยบายอย่างชัดเจนให้ทหารทุกนายทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติ เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการดังกล่าวสถาบันทหาร และผู้บังคับบัญชา ยังได้รับการโจมตีจากผู้ไม่หวังดี ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจสถาบันทหารและผู้บังคับบัญชาในทางที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นกิจกรรมในครั้งนี้จึงมีขึ้น เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่ง ใจเดียวกัน ไม่แบ่งแยก และพร้อมใจกันให้คำมั่นสัญญากับผู้บังคับบัญชาว่า จะเชื่อถือและปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนที่ทหารกองกำลังสุรสีห์ กองพลทหารราบที่ 9 จังหวัดกาญจนบุรีผู้บังคับบัญชาพร้อมนายทหารกว่า 2,000 นาย ได้ร่วมพิธีปฏิญาณตน เป็นข้าราชการและผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี ต่อต้านการดูหมิ่นผู้บังคับบัญชาของ พล.ต.ขัตติยะ
**ชี้"เสธ.แดง"ป่วนเป็นตัวอย่างไม่ดี
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่าการรวมตัวของผู้บังคับหน่วยคุมกำลังที่ ร.11 รอ. คงเป็นเรื่องของแบบธรรมเนียมทหาร เขาคงจะให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแบบธรรมเนียมทหาร การรักษาแบบธรรมเนียมทหารไว้ให้ได้ รวมทั้งกฎระเบียบของกองทัพ ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาปกครองกัน เพื่อจะให้ไปดูแลประเทศชาติ และดูแลคนส่วนใหญ่อธิปไตยของชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการแสดงพลังลักษณะแบบนี้ไม่เกิดขึ้นในกองทัพ การกระทำแบบนี้อาจเป็นตัวอย่างไม่ดี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การเคลื่อนไหวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหาก พล.ต.ขัตติยะ มาขอโทษยินดีจะให้อภัยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของ ผบ.ทบ.ที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ทุกอย่างทำตามกฎหมายและระเบียบธรรมเนียมของทหาร ไม่ได้ทำอะไรที่แตกต่างหรือพิเศษ เมื่อเกิดขึ้นก็ต้องทำตามกฎหมาย ไม่อย่างนั้นกองทัพอยู่ไม่ได้
**"อนุพงษ์"เตือนอย่าตอบโต้นอกกรอบ
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ถึงกรณีที่ผู้บังคับหน่วยออกมารวมตัวกันเพื่อตอบโต้ พล.ต.ขัตติยะ ที่จาบจ้างผู้บังคับบัญชาชั้นสูงว่า ตนได้หารือเจ้ากรมกำลังพลทหารบกแล้ว โดยมีแนวทางว่า การจะทำอะไรต้องอยู่ในกรอบวินัยด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าใครจะมาเคลื่อนไหวเรื่องอะไรบ้างแต่ได้บอกเจ้ากรมกำลังพลไปว่า ตนเองต้องอยู่ในกรอบวินัย อย่าไปกระทำผิดเสียเอง เช่นถ้าจะเรียกร้องคงไม่เป็นไร แต่ไม่ใช่จะไปกล่าวให้ร้ายตอบโต้อะไรที่นอกกรอบวินัย ซึ่งตนไม่เห็นด้วย แต่ขอยืนยันว่า กองทัพบกเป็นปึกแผ่นสมัครสมานสามัคคี ทำได้ทุกอย่างตามบทบาทหน้าที่ ของตนเองอย่างมั่นคง และเชื่อว่าคงไม่มีอะไรบานปลาย
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการสอบสวนวินัย พล.ต.ขัตติยะว่า เท่าที่ทราบ พล.ต.ขัตติยะ ยังไม่ได้ไปให้ปากคำกับคณะกรรมการ ซึ่งน่าจะเป็นวันนี้ และไม่ทราบว่าเขาจะไปหรือไม่ ตนไม่กล้าสรุปผลการสอบวินัย แต่ต้องให้กรรมการสอบสวนดูก่อนถ้าเขาไม่มาแล้วจะสรุปอย่างไรตนก็ยังไม่เห็นข้อสรุป
**"เสธ.แดง"ซัดพวกประจบสอพลอ
ด้าน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล กล่าวว่าผู้การฯ กรมที่ออกมาพูด เป็นลูกศิษย์ตนทั้งหมด ตนเป็นอาจารย์สอนนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 18-30 และตอนนี้ คนเป็นผู้การกรมฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นนักรบมาก่อน แต่ประจบสอพลอเก่ง พอมีเรื่อง พวกนี้ก็ออกมาแอ็คชั่น เพื่อแสดงออกมาว่าตัวเองซื่อสัตย์ ปกป้องผบ.ทบ. การออกมาอย่างนี้ทำให้เห็นว่ากองทัพแตกแยกไปกันใหญ่ ทั้งที่ตนไม่ได้ทำให้กองทัพแตกแยก และทำไมที่ผ่านมาไม่ออกมาตอบโต้กรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ เอาโกเต็ก ไปทา พระบรมรูป ร.5 ทั้งที่เป็นเสด็จพ่อ แต่ไม่รู้สึกอะไร และตอนที่กลุ่มพันธมิตร ฯ บุกยึดทำเนียบฯ ด่า ผบ.ทบ.เรื่องโกงค่าคอมมิชชั่น รถเกราะล้อยาง ก็ไม่เห็นมีใครปกป้อง ผบ.ทบ. มีแต่ตนเท่านั้นที่ออกมาปกป้อง
"เชื่อหรือยังว่ากองทัพมีแต่นักกอล์ฟ และ พวกแต๋วแตก เสธ.แดง คนเดียวกลับทำให้คนในกองทัพออกมาได้ขนาดนี้ และ กองทัพจะรบกับใครได้ กองทัพไทยเสียพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร แต่ไม่เดือดร้อน ไม่เห็นมีใครออกมาพูด เสียทั้งเกียรติยศ ศักดิ์ศรี พวกมึงไม่เห็นจะเดือดร้อนที่ออกมาปกป้องเลย และอยากบอกว่า ผบ.ร.2 รอ.ขึ้นมาจากประจำ ยังขึ้นมาอยู่เป็นผบ.หน่วยได้ ทำเป็นแอ้คชั่น ทำให้กองทัพแตกแยก ส่วน ผบ.ร.11 รอ. ลูกบิ๊กจ๊อด (พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีต ผบ.สูงสุด) ก็ออกมาแอ็คชั่นเลียนแบบพ่อ ที่สมัยนั้นก็ได้เป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมา เป็นการพลิกวิกฤต ให้เป็นโอกาส อยากเป็น ผบ.พล.1รอ. หละซิ ระวังไว้ อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง อย่าง ผบ.พล.1 รอ.ที่ออกมาตรการติดรูปรถยนต์ไม่ให้ เสธ.แดง เข้า ผมก็รู้ทันว่า อยากจะเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 หละซิ อยู่ในระบบอำมาตย์อย่าทำเป็นเก่ง ระวังจะมีคนมาจี้กบาล พวกมึงไม่ได้ทำเพื่อชาติ แต่ทำเพื่อตัวเอง ทำให้กองทัพแตกแยก"
**ประกาศพท.ใหญ่จะเป็นแม่ทัพภาค1
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า "ไอ้แดง มึงฉีกกฎพ่อมึง เพราะพ่อมึงประกาศว่า ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน แต่ตอนนี้มึงกลับด่าอาจารย์ตัวเองได้ ใครเป็นคนสอนให้ทำแบบนี้ ตอนนี้มาวิงวอนให้กูลาออกยังไม่รู้สึกตัวอีก ไม่รู้หรือว่าตอนนี้รัฐบาลกำลังจะล่มแล้ว และพรรคเพื่อไทยจะขึ้นมาเป็นใหญ่ และพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี จะขึ้นมาเป็น รมว.กลาโหม และ เสธ.แดงจะขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่ 1 กูจะย้ายให้หมด เอาไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การชุมนุมครั้งต่อไป กองทัพแดงจะออกมารบ พวกผู้การฯแต๋วแตกให้ระวังให้ดี เพราะเวลารบครั้งต่อไป ผบ.ทบ. ต้องระวังให้ดี เพราะพวกที่ออกมารบคือทหารระดับล่าง ซึ่งเป็นสีแดงหมดแล้ว จะเกียร์ว่าง ไม่ออกมารบ ตอนนี้พ่อแม่เขาไม่อยากให้ลูกกลับเข้าไปในค่ายทหาร และกองทัพจะเหลือแค่ 17 คน"
**"ประวิตร"สั่งกวดขันกำลังพล
พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมมีความเป็นห่วงในเรื่อง การการกวดขันความประพฤติของกำลังพล สืบเนื่องจากวันที่ 16 ธ.ค. 2552 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต และจำคุกตลอดชีวิต ข้าราชการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นนายทหารสัญญาบัตร 2 นาย ในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พบของกลางจำนวนมาก ยาบ้าชนิดผง น้ำหนัก 23.7 กิโลกรัม ราคาประมาณ 40 ล้านบาท พร้อมอุปกรณ์การผลิตหลายรายการ จากคำพิพากษาดังกล่าว ทำให้ รมว.กลาโหม ไม่อยากให้กำลังพลต้องได้รับโทษในคดีเช่นนี้ จึงขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับได้กวดขัน และดูแลความประพฤติของกำลังพลในสังกัด รวมทั้งครอบครัวอย่างใกล้ชิด อย่าให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด การค้าอาวุธสงคราม วัตถุระเบิด หรือเข้าไปพัวพันกับผู้มีอิทธิพล ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อกระทรวงกลาโหม
**ส.ส.พท.ยังเชื่อมีแผนปฏิวัติ
ด้าน นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ทหารจาก กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ค่ายจักรพงษ์ แสดงพลังให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ เป็นการสร้างภาพโชว์พลังทหารออกมาให้กำลังใจ ผบ.ทบ. เจตนาข่มขู่และปรามทุกฝ่าย ทั้งในพรรคประชาธิปัตย์ พรรคร่วมรัฐบาล รวมกลุ่มเสื้อแดง แต่ส่วนตัวคิดว่า ลึกๆ แล้วอาจมีการซ้อนแผนในการวางแผนกระทำการปฎิวัติในอนาคตซึ่งวันนี้กำลังทหารส่วนหนึ่งได้เคลื่อนมาปักหลักไว้ที่ จ.ปราจีนบุรีเพื่อเตรียมพร้อม เพราะรู้ว่ากำลังทหารหน่วยสงครามพิเศษและพลร่มป่าหวายจากลพบุรีต่างไม่เห็นด้วยในการกระทำการปฎวัติหรือยึดอำนาจ เนื่องจากการกระทำการรัฐประหารของพล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน และพล.อ.สุรยุทธ์ จุลนานนท์ ที่เข้ามากระทำยึดอำนาจจนบัดนี้ประเทศไม่มีอะไรดีขึ้น.
วานนี้ (28 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจาก พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ "เสธ.แดง" ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งประกาศตัวเป็นอยู่กับฝ่ายกลุ่มคนเสื้อแดง แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ข่มขู่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาอย่างไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทำให้เกิดปฎิกริยาอย่างรุนแรงลามไปยังทหารทั่วประเทศ จนมีการเคลื่อนไหวแสดงพลังเพื่อต่อต้านการกระทำของ พล.ต.ขัตติยะ ของหน่วยทหารต่างๆ ที่คุมกำลังรบ เริ่มจาก เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมาทหารจากกองบังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (28 ม.ค.) ที่ ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ร.11 รอ. พร้อมด้วย นายทหารระดับผู้บังคับหน่วยของกองทัพบก ประกอบด้วย พ.อ.นัฐวัฒน์ อัครนิบุตร ผบ.ร.1 รอ. พ.อ.กฤษณ์ดนัย อิทธิมณฑล ผบ.ป.1 รอ. พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผบ.ร.2 รอ. พ.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท ผบ.ร.31 รอ. พ.อ.บรรยง ทองน่วม ผบ.กรมทหารพรรานที่ 13 และ พ.ท.ชินสรณ์ เรืองสุข ผบ.ม.พัน.4 รอ. ร่วมกันแถลงข่าวตอบโต้ พฤติกรรมของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เพื่อปกป้อง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.และปกป้องศักดิ์ศรีของกองทัพบก โดยได้เชิญผู้บังคับกองพันและทหารในสังกัดบางส่วนมานั่งรับฟังการแถลงข่าว รวม 17 กองพัน
พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่าช่วงเช้ามีการสัมมนาเรื่อง แนวทางกวดขันวินัยกำลังพล โดยมีทหารระดับผู้บังคับกองพันและผู้บังคับกองร้อยในกรุงเทพฯและปริมณฑลกว่า 17 กองพันเข้าร่วมสัมมนา ถือเป็นระดับคุมกำลังทั้งหมด ซึ่งมีการถกแถลงกันในทุกประเด็นเกี่ยวกับวินัยกำลังพล
"ในอดีตกองทัพบกปกป้องศักดิ์ศรีจากบุคคลภายนอก แต่ในขณะนี้ เราต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของกองทัพ โดยการย่ำยีของคนในกองทัพบกเอง เป็นเรื่องที่น่าละอายใจเป็นอย่างยิ่ง ผมเชื่อว่าการกระทำใดๆ ของนายพลผู้นี้มีนัยทางการเมืองแอบแฝง มีความพยายามสร้างสถานการณ์ ทั้งที่ประเทศชาติต้องการสร้างความสมัครสมานสามัคคี กลับมาสร้างความแตกแยก ซึ่งการแสดงความไม่พอใจสามารถทำได้ โดยมีนายทหารหลายท่านที่ไม่พอใจกองทัพ ก็สามารถพลิดผันตัวเองไปสู่เวทีการเมือง ใช้เวทีการเมืองต่อสู้ และตอบโต้กองทัพ แต่ไม่ใช่แสดงการย่ำยี โดยใส่เครื่องแบบของกองทัพบกและมาย่ำยีกันเองเช่นนี้"
**เตือน "เสธ.แดง" มีคนจองกฐินเพียบ
พ.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า ทหารได้ปฏิญาณต่อหน้าธงชัยเฉลิมพลว่าจะประพฤติและปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด ซึ่งคิดว่านายพลผู้นั้นก็เคยปฏิญาณตน ไม่รู้กี่ครั้งแต่ทำไมไม่ปฏิบัติตาม ซึ่งการแสดงออกของพวกเราวันนี้ ต้องการให้ทุกคน เห็นถึงความสมัครสมานสามัคคีของกองทัพบก และเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนว่ากองทัพไม่มีความแตกแยกอย่างที่หลายท่านเข้าใจ การมารวมตัวกันของ ผบ.หน่วยคุมกำลังหลักของกองทัพบกวันนี้ทั้งจากกรุงเทพฯ ปราจีนบุรี ลพบุรี มีความรักใคร่ สามัคคี กลมเกลียวกัน เป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน ขอยืนยันเราเป็นปึกแผ่นภายใต้การบังคับบัญชาของ ผบ.ทบ.
"สุดท้ายอยากขอความกรุณาให้พี่แดง หรือ พล.ต.ขัตติยะ ให้ยุติบทบาท ที่แสดงออกมาทั้งหมด ผมได้หารือและคุยกันว่า ผมเชื่อว่าพี่แดงไม่ได้มีเจตนาพูด หรือโจมตีกองทัพในลักษณะนั้น อาจจะทำด้วยอารมณ์โกรธและอารมณ์โมโห เพราะถูกพักราชการ ผมเชื่อว่าหากพี่แดงยุติบทบาท หรือหยุดกระทำก้าวร้าวเช่นนั้น ก็ยังสามารถเป็นรุ่นพี่ที่ดีเป็นฮีโร่ หรือเป็นนักรบอย่างที่ท่านชอบพูดไว้กับกลุ่มคนบางคนได้ต่อไป ส่วนการนำเสนอข่าวนั้น อยากเรียนว่าควรจะนำเสนอในประเด็นที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองมากกว่าเรื่องของ พล.ต.ขัตติยะ ขณะนี้คนจ้องกฐิน พล.ต.ขัตติยะ มาก หากยังดื้อดึงทำเช่นนี้อยู่ คนที่ไม่พอใจ คงไม่ใช่แค่พวกเราที่จบจาก รร.จปร. คงมีกำลังพลหลายคน หากเกิดอะไรขึ้นตรงไหน แล้วโทษเป็นฝีมือคนในกองทัพคงไม่ใช่"
**ลั่นใครกระทบเบื้องสูงตอบโต้ทันที
พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า พวกเรายังได้ปฏิญาณตนแน่วแน่แล้วว่า ต่อไปนี้ หากมีสิ่งใด หรือการกระทำจากบุคคลใดก็ตามที่จะกระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะออกมาตอบโต้ทันที เป็นสิ่งเดียวที่เราไม่ยอมโดยเด็ดขาด ในฐานะของทหารรักษาพระองค์ ในฐานะทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวกเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นนายทหาร นายสิบ และพลทหารว่า อย่ามีสิ่งใดระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เราจะไม่ยอมเด็ดขาด
พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวว่า พวกตนคือตัวแทนกองทัพในกรุงเทพฯและปริมณฑล ทุกคนต่างผ่านการศึกษาในสถาบันของชาติในระดับต่างๆ โดยเฉพาะจบจาก โรงเรียนพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รร.จปร.) ทุกคนล้วนปลูกฝังให้มีระเบียบวินัยให้เคารพเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา โรงเรียนทหารสอนให้เรามีระบบเกียรติศักดิ์ ระบบอาวุโส เคารพรุ่นพี่รุ่นน้องมาแต่อดีตถึงปัจจุบัน เชื่อฟังเคารพผู้บังคับบัญชา กำลังพลทุกระดับล้วนเสียสละทำคุณประโยชน์ให้ชาติต่อเนื่อง ไม่เคยมีผู้ใดลบหลู่ หรือหยามเกียรติผู้บังคับบัญชาในหน่วยของตนมาก่อน เชื่อว่าในหลายหน่วยงาน หรือองค์กร คงไม่มีใครในองค์กรตัวเองกล่าวให้ร้ายลบหลู่เหยียดหยามผู้บังคับบัญชาตัวเอง
"ราขอเป็นตัวแทนออกมาแสดงความไม่พอใจ และรู้สึกละอายใจในการกระทำของนายพลบางท่าน เชื่อว่าคนไทยที่รับฟังคงเอื้อมระอากับการกระทำที่พบเห็น พวกเราสรุปผลการสัมมนาว่า บุคคลท่านนั้นขาดจิตสำนึกผิดขนบธรรมเนียม ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง และถือเป็นตัวอย่างไม่ดีของผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนในกองทัพ สิ่งที่ พล.ต.ขัตติยะ ทำท่านรู้อยู่แก่ใจ ที่เรามาคุยวันนี้ เพราะความไม่สบายใจและไม่พอใจ ท่านเป็นถึงนายพลแต่ขาดจิตสำนึกและวินัยหย่อนยาน แต่เชื่อว่าจิตสำนึก ของทหารระดับนายพล เมื่อมีน้องๆ มาพูดขนาดนี้ท่านน่าจะคิดได้"
ด้าน พ.อ.กฤษณ์ดนัย กล่าวว่า เรามาอยู่ที่นี้ผ่านสถาบันการศึกษาทุกระดับ ผ่านการบังคับบัญชาหน่วยตั้งแต่ระดับผู้บังคับหมู่ ผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับกองพัน ถึงผู้บังคับการกรม ทุกคนล้วนได้รับการสั่งสอนจากครูบาอาจารย์ ตนเห็นว่าการที่มีคนพูดว่าเคยเป็นอาจารย์ เคยเป็นนักรบ และผู้บังคับหน่วย แต่พฤติกรรมปัจจุบันไม่ใช่มีการให้ร้ายผู้บังคับบัญชา ถือว่า เป็นสิ่งที่ใช้ไม่ได้ ในฐานะที่เป็นทหารอาชีพอย่างพวกเรา ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นผู้บังคับบัญชา เราต้องให้เกียรติในทุกสถานะ แม้ผู้บังคับบัญชาจะเป็นรุ่นน้องก็ตาม และผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุดของกองทัพบก แต่กลับถูกโจมตีเป็นสิ่งที่พวกเราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นเป็นอันขาด
**ประกาศเลิกเคารพ "เสธ.แดง"
พ.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า การดำรงไว้ของทหารที่มีระเบียบวินัยเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการปฏิบัติตามสายการบังคับบัญชาที่ต้องเชื่อฟังอย่างเคร่งครัด ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการปกครองทหาร หากมีตัวอย่างไม่ดีหรือไม่ถูกต้อง นับว่าเป็นการบ่อนทำลายกองทัพมากกว่าถูกบ่อนทำลายจากฝ่ายตรงข้าม
"ไม่ว่าท่านจะทำด้วยจุดประสงค์ใด รร.จปร. ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และมีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จปู่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อยู่ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เกี่ยวข้องจะจบมาจากสถาบันนั้น และคนที่ทำต้องกลับไปทบทวนใคร่ครวญว่าสมควรหรือไม่ ทั้งนี้ เราคงไม่ต้องสนใจ พล.ต.ขัตติยะ บุคคลเพียงคนเดียวจะมาทำให้กองทัพและบ้านเมืองวุ่นว่าย คิดว่าอย่าไปสนใจและบอยคอตในทุกเรื่อง อย่าไปคิดว่าชั้นยศติดบนบ่าแสดงถึงอำนาจ หากเขายังทำตัวไม่สมกับชั้นยศที่ได้รับอยู่ ก็ไม่ต้องไปแสดงความเคารพ ไม่ต้องสนใจปล่อยให้พูดไป เหมือนเป็นคนๆ หนึ่ง เชื่อว่าวันหนึ่งประชาชนจะเอื้อมระอา เบื่อหน่ายไปเอง"
พ.อ.กู้เกียรติ กล่าวว่า กองทัพบกให้อะไรเรามากมายทั้งเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ฐานะความเป็นอยู่ การที่เราไม่รู้จักบุญคุณกองทัพบก คิดว่าคงยอมไม่ได้ และอยากยกสุภาษิตของไทยว่า อย่ากินบนเรือนแล้วขี้รดบนหลังคา อยากฝากไปถึงบุคคล ที่กระทำต่อความไม่สงบ เราทุกคนคงยอมไม่ได้
พ.อ.บรรยงค์ กล่าวว่า ได้หารือกับพี่น้องทหารพรานถึงทหารที่ขาดวินัย พวกเรารู้สึกไม่สบายใจกับการกระทำดังกล่าว และขอยืนยันกับผู้บังคับบัญชาว่า พวกเราทหารพราน นักรบประชาชน เป็นผู้ที่มีวินัย และพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกมาแอ็คชั่นครั้งนี้มีไฟเขียวจากผู้บังคับบัญชา ให้มาเช็คกระแสกำลังพลหรือไม่ พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่ใช่ประเด็นนั้น ซึ่งการสัมมนานี้เพราะกรมกำลังพลทหารบกเป็นห่วง เนื่องจากการประชุมระดับของกองทัพบกค่อนข้างห่วงข่าวสารที่เกิดขึ้น จึงกำชับทุกหน่วยประชุมหารือและจัดสัมมนากัน เพื่อได้จบเสียทีให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และหากเป็นทหารอาชีพ ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง ทั้งนี้ ไม่ใช่ไฟเขียวจากใคร แต่เป็นการกวดขันวินัยกำลังพล
ต่อข้อถามว่าเป็นการแสดง 2 มาตรฐานหรือไม่ เพราะกรณีพล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสด ขึ้นเวทีพันธมิตรฯโจมตีกองทัพ แต่ไม่มีทหารออกมาปกป้อง พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ที่นั่งอยู่นี้เราสังกัดกองทัพบก แต่ พล.อ.ปฐมพงษ์ ท่านเป็นทหารในสังกัดของกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งต้นสังกัดก็มีวิธีการโต้ตอบเขา ซึ่งเราแยกออกจากกัน แต่หากคนในกองทัพบกทำแบบนั้นก็ต้องออกมาตอบโต้
**ปัดเช็คกำลังหน่วยคุมกำลังเพื่อปฏิวัติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกมาเคลื่อนไหวของผู้บังคับบัญชาหน่วยรบเพื่อต้องการ ปรามผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับกองทัพใช่หรือไม่ พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่าการออกมารวมตัววันนี้ไม่มีนัยยะการเมือง เรามีความรักและเป็นทหารที่มีวินัย เราต้องการจุดยืนชัดเจนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองทหารเป็นของประชาชน ตนยืนยันว่ากองทัพเป็นของประชาชนและทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้น ใครดึงกองทัพเขจ้าไปเกี่ยวพันทางการเมือง เราก็ไม่พอใจเช่นกัน
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่าการออกมาครั้งนี้ก็ไม่ใช่เช็คกำลังทหารที่จะทำรัฐประหาร แต่เป็นการออกมากวดขัดวินัยกำลังพล ไม่เกี่ยวข้องการกับการออกมาเช็คกำลังหรืออะไร และที่ผ่านมาแต่ละหน่วยมีการพูดคุยกันถึงการกวดขัน แต่ละหน่วยอยู่แล้ว เมื่อเห็นตรงกันก็มาจัดสัมมนา เพื่อให้กำลังพลมีความเข้าใจและเห็นตรงกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ พล.ต.ขัตติยะ เพราะจะทำให้เสียการปกครองบังคับบัญชา และไม่สบายใจที่มีทหารชั้นนายพลของกองทัพออกมาแสดงออกเช่นนี้ เพราะทำให้กองทัพบกเสียเกียรติยศ อีกทั้งยังเห็นว่า ถ้าทหารขาดวินัยก็เปรียบเหมือนกองโจรที่ถืออาวุธ
**มทบ.11นำทหารให้กำลังใจ ป๊อก.
ขณะเดียวกัน 15.30 น. ที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) พล.ต. อุกฤษฎ์ ณรงค์วิทย์ ผบ.มทบ.11 ได้นำกำลังพลหน่วยขึ้นตรง มทบ.11 ประกอบด้วยจังหวัดทหารบกกรุงเทพ (จทบ.กท.) กองพันสารวัตรทหารที่ 11 (พัน.สห.ทบ.)กองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11)มาทำพิธีแสดงพลังเพื่อปกป้อง สถาบันทหาร โดยมีกำลังพลระดับนายทหารสัญญาบัตร และนายทหารประทวน เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก
พล.ต.อุกฤษฎ์ กล่าวต่อหน้ากำลังพลเข้าร่วมพิธีปฏิญาณว่า ทุกคนทราบดีแล้วว่าในปัจจุบันประเทศชาติได้เกิดมีความขัดแย้ง ทางด้านความคิดขึ้นของกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม และได้มีความพยายามที่จะดึงสถาบันทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งดังกล่าว โดยใช้กำลังพลบางนายในกองทัพเป็นเครื่องมือ เพื่อมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์แก่กลุ่มบุคคลเหล่านั้น โดยการแสดงพฤติกรรมที่จาบจ้วง และดูหมิ่นเหยียดหยามเกียรติยศศักดิ์ศรีของสถาบันทหารอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความแตกแยก และการแสดงออกของเราวันนี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า พวกท่านเป็นทหารที่ดีมีระเบียบวินัย มีความเชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชา และปฏิบัติตามคำสั่งโดยเคร่งครัด ที่สำคัญจะช่วยกันรักษาไว้ ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของกองทัพบก ความหมายของทหารตามพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ประทานไว้ 3 ประการ 1.ทหารเป็นผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติให้เป็นสุภาพบุรุษถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2.ทหารเป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชน 3.ทหารคือผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกกว่าเงิน และเพื่อเป็นการให้คำมั่นสัญญาต่อผู้บังคับบัญชาว่าจะเป็นทหารที่ดีมีระเบียบวินัย รวมทั้งจะเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของสถาบันทหารให้คงสืบต่อไป
พล.ต.อุกฤษฎ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จพิธีว่า สำหรับพิธีดังกล่าว เป็นการแสดงออกของหน่วยทหาร เพื่อแสดงพลังในการกอบกูศักดิ์ศรี เกียรติยศของ กองทัพบก เพราะสถานการณ์ปัจจุบันมีนายทหารบางนายได้แสดงพฤติกรรม ที่ส่งผลกระทบต่อสถาบันทหาร จึงต้องมีการแสดงการให้กำลังใจผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นของกองทัพบก และให้ความมั่นใจว่าหน่วยกำลังของ มทบ.11 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพฯจะดำรงการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มขีดความสามารถ เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งครัด
"เราต้องช่วยกันดำรงและรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของกองทัพบก โดย มทบ.11 เป็นหน่วยทหารดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญของกองทัพบกในกรุงเทพฯ ส่วนกำลังพล สห.ทบ.ดูแลในเรื่องระเบียบวินัยกำลังพล และร่วมในการรักษากฎหมาย รักษาความปลอดภัยบุคคล และสถานที่สำคัญ ดังนั้น ทหารต้องมีระเบียบวินัย และเชื่อฟังคำสั่งในผู้บังคับบัญชาอย่างสูง"
**แม่ทัพภาค 4 นำกำลังพลแสดงพลัง
ด้านกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภ. 4 สน.) พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 และผอ.กอ.รมน.ภ.4 สน. นำลังพลมารวมกันที่ศาลาพิณประเสริฐ เพื่อรวมพลังปกป้องสถาบันทหาร พร้อมทั้งร่วมให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และผู้บัญชาการทหารในทุกระดับ ในการต่อสู่ยืนหยัด ในการป้องกันเกียรติภูมิของทหาร และปฎิบัติงานตามแนวทางของคำขวัญกองทัพบก คือ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน โดยมีนายทหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่ทหาร 4 เหล่าทัพ เข้าร่วมพิธีรวม 350 นาย
พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร กล่าวว่า วันนี้ทุกคนมาร่วมแสดงจุดยืน ที่จะยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่สำคัญคือ ทหารทุกนาย จะเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา เนื่องจากที่ผ่านมามีทหารบางคน แสดงความก้าวร้าวกับผู้บังคับบัญชา และ ไม่ปฏิบัติตนในกรอบของสังคมทหาร จึงได้มีการรวมตัวกันของเหล่าทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้กำลังใจแก่ พล.อ.อนุพง์ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทหาร ผู้ใต้บังคับบัญชาในพื้นที่ ต่างก็ได้รับการดูแล เอาใจใส่ จาก ผบ.ทบ.เป็นอย่างดี รวมทั้งการแสดงพลังครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการยืนยันว่า ทหารทุกนาย ในพื้นที่ ต่างมีความจงรักภักดี และยึดมั่นในระเบียบของทหาร และ ที่สำคัญที่สุดคือ การยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์
**ผบ.พล9-ผบ.มทบ.33 แอ๊คชั่น
วันเดียวกัน ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ หน้ามณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ชานุกร ตัณฑโกศล ผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) นำกำลังพลทหารทุกหน่วย และทหารกองหนุน รวมทั้งนักศึกษาวิชาทหาร ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณตนในการปกป้องรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมทั้งจะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บัญชาอย่างเคร่งครัด และไม่แพร่งพรายความลับของทางราชการทหารเป็นอันขาด
พล.ต.ชานุกร กล่าวกับกำลังพลที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันได้เกิดความแตกแยกทางความคิด ส่งผลต่อการดำเนินวิถีชีวิตของประชาชนและความสามัคคีของคนในชาติ ซึ่งเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้ทางกองทัพมีนโยบายอย่างชัดเจนให้ทหารทุกนายทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติ เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการดังกล่าวสถาบันทหาร และผู้บังคับบัญชา ยังได้รับการโจมตีจากผู้ไม่หวังดี ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจสถาบันทหารและผู้บังคับบัญชาในทางที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นกิจกรรมในครั้งนี้จึงมีขึ้น เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่ง ใจเดียวกัน ไม่แบ่งแยก และพร้อมใจกันให้คำมั่นสัญญากับผู้บังคับบัญชาว่า จะเชื่อถือและปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนที่ทหารกองกำลังสุรสีห์ กองพลทหารราบที่ 9 จังหวัดกาญจนบุรีผู้บังคับบัญชาพร้อมนายทหารกว่า 2,000 นาย ได้ร่วมพิธีปฏิญาณตน เป็นข้าราชการและผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี ต่อต้านการดูหมิ่นผู้บังคับบัญชาของ พล.ต.ขัตติยะ
**ชี้"เสธ.แดง"ป่วนเป็นตัวอย่างไม่ดี
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่าการรวมตัวของผู้บังคับหน่วยคุมกำลังที่ ร.11 รอ. คงเป็นเรื่องของแบบธรรมเนียมทหาร เขาคงจะให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแบบธรรมเนียมทหาร การรักษาแบบธรรมเนียมทหารไว้ให้ได้ รวมทั้งกฎระเบียบของกองทัพ ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาปกครองกัน เพื่อจะให้ไปดูแลประเทศชาติ และดูแลคนส่วนใหญ่อธิปไตยของชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการแสดงพลังลักษณะแบบนี้ไม่เกิดขึ้นในกองทัพ การกระทำแบบนี้อาจเป็นตัวอย่างไม่ดี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การเคลื่อนไหวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหาก พล.ต.ขัตติยะ มาขอโทษยินดีจะให้อภัยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของ ผบ.ทบ.ที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ทุกอย่างทำตามกฎหมายและระเบียบธรรมเนียมของทหาร ไม่ได้ทำอะไรที่แตกต่างหรือพิเศษ เมื่อเกิดขึ้นก็ต้องทำตามกฎหมาย ไม่อย่างนั้นกองทัพอยู่ไม่ได้
**"อนุพงษ์"เตือนอย่าตอบโต้นอกกรอบ
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ถึงกรณีที่ผู้บังคับหน่วยออกมารวมตัวกันเพื่อตอบโต้ พล.ต.ขัตติยะ ที่จาบจ้างผู้บังคับบัญชาชั้นสูงว่า ตนได้หารือเจ้ากรมกำลังพลทหารบกแล้ว โดยมีแนวทางว่า การจะทำอะไรต้องอยู่ในกรอบวินัยด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าใครจะมาเคลื่อนไหวเรื่องอะไรบ้างแต่ได้บอกเจ้ากรมกำลังพลไปว่า ตนเองต้องอยู่ในกรอบวินัย อย่าไปกระทำผิดเสียเอง เช่นถ้าจะเรียกร้องคงไม่เป็นไร แต่ไม่ใช่จะไปกล่าวให้ร้ายตอบโต้อะไรที่นอกกรอบวินัย ซึ่งตนไม่เห็นด้วย แต่ขอยืนยันว่า กองทัพบกเป็นปึกแผ่นสมัครสมานสามัคคี ทำได้ทุกอย่างตามบทบาทหน้าที่ ของตนเองอย่างมั่นคง และเชื่อว่าคงไม่มีอะไรบานปลาย
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการสอบสวนวินัย พล.ต.ขัตติยะว่า เท่าที่ทราบ พล.ต.ขัตติยะ ยังไม่ได้ไปให้ปากคำกับคณะกรรมการ ซึ่งน่าจะเป็นวันนี้ และไม่ทราบว่าเขาจะไปหรือไม่ ตนไม่กล้าสรุปผลการสอบวินัย แต่ต้องให้กรรมการสอบสวนดูก่อนถ้าเขาไม่มาแล้วจะสรุปอย่างไรตนก็ยังไม่เห็นข้อสรุป
**"เสธ.แดง"ซัดพวกประจบสอพลอ
ด้าน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล กล่าวว่าผู้การฯ กรมที่ออกมาพูด เป็นลูกศิษย์ตนทั้งหมด ตนเป็นอาจารย์สอนนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 18-30 และตอนนี้ คนเป็นผู้การกรมฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นนักรบมาก่อน แต่ประจบสอพลอเก่ง พอมีเรื่อง พวกนี้ก็ออกมาแอ็คชั่น เพื่อแสดงออกมาว่าตัวเองซื่อสัตย์ ปกป้องผบ.ทบ. การออกมาอย่างนี้ทำให้เห็นว่ากองทัพแตกแยกไปกันใหญ่ ทั้งที่ตนไม่ได้ทำให้กองทัพแตกแยก และทำไมที่ผ่านมาไม่ออกมาตอบโต้กรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ เอาโกเต็ก ไปทา พระบรมรูป ร.5 ทั้งที่เป็นเสด็จพ่อ แต่ไม่รู้สึกอะไร และตอนที่กลุ่มพันธมิตร ฯ บุกยึดทำเนียบฯ ด่า ผบ.ทบ.เรื่องโกงค่าคอมมิชชั่น รถเกราะล้อยาง ก็ไม่เห็นมีใครปกป้อง ผบ.ทบ. มีแต่ตนเท่านั้นที่ออกมาปกป้อง
"เชื่อหรือยังว่ากองทัพมีแต่นักกอล์ฟ และ พวกแต๋วแตก เสธ.แดง คนเดียวกลับทำให้คนในกองทัพออกมาได้ขนาดนี้ และ กองทัพจะรบกับใครได้ กองทัพไทยเสียพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร แต่ไม่เดือดร้อน ไม่เห็นมีใครออกมาพูด เสียทั้งเกียรติยศ ศักดิ์ศรี พวกมึงไม่เห็นจะเดือดร้อนที่ออกมาปกป้องเลย และอยากบอกว่า ผบ.ร.2 รอ.ขึ้นมาจากประจำ ยังขึ้นมาอยู่เป็นผบ.หน่วยได้ ทำเป็นแอ้คชั่น ทำให้กองทัพแตกแยก ส่วน ผบ.ร.11 รอ. ลูกบิ๊กจ๊อด (พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีต ผบ.สูงสุด) ก็ออกมาแอ็คชั่นเลียนแบบพ่อ ที่สมัยนั้นก็ได้เป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมา เป็นการพลิกวิกฤต ให้เป็นโอกาส อยากเป็น ผบ.พล.1รอ. หละซิ ระวังไว้ อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง อย่าง ผบ.พล.1 รอ.ที่ออกมาตรการติดรูปรถยนต์ไม่ให้ เสธ.แดง เข้า ผมก็รู้ทันว่า อยากจะเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 หละซิ อยู่ในระบบอำมาตย์อย่าทำเป็นเก่ง ระวังจะมีคนมาจี้กบาล พวกมึงไม่ได้ทำเพื่อชาติ แต่ทำเพื่อตัวเอง ทำให้กองทัพแตกแยก"
**ประกาศพท.ใหญ่จะเป็นแม่ทัพภาค1
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า "ไอ้แดง มึงฉีกกฎพ่อมึง เพราะพ่อมึงประกาศว่า ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน แต่ตอนนี้มึงกลับด่าอาจารย์ตัวเองได้ ใครเป็นคนสอนให้ทำแบบนี้ ตอนนี้มาวิงวอนให้กูลาออกยังไม่รู้สึกตัวอีก ไม่รู้หรือว่าตอนนี้รัฐบาลกำลังจะล่มแล้ว และพรรคเพื่อไทยจะขึ้นมาเป็นใหญ่ และพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี จะขึ้นมาเป็น รมว.กลาโหม และ เสธ.แดงจะขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่ 1 กูจะย้ายให้หมด เอาไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การชุมนุมครั้งต่อไป กองทัพแดงจะออกมารบ พวกผู้การฯแต๋วแตกให้ระวังให้ดี เพราะเวลารบครั้งต่อไป ผบ.ทบ. ต้องระวังให้ดี เพราะพวกที่ออกมารบคือทหารระดับล่าง ซึ่งเป็นสีแดงหมดแล้ว จะเกียร์ว่าง ไม่ออกมารบ ตอนนี้พ่อแม่เขาไม่อยากให้ลูกกลับเข้าไปในค่ายทหาร และกองทัพจะเหลือแค่ 17 คน"
**"ประวิตร"สั่งกวดขันกำลังพล
พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมมีความเป็นห่วงในเรื่อง การการกวดขันความประพฤติของกำลังพล สืบเนื่องจากวันที่ 16 ธ.ค. 2552 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต และจำคุกตลอดชีวิต ข้าราชการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นนายทหารสัญญาบัตร 2 นาย ในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พบของกลางจำนวนมาก ยาบ้าชนิดผง น้ำหนัก 23.7 กิโลกรัม ราคาประมาณ 40 ล้านบาท พร้อมอุปกรณ์การผลิตหลายรายการ จากคำพิพากษาดังกล่าว ทำให้ รมว.กลาโหม ไม่อยากให้กำลังพลต้องได้รับโทษในคดีเช่นนี้ จึงขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับได้กวดขัน และดูแลความประพฤติของกำลังพลในสังกัด รวมทั้งครอบครัวอย่างใกล้ชิด อย่าให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด การค้าอาวุธสงคราม วัตถุระเบิด หรือเข้าไปพัวพันกับผู้มีอิทธิพล ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อกระทรวงกลาโหม
**ส.ส.พท.ยังเชื่อมีแผนปฏิวัติ
ด้าน นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ทหารจาก กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ค่ายจักรพงษ์ แสดงพลังให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ เป็นการสร้างภาพโชว์พลังทหารออกมาให้กำลังใจ ผบ.ทบ. เจตนาข่มขู่และปรามทุกฝ่าย ทั้งในพรรคประชาธิปัตย์ พรรคร่วมรัฐบาล รวมกลุ่มเสื้อแดง แต่ส่วนตัวคิดว่า ลึกๆ แล้วอาจมีการซ้อนแผนในการวางแผนกระทำการปฎิวัติในอนาคตซึ่งวันนี้กำลังทหารส่วนหนึ่งได้เคลื่อนมาปักหลักไว้ที่ จ.ปราจีนบุรีเพื่อเตรียมพร้อม เพราะรู้ว่ากำลังทหารหน่วยสงครามพิเศษและพลร่มป่าหวายจากลพบุรีต่างไม่เห็นด้วยในการกระทำการปฎวัติหรือยึดอำนาจ เนื่องจากการกระทำการรัฐประหารของพล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน และพล.อ.สุรยุทธ์ จุลนานนท์ ที่เข้ามากระทำยึดอำนาจจนบัดนี้ประเทศไม่มีอะไรดีขึ้น.