ASTVผู้จัดการรายรายวัน - ทีโอทีโดดลงสงครามราคาบรอดแบนด์ ด้วยการปลดล็อกลูกค้าใหม่ไม่ต้องทำสัญญาใช้บริการเหมือนเมื่อก่อน เริ่มต้นที่ความเร็ว 4 Mbps ราคา 590 บาท พร้อมเอาใจคนชอบอัพโหลดให้ความเร็ว 1 Mbps เริ่มต้นที่ดาวโหลด4 Mbps ราคา 690 บาท หวังปั้มลูกค้าใหม่ 7 หมื่นคน ปีนี้ตั้งเป้ากวาดลูกค้าใหม่ 3 แสนพอร์ท ทำเงิน7,500 ล้านบาท
นางสาวพุ่มแพทิพย์ เอี่ยมโสภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักการตลาด สายงานการตลาด และพัฒนาผลิตภัณฑ์บริษัท ทีโอที กล่าวว่า ทีโอทีได้ออกแพกเกจส่งเสริมการขายบรอดแบนด์ “Simple Fit” สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ต้องการทำสัญญาใช้บริการ ซึ่งที่ผ่านมาการใช้บริการบรอดแบนด์ทีโอทีจะต้องทำสัญญาใช้บริการอย่างน้อย 12 รอบบิล
สำหรับแพกเกจดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 แบบได้แก่ “Basic Fit” ลูกค้าสามารถเลือกความเร็วได้ตามต้องการเริ่มตั้งที่ความเร็ว 4 Mbps ในราคา 590 บาท ความเร็ว6 Mbps ราคา 790 บาท และความเร็ว 8 Mbps ที่ราคา 1,000 บาท จากเดิมความเร็วต่ำสุดที่ทีโอทีให้บริการอยู่ที่ 3Mbps ราคา 590 บาท
ส่วนแบบที่ 2 คือ “Power Fit” ที่เน้นตอบสนองความต้องการลูกค้าที่ต้องการ อัพโหลด ข้อมูลภาพขึ้น Facebook และHi5 ร้านอินเทอร์เน็ตค่าเฟ่ และกลุ่มนักท่องเที่ยว นักธุรกิจต่างชาติ ที่ต้องการอัพโหลดข้อมูลจำนวนมาก โดยแพกเกจนี้จะมีความเร็วในการอัพโหลดข้อมูลสูงถึง 1 Mbps จากเดิมความเร็วในการอัพโหลดข้อมูลอยู่ที่ 512 Kbps แพกเกจนี้มีความเร็วดาวน์โหลดเบื้องต้นที่ 4 Mbps ราคา 690 บาท
ความเร็ว6 Mbps ราคา 890 บาท และความเร็ว 8 Mbps ที่ราคา 1,100 บาท
“แพกเกจที่ทีโอทีออกมาครั้งนี้ มุ่งเน้นเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้า เพราะเป็นแพกเกจที่ลูกค้าสามารถเลือกไม่ทำสัญญาได้ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกทำสัญญาระยะสั้นไปจนถึงระยะยาวได้อีกด้วย นอกจากนี้ ทีโอทียังให้สิทธิพิเศษแก่ลูกค้าที่จ่ายค่าบริการล่วงหน้าด้วยการให้ส่วนลด เริ่มต้นที่ 3 เดือนได้ส่วนลด 2% และลูกค้าที่จ่ายล่วงหน้าได้ 8 เดือนได้ส่วนลด 8 %”
นางสาวพุ่มแพทิพย์กล่าวว่า
แพกเกจดังกล่าวจะทำให้ทีโอทีมีลูกค้าบรอดแบนด์ใหม่ในไตรมาส 1 อย่างน้อย 70,000 ราย และแพกเกจนี้จะสร้างรายได้ให้ทีโอทีถึง 81 ล้านบาท ส่วนยอดลูกค้าใหม่ในปีนี้ทั้งปีทีโอทีคาดว่าจะมีราว 300,000 พอร์ต ส่วนปีที่ผ่านมา ทีโอที มีฐานลูกค้าบรอดแบนด์ทั้งหมด 9.5 แสนราย มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ราว200,000 กว่าพอร์ต
ส่วนรายได้ทีโอทีตั้งเป้าจากธุรกิจบรอดแบนด์ในปีนี้ไว้ที่ 7,500 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาทีโอทีมีรายได้จากธุรกิจนี้ 5,800 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าวเติบโตจากปี 2551ราว 1,500 ล้านบาท สำหรับปีนี้ทีโอทีมีเป้าหมายรักษาส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งต่อไป
นางสาวพุ่มแพทิพย์ เอี่ยมโสภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักการตลาด สายงานการตลาด และพัฒนาผลิตภัณฑ์บริษัท ทีโอที กล่าวว่า ทีโอทีได้ออกแพกเกจส่งเสริมการขายบรอดแบนด์ “Simple Fit” สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ต้องการทำสัญญาใช้บริการ ซึ่งที่ผ่านมาการใช้บริการบรอดแบนด์ทีโอทีจะต้องทำสัญญาใช้บริการอย่างน้อย 12 รอบบิล
สำหรับแพกเกจดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 แบบได้แก่ “Basic Fit” ลูกค้าสามารถเลือกความเร็วได้ตามต้องการเริ่มตั้งที่ความเร็ว 4 Mbps ในราคา 590 บาท ความเร็ว6 Mbps ราคา 790 บาท และความเร็ว 8 Mbps ที่ราคา 1,000 บาท จากเดิมความเร็วต่ำสุดที่ทีโอทีให้บริการอยู่ที่ 3Mbps ราคา 590 บาท
ส่วนแบบที่ 2 คือ “Power Fit” ที่เน้นตอบสนองความต้องการลูกค้าที่ต้องการ อัพโหลด ข้อมูลภาพขึ้น Facebook และHi5 ร้านอินเทอร์เน็ตค่าเฟ่ และกลุ่มนักท่องเที่ยว นักธุรกิจต่างชาติ ที่ต้องการอัพโหลดข้อมูลจำนวนมาก โดยแพกเกจนี้จะมีความเร็วในการอัพโหลดข้อมูลสูงถึง 1 Mbps จากเดิมความเร็วในการอัพโหลดข้อมูลอยู่ที่ 512 Kbps แพกเกจนี้มีความเร็วดาวน์โหลดเบื้องต้นที่ 4 Mbps ราคา 690 บาท
ความเร็ว6 Mbps ราคา 890 บาท และความเร็ว 8 Mbps ที่ราคา 1,100 บาท
“แพกเกจที่ทีโอทีออกมาครั้งนี้ มุ่งเน้นเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้า เพราะเป็นแพกเกจที่ลูกค้าสามารถเลือกไม่ทำสัญญาได้ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกทำสัญญาระยะสั้นไปจนถึงระยะยาวได้อีกด้วย นอกจากนี้ ทีโอทียังให้สิทธิพิเศษแก่ลูกค้าที่จ่ายค่าบริการล่วงหน้าด้วยการให้ส่วนลด เริ่มต้นที่ 3 เดือนได้ส่วนลด 2% และลูกค้าที่จ่ายล่วงหน้าได้ 8 เดือนได้ส่วนลด 8 %”
นางสาวพุ่มแพทิพย์กล่าวว่า
แพกเกจดังกล่าวจะทำให้ทีโอทีมีลูกค้าบรอดแบนด์ใหม่ในไตรมาส 1 อย่างน้อย 70,000 ราย และแพกเกจนี้จะสร้างรายได้ให้ทีโอทีถึง 81 ล้านบาท ส่วนยอดลูกค้าใหม่ในปีนี้ทั้งปีทีโอทีคาดว่าจะมีราว 300,000 พอร์ต ส่วนปีที่ผ่านมา ทีโอที มีฐานลูกค้าบรอดแบนด์ทั้งหมด 9.5 แสนราย มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ราว200,000 กว่าพอร์ต
ส่วนรายได้ทีโอทีตั้งเป้าจากธุรกิจบรอดแบนด์ในปีนี้ไว้ที่ 7,500 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาทีโอทีมีรายได้จากธุรกิจนี้ 5,800 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าวเติบโตจากปี 2551ราว 1,500 ล้านบาท สำหรับปีนี้ทีโอทีมีเป้าหมายรักษาส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งต่อไป