โรบินสัน วางแผนลุยปีเสือ ผ่านกลยุทธ์ เดสติเนชั่น ออฟ นิว โปรดักส์ ล่าสุดทุ่ม 10 ล้านบาท จัดแคมเปญ “Robinson Chinese New Year 2010” คู่วันวาเลนไทน์ หวังยอดขายตลอดแคมเปญ 920 ล้านบาท เชื่อกำลังซื้อต่างชาติหวนคืนตั้งแต่ไตรมาสสองปีก่อน
นางสาวสิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท ห้างสรสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้ทางบริษัทได้มีการวางแผนกลยุทธ์ในการมัดใจลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสันมากขึ้น ภายใต้กลยุทธ์ การวางตัวเองเป็นศูนย์กลางเดสติเนชั่น ออฟ นิว โปรดักส์ อย่างจริงจังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าโลคอลแบรนด์และอินเตอร์แบรนด์ โดยจะมีการวางแผนร่วมกับเจ้าของสินค้าหรือพาร์ทเนอร์มากขึ้น จากทั้งหมดกว่า 5,000ราย จะเลือกสินค้าที่เป็นท๊อปสินค้าจริงๆ เจาะลึกถึงขั้นดีไซน์ สี และขนาดที่จะนำมาวางจำหน่ายในแต่ะสาขาด้วย โดยคอลเลกชั่นที่นำเสนอ จะต้องเปิดตัวใกล้เคียงกับที่เปิดในต่างประเทศให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน สินค้าที่จำหน่ายทางโรบินสัน พบว่า สาขาที่เป็นสาขารองรับนักท่องเที่ยว จะมียอดขายที่ดีมาก โดยพบว่าลูกค้าต่างชาติยังคงเข้ามาจับจ่ายซื้อของตั้งแต่ช่วงไตรมาสสองของปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้เชื่อว่ายอดขายจะกลับมาดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในสาขาสุขมวิท ซึ่งมีตัวเลขการเติบโตขึ้น 2 หลัก สาขาจังซีลอน เติบโตขึ้น 15%เมื่อสิ้นปี 2552 ที่ผ่านมา
ล่าสุดโรบินสัน ประเดิมแมเปญแรก รับเทศกาลตรุษจีน โดยทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนที่ใช้เพียง 6 ล้านบาท ในการจัดแคมเปญ“Robinson Chinese New Year 2010”ระหว่างวันที่ 1-21 ก.พ. 2553 ซึ่งปีนี้วันตรุษจีนตรงกับวันวาเลนไทน์ ดังนั้นแคมเปญในปีนี้จึงมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนขอสินค้าเอง ทางโรบินสันก็ได้จัดหาสินค้ามาวางจำหน่ายตามที่ทางลูกค้านิยมซื้อในช่วงตรุษจีนทั้งสินค้าในกลุ่มเครื่องครัว เครื่องทำความสะอาด เสื้อผ้า ของตกแต่ง และกิ๊ฟชอป คาดว่าการใช้จ่ายต่อคนจะสูงขึ้นอีก 10% จากเดิมช่วงเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 2,500 บาท หรือตลอดทั้งแคมเปญนี้ คาดว่าจะมีรายได้กว่า 920 ล้านบาท
นางสาวสิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท ห้างสรสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้ทางบริษัทได้มีการวางแผนกลยุทธ์ในการมัดใจลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสันมากขึ้น ภายใต้กลยุทธ์ การวางตัวเองเป็นศูนย์กลางเดสติเนชั่น ออฟ นิว โปรดักส์ อย่างจริงจังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าโลคอลแบรนด์และอินเตอร์แบรนด์ โดยจะมีการวางแผนร่วมกับเจ้าของสินค้าหรือพาร์ทเนอร์มากขึ้น จากทั้งหมดกว่า 5,000ราย จะเลือกสินค้าที่เป็นท๊อปสินค้าจริงๆ เจาะลึกถึงขั้นดีไซน์ สี และขนาดที่จะนำมาวางจำหน่ายในแต่ะสาขาด้วย โดยคอลเลกชั่นที่นำเสนอ จะต้องเปิดตัวใกล้เคียงกับที่เปิดในต่างประเทศให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน สินค้าที่จำหน่ายทางโรบินสัน พบว่า สาขาที่เป็นสาขารองรับนักท่องเที่ยว จะมียอดขายที่ดีมาก โดยพบว่าลูกค้าต่างชาติยังคงเข้ามาจับจ่ายซื้อของตั้งแต่ช่วงไตรมาสสองของปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้เชื่อว่ายอดขายจะกลับมาดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในสาขาสุขมวิท ซึ่งมีตัวเลขการเติบโตขึ้น 2 หลัก สาขาจังซีลอน เติบโตขึ้น 15%เมื่อสิ้นปี 2552 ที่ผ่านมา
ล่าสุดโรบินสัน ประเดิมแมเปญแรก รับเทศกาลตรุษจีน โดยทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนที่ใช้เพียง 6 ล้านบาท ในการจัดแคมเปญ“Robinson Chinese New Year 2010”ระหว่างวันที่ 1-21 ก.พ. 2553 ซึ่งปีนี้วันตรุษจีนตรงกับวันวาเลนไทน์ ดังนั้นแคมเปญในปีนี้จึงมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนขอสินค้าเอง ทางโรบินสันก็ได้จัดหาสินค้ามาวางจำหน่ายตามที่ทางลูกค้านิยมซื้อในช่วงตรุษจีนทั้งสินค้าในกลุ่มเครื่องครัว เครื่องทำความสะอาด เสื้อผ้า ของตกแต่ง และกิ๊ฟชอป คาดว่าการใช้จ่ายต่อคนจะสูงขึ้นอีก 10% จากเดิมช่วงเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 2,500 บาท หรือตลอดทั้งแคมเปญนี้ คาดว่าจะมีรายได้กว่า 920 ล้านบาท