ASTVผู้จัดการรายวัน-กคช.เร่งปรับองค์กรตั้ง 2 ฝ่ายรับผิดชอบบริหารสินทรัพย์และที่ดิน และฝ่ายบริหารสินเชื่อและหนี้ ในโครงการบ้านเอื้ออาทรและที่ดินเปล่าทั้งหมดมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท เผยยุคนี้ต้องเร่งหารายได้ลดภาระขาดทุน
นายศิริโรจน์ ชาวปากน้ำ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ(กคช.) เปิดเผยว่าล่าสุดการประชุมคณะกรรมการกคช. ได้ปรับโครงสร้างเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อฟื้นสถานะการเงินและฟื้นฟูองค์กรให้ผ่านพ้นวิกฤตทางด้านการเงิน การก่อสร้าง การขายโครงการ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาโครงการบ้านเอื้ออาทรเพื่อลดค่าใช้จ่ายและเร่งหารายได้เข้าสู่องค์กรโดยเร่งด่วน โดยในการนี้ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการกคช.ให้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ ระดับฝ่ายจำนวน 2 ฝ่ายได้แก่ ฝ่ายบริหารทรัพย์สินและที่ดิน และฝ่ายบริหารสินเชื่อและหนี้
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก กคช.มีทรัพย์สินและอาคารในโครงการเคหะชุมชนและโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยเฉพาะโครงการคงเหลือรวมทั้งที่ดินแปลงว่างอีกจำนวนมาก ซึ่งจะต้องการหารายได้จากโครงการขนาดใหญ่ โครงการร่วมลงทุนและการวางแผนจัดประโยชน์ในชุมชนทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดรายได้ที่จะมาลดภาวะการขาดทุนขององค์กรได้
ซึ่งมีปริมาณจำนวนมาก เช่น โครงการบ้านเอื้ออาทรที่ชะลอและยกเลิกโครงการ ทั้งการก่อสร้างที่ค้างและที่ดินแปลงว่าง มูลค่า22,000 ล้านบาท ที่ดินแปลงว่างขนาด 5 ไร่ขึ้นไปประมาณ 1,400 ไร่ มูลค่าประมาณ 10,200 ล้านบาท และที่ดินแปลงว่างต่ำกว่า 5 ไร่ ประมาณ 225 ไร่ มูลค่าประมาณ 480 ล้านบาท , อาคารบ้านเอื้ออาทรคงเหลือ 69,399 หน่วย มูลค่าประมาณ 27,065 ล้านบาท , อาคารโครงการเคหะชุมชนคงเหลือ 3,560 หน่วย มูลค่าประมาณ 1,527 ล้านบาท , การจัดประโยชน์ในพื้นที่ชุมชนของการเคหะฯ 63 สำนักงานเคหะชุมชนทั่วประเทศ และความเร่งด่วนของการจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุดการโอนกรรมสิทธิ์อาคารและที่ดิน
โดยหน่วยงานใหม่ คือ ฝ่ายบริหารทรัพย์สินและที่ดินจะมีหน้าที่ดำเนินการสินทรัพย์ที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้ เป็นการขอตั้งกองพัฒนาธุรกิจขึ้นใหม่ และโอนงานจากกองพัฒนาทรัพย์สินเดิมในฝ่ายการตลาด มาเป็นกองจัดการทรัพย์สินและโอนกองอาคารชุดและทะเบียนนิติบุคคลจากหน่วยงานเดิม เพื่อมาเตรียมรับการโอนกรรมสิทธ์และจดทะเบียนอาคารชุดอีกจำนวนนับหมื่นหน่วย.
นายศิริโรจน์ ชาวปากน้ำ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ(กคช.) เปิดเผยว่าล่าสุดการประชุมคณะกรรมการกคช. ได้ปรับโครงสร้างเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อฟื้นสถานะการเงินและฟื้นฟูองค์กรให้ผ่านพ้นวิกฤตทางด้านการเงิน การก่อสร้าง การขายโครงการ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาโครงการบ้านเอื้ออาทรเพื่อลดค่าใช้จ่ายและเร่งหารายได้เข้าสู่องค์กรโดยเร่งด่วน โดยในการนี้ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการกคช.ให้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ ระดับฝ่ายจำนวน 2 ฝ่ายได้แก่ ฝ่ายบริหารทรัพย์สินและที่ดิน และฝ่ายบริหารสินเชื่อและหนี้
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก กคช.มีทรัพย์สินและอาคารในโครงการเคหะชุมชนและโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยเฉพาะโครงการคงเหลือรวมทั้งที่ดินแปลงว่างอีกจำนวนมาก ซึ่งจะต้องการหารายได้จากโครงการขนาดใหญ่ โครงการร่วมลงทุนและการวางแผนจัดประโยชน์ในชุมชนทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดรายได้ที่จะมาลดภาวะการขาดทุนขององค์กรได้
ซึ่งมีปริมาณจำนวนมาก เช่น โครงการบ้านเอื้ออาทรที่ชะลอและยกเลิกโครงการ ทั้งการก่อสร้างที่ค้างและที่ดินแปลงว่าง มูลค่า22,000 ล้านบาท ที่ดินแปลงว่างขนาด 5 ไร่ขึ้นไปประมาณ 1,400 ไร่ มูลค่าประมาณ 10,200 ล้านบาท และที่ดินแปลงว่างต่ำกว่า 5 ไร่ ประมาณ 225 ไร่ มูลค่าประมาณ 480 ล้านบาท , อาคารบ้านเอื้ออาทรคงเหลือ 69,399 หน่วย มูลค่าประมาณ 27,065 ล้านบาท , อาคารโครงการเคหะชุมชนคงเหลือ 3,560 หน่วย มูลค่าประมาณ 1,527 ล้านบาท , การจัดประโยชน์ในพื้นที่ชุมชนของการเคหะฯ 63 สำนักงานเคหะชุมชนทั่วประเทศ และความเร่งด่วนของการจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุดการโอนกรรมสิทธิ์อาคารและที่ดิน
โดยหน่วยงานใหม่ คือ ฝ่ายบริหารทรัพย์สินและที่ดินจะมีหน้าที่ดำเนินการสินทรัพย์ที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้ เป็นการขอตั้งกองพัฒนาธุรกิจขึ้นใหม่ และโอนงานจากกองพัฒนาทรัพย์สินเดิมในฝ่ายการตลาด มาเป็นกองจัดการทรัพย์สินและโอนกองอาคารชุดและทะเบียนนิติบุคคลจากหน่วยงานเดิม เพื่อมาเตรียมรับการโอนกรรมสิทธ์และจดทะเบียนอาคารชุดอีกจำนวนนับหมื่นหน่วย.
