xs
xsm
sm
md
lg

ต่อรองก่อนแตกหักประชาธิปไตยในเงื้อมมือมาร..!!??

เผยแพร่:   โดย: สำราญ รอดเพชร

จริงๆ นะครับท่านผู้อ่าน ในความรู้สึกส่วนลึกนาทีนี้ อนาคตพรรคการเมืองใหม่ อนาคตพรรคประชาธิปัตย์ อนาคตพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ผมไม่ได้รู้สึกเครียดเคร่งเท่ากับว่า...อนาคตประเทศไทยจะไปทางไหน สงคราม (ครั้งสุดท้าย) ของนักรบเสื้อแดงที่ ทักษิณ ชินวัตร เป็นแม่ทัพกับอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งมีรัฐบาลและระบอบอำมาตยาธิปไตยเป็นเป้าหมาย จะจบลงอย่างไร...

หลายท่านเบื่อการวิเคราะห์วิจารณ์ เพราะหลายครั้งที่เราวิเคราะห์วิจารณ์ เราจะโน้มเอียงไปในทิศทางความเชื่อในสิ่งที่เราอยากให้เกิด....ในขณะที่ความจริงที่จะเกิดมันอาจกลายเป็นอีกเรื่อง...

สถานการณ์วันนี้ หากจะพูดกันตามหน้าเสื่อหน้าไพ่ภายใต้จิตใจที่ปล่อยวางแล้วต้องบอกว่า....อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด...อะไรจะเจ๊งก็ต้องเจ๊ง ใครจะตายก็ต้องตาย ใครจะขายตัวขายจิตวิญญาณก็ต้องขายประมาณนั้น.. ซึ่งฟังดูแล้วอาจจะเป็นการมองโลกในแง่ร้ายอยู่บ้าง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้วหรือกำลังจะเกิดขึ้น...

ใครที่มองว่ากองทัพคนเสื้อแดงที่แม้จะมีลักษณาการถ่อย เถื่อน ว่าไม่มีน้ำยา ไม่มีกำลังเพียงพอที่จะทำอะไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองนี้ได้คงจะต้องเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่

ผมลองย้อนมองว่ามีเหตุปัจจัยอะไรทำให้กองทัพคนเสื้อแดงฮึกห้าวเหิมหาญ ราวกับวัวชนที่ใช้ตีนใช้เขาขุดคุ้ยตะกุยดินอยากออกศึก ก็พอจะสรุปได้สั้นๆ ดังนี้

1) ความสูญเสียอำนาจ สูญเสียลาภยศสักการะ สูญเสียเงินทองต้องทวงคืน

2) จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่มวลชนคนรากหญ้าจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชมนโยบายประชา
นิยมยังโหยหาทักษิณ

3) ตำรวจ ทหาร ข้าราชการพลเรือนทั้งนอกและในราชการจำนวนมากโดยเฉพาะตำรวจก็ยังโหยหาทักษิณ เพราะไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์จะยั่งยืน

4) รัฐบาลประสบความล้มเหลวอย่างแทบจะสิ้นเชิงในการใช้สื่อของรัฐในการสร้างความรู้ความเข้าใจในความเลวร้ายของระบอบทักษิณ และขาดการบริหารจัดการสื่อที่ละเมิดจาบจ้วงสถาบันพระมหาษัตริย์ จิกหัวด่าประธานองคมนตรี และองคมนตรีโดยรวม

5) พรรคแกนนำรัฐบาลอย่างประชาธิปัตย์ติดกับดัก “ไม่มีเขาไม่มีเรา” ทำให้ต้องเล่นบทประนีประนอมกับพรรคร่วมรัฐบาล ประคับประคองตัวเองมากเกินไป สุดท้ายกำลังกลายเป็นว่าผู้จัดการรัฐบาลกับผู้นำรัฐบาล “เล่นคนละบท” ในลักษณะที่รู้เห็นกันเป็นส่วนใหญ่ เพียงแต่ว่าต้นทุนของผู้นำรัฐบาลสูงจึงพอที่จะถ่วงดุลอะไรๆ เอาไว้ได้

6) ทักษิณยังมีทุนรอนอีกมากมายที่จะเคลื่อนไหว หล่อเลี้ยงให้แกนนำเสื้อแดงโลดเต้นฮึกเหิม..สู้แล้วดัง สู้แล้วรวย...

-ฯลฯ-

ถามว่าแล้วจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องตอบอย่างที่บอกไปแล้วว่า...อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ฝ่ายทักษิณ-กองทัพเสื้อแดงก็จะกดดันรัฐบาลไปเรื่อยๆ แบบไม่เกรงกลัวฟ้าดินอีกแล้ว เพราะหนึ่งปีที่ผ่านไปพวกเขาก็พอจะสรุปได้แล้วว่า...รัฐบาลชุดนี้ไม่มีอะไรที่น่ากลัว กองทัพที่แม่ทัพบกนั่งนับถอยหลังรอเกษียณอายุราชการในอีก 8 เดือนข้างหน้าก็ไม่น่ากลัว...

ถ้ากลัวก็คงไม่ใช้เท้าลูบหน้าด้วยการยิงถล่มด้วยเอ็ม 79 เมื่อ 14 ม.ค. 2553 หรอก อีกทั้งดูเหมือนว่าในที่สุดก็อาจจะหาตัวคนร้ายจริงๆ ไม่ได้??

ที่เขาสอยดาว จันทบุรีเมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค. 2553 ทักษิณ ชินวัตร ประกาศสู้ว่า ถ้าเกิดการปฏิวัติรัฐประหารเขาจะตั้ง รัฐบาลพลัดถิ่น ขณะที่ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ประกาศว่าถ้ามีรัฐประหารขอให้เดินหน้า “เผา” ทุกอย่างที่ขวางหน้า....ฯลฯ...

ไม่ต้องอาศัยหน่วยงานข่าวกรองใดๆ เราก็พอจะมองกันออกว่า ถ้าเปรียบกับการเล่นไพ่รัมมี่ตลอดเวลาที่ผ่านมา และจวบจนวันนี้และวันหน้าทักษิณเล่นแบบคั่วไพ่หลายหน้า....

ด้านหนึ่ง – ต่อสายเจรจาผ่านนักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลหรือแม้กระทั่งในพรรคแกนนำรัฐบาลขอจัดตั้ง รัฐบาลแห่งชาติ เพื่อฟอกผิดให้ตัวเองและนิรโทษกรรมให้กับทุกฝ่าย

เกมแก้รัฐธรรมนูญ 2 มาตรา ก็เป็นส่วนหนึ่งพรรคร่วมเดินหน้ากดดัน ต่อรองพรรคแกนนำอย่างประชาธิปัตย์ ต่อไปกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี – รัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ ก็อาจจะถูกนำมาต่อรองทางการเมืองอีก

ด้านหนึ่ง – หากการเดินเกม “รัฐบาลแห่งชาติ” ไม่ประสบความสำเร็จก็ทิ้งไพ่บีบให้ยุบสภาด้วยแรงกดดันทั้งนอกสภาและเกมการเมืองในสภา (ทั้งกรณีรัฐธรรมนูญและอภิปรายไม่ไว้วางใจ)

ด้านหนึ่ง – หากพลาดทั้งรัฐบาลแห่งชาติและการยุบสภา ก็เดินหน้าทำสงครามจรยุทธ์ ป่วนบ้านป่วนเมือง ถ้าเกิดการรัฐประหารก็อาจจะ “เผา” ทุกอย่างที่ขวางหน้า อย่างที่พวกเขาบางคนประกาศ...แล้วฝ่ายเขาก็จะยึดอำนาจยึดประเทศเสียเอง

……………..

วิเคราะห์ไปทำไมมี พูดไปทำไมกัน....ทั้งหลายทั้งปวงก็เพราะการวางยุทธศาสตร์งานด้านความมั่นคงที่ผิดพลาด และการหมักหมมปัญหา ปล่อยให้เชื้อชั่วฟักตัวออกลูกออกหลานจนเต็มบ้านเต็มเมือง และกำลังจะ “แดงทั้งแผ่นดิน” เอาจริงๆ...

ถึงอย่างไรก็ตาม บรรทัดนี้ต้องขอแสดงความชื่นชมกับคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ร่วมสังฆกรรมหรือค้อมหัวให้พรรคร่วมกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมติเมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) ซึ่งอีกด้านหนึ่งก็ต้องบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์จะต้องเตรียมการรับมือกับเกมการเมืองในลักษณะการต่อรอง – ตีรวนพร้อมๆ กับเตรียมทางหนีทีไล่และเกมรุกกลับไว้ให้จงดี...

ต้องเชื่อมั่นในพลังและความศรัทธาของประชาชนว่าคือหลังพิง เสาค้ำยันความอยู่รอดของรัฐบาลและระบอบประชาธิปไตยมากกว่าที่จะคำนึงถึงเกมการเมือง การต่อรองของนักการเมืองบางกลุ่มที่คำนึงถึงความอยู่รอด ความร่ำรวยอยู่ดีกินดีของตัวเองและพวกเป็นหลัก....

สมมติว่าเกิดจนมุมต้องยุบสภาก็ต้องยุบสภาหลังจากที่ได้ใช้หลักการ–จุดยืนที่ถูกต้องต่อสู้แบบสุดฤทธิ์สุดเดชแล้ว ไม่ใช่ยุบแบบคนหมดทางสู้ ยุบแบบหมดสภาพนักศึกษา...ยุบแบบยกประชาธิปไตยยกบ้านยกเมืองให้กับกลุ่มนักการเมืองโคตรโกงและโกงทั้งโคตร...

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชจะปกป้องคุ้มครองคนดี แต่ต้องเป็นคนดีที่กล้าหาญกล้าต่อสู้....ไม่ใช่ดีแบบประนีประนอมกับความชั่วสุดๆ!! 

                           samr_rod@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น