เอเอฟพี/เอเจนซี/ASTV ผู้จัดการรายวัน- พบหนุ่มเฮติวัยเบญจเพสรอดตายปาฏิหาริย์หลังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังจากเหตุแผ่นดินไหวนานถึง 11 วัน ทั้งที่ทางการเฮติประกาศยุติการค้นหาผู้รอดชีวิตไปแล้ว เจ้าตัวเผยเคล็ดลับมีชีวิตรอดมาได้เพราะ “ดื่มโค้ก” ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการล่าสุดเพิ่มเป็น 112,226 รายแล้ว
วิสมอนด์ เอซานตัส หนุ่มชาวเฮติ วัย 25 ปี ได้รับการช่วยเหลือโดยเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยนานาชาติ ออกมาจากใต้ซากปรักหักพังของร้านขายของชำแห่งหนึ่งกลางกรุงปอร์โตแปรงซ์เมื่อวันเสาร์ (23) หลังต้องติดอยู่เป็นเวลานาน 11 วัน นับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริกเตอร์เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา
เอซานตัสซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างที่ร้านขายของชำดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า “นาโปลิแต็ง” เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังถูกทีมกู้ภัยผสมของสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และกรีซนำตัวส่งยังโรงพยาบาลสนามของฝรั่งเศสในปอร์โตแปรงซ์ว่า สาเหตุหลักที่ทำให้เขารอดตายจากภัยพิบัติครั้งนี้มาได้อย่างปาฏิหาริย์ เป็นเพราะเขาได้ดื่มเครื่องดื่มน้ำดำยี่ห้อดังสัญชาติอเมริกันอย่าง “โคคา-โคลา” จากซากของตู้แช่ในร้านของชำที่เขาทำงานอยู่ตลอดทั้ง 11 วันที่ผ่านมา และยังได้รับประทานขนมอีกหลายชนิดของทางร้านเช่นกัน
“ผมรู้สึกดีจริงๆ ผมจำได้ว่าผมกำลังทำงานอยู่ในร้านตอนที่เกิดแผ่นดินไหว จากนั้นผมก็หมดสติไป แต่พอผมรู้สึกตัวอีกครั้ง สิ่งแรกที่ผมเห็นคือ ขวดเครื่องดื่มโคคา-โคลากระจัดกระจายอยู่รอบตัวผม และตลอด 11 วันที่ผ่านมาผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนอนดื่มมันทุกวัน สวดภาวนา และอาศัยกินขนมหลายอย่างของที่ร้าน” เอซานตัสกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
หนุ่มผู้โชคดีชาวเฮติรายนี้ เป็นหนึ่งในจำนวนผู้รอดชีวิตกว่า 130 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาจากใต้ซากปรักหักพังภายหลังเกิดแผ่นดินไหว
ขณะที่แหล่งข่าวซึ่งเป็นหนึ่งในทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยนานาชาติเปิดเผยว่า พวกเขาเชื่อว่า ยังคงมีผู้รอดชีวิตติดอยู่ตามใต้ซากของอาคารต่างๆ และพวกเขาจะพยายามหาทางช่วยชีวิตคนเหล่านี้ต่อไป แม้ว่ารัฐบาลเฮติภายใต้การนำของประธานาธิบดีเรอเน เปรอวาล จะประกาศยุติการค้นหาผู้รอดชีวิตไปแล้วก็ตาม
ด้านกระทรวงมหาดไทยของเฮติแถลงในวันเสาร์ว่า ขณะนี้พบศพผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ 112,226 รายแล้ว เพิ่มจาก 111,499 รายเมื่อวันศุกร์ (22) ส่วนตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 194,000 ราย และจำนวนผู้ที่ต้องกลายเป็นคนไร้บ้านมีมากกว่า 1 ล้านคน กระจายกันอยู่ตามค่ายพักพิงชั่วคราวราว 300 แห่ง
ด้าน ราจีฟ ชาห์ ผู้อำนวยการสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (ยูเสด) ระบุว่า ต้องการให้มีการเพิ่มกำลังทหาร เพื่อคุ้มครองขบวนลำเลียงอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่างๆไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในกรุงปอร์โตแปรงซ์และพื้นที่โดยรอบ เนื่องจากชาวเฮติบางกลุ่มพยายามเข้ามาปล้นชิง ทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความยากลำบากยิ่งขึ้น
เมื่อวันเสาร์(23) ทหารบราซิลจากกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติต้องยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ประสบภัย หลังมีความพยายามแย่งชิงสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่มีทั้งอาหารสำเร็จรูป น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำดื่ม จนทำให้เกิดเหตุวุ่นวายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า มีชาวเฮติยืนต่อแถวยาวนับกิโลเมตร เพื่อรอถอนเงินจากสาขาธนาคารของรัฐในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ขณะที่สาขาของธนาคารเอกชนส่วนใหญ่ยังคงปิดทำการ ทำให้จนถึงเวลานี้มีชาวเฮติจำนวนไม่กี่พันคนเท่านั้น ที่สามารถถอนเงินจากธนาคารได้ นอกจากนั้นชาวเฮติบางส่วนก็ต้องอาศัยเงินจากญาติของตัวเองที่อยู่ในต่างประเทศโอนมาให้
วิสมอนด์ เอซานตัส หนุ่มชาวเฮติ วัย 25 ปี ได้รับการช่วยเหลือโดยเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยนานาชาติ ออกมาจากใต้ซากปรักหักพังของร้านขายของชำแห่งหนึ่งกลางกรุงปอร์โตแปรงซ์เมื่อวันเสาร์ (23) หลังต้องติดอยู่เป็นเวลานาน 11 วัน นับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริกเตอร์เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา
เอซานตัสซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างที่ร้านขายของชำดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า “นาโปลิแต็ง” เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังถูกทีมกู้ภัยผสมของสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และกรีซนำตัวส่งยังโรงพยาบาลสนามของฝรั่งเศสในปอร์โตแปรงซ์ว่า สาเหตุหลักที่ทำให้เขารอดตายจากภัยพิบัติครั้งนี้มาได้อย่างปาฏิหาริย์ เป็นเพราะเขาได้ดื่มเครื่องดื่มน้ำดำยี่ห้อดังสัญชาติอเมริกันอย่าง “โคคา-โคลา” จากซากของตู้แช่ในร้านของชำที่เขาทำงานอยู่ตลอดทั้ง 11 วันที่ผ่านมา และยังได้รับประทานขนมอีกหลายชนิดของทางร้านเช่นกัน
“ผมรู้สึกดีจริงๆ ผมจำได้ว่าผมกำลังทำงานอยู่ในร้านตอนที่เกิดแผ่นดินไหว จากนั้นผมก็หมดสติไป แต่พอผมรู้สึกตัวอีกครั้ง สิ่งแรกที่ผมเห็นคือ ขวดเครื่องดื่มโคคา-โคลากระจัดกระจายอยู่รอบตัวผม และตลอด 11 วันที่ผ่านมาผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนอนดื่มมันทุกวัน สวดภาวนา และอาศัยกินขนมหลายอย่างของที่ร้าน” เอซานตัสกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
หนุ่มผู้โชคดีชาวเฮติรายนี้ เป็นหนึ่งในจำนวนผู้รอดชีวิตกว่า 130 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาจากใต้ซากปรักหักพังภายหลังเกิดแผ่นดินไหว
ขณะที่แหล่งข่าวซึ่งเป็นหนึ่งในทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยนานาชาติเปิดเผยว่า พวกเขาเชื่อว่า ยังคงมีผู้รอดชีวิตติดอยู่ตามใต้ซากของอาคารต่างๆ และพวกเขาจะพยายามหาทางช่วยชีวิตคนเหล่านี้ต่อไป แม้ว่ารัฐบาลเฮติภายใต้การนำของประธานาธิบดีเรอเน เปรอวาล จะประกาศยุติการค้นหาผู้รอดชีวิตไปแล้วก็ตาม
ด้านกระทรวงมหาดไทยของเฮติแถลงในวันเสาร์ว่า ขณะนี้พบศพผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ 112,226 รายแล้ว เพิ่มจาก 111,499 รายเมื่อวันศุกร์ (22) ส่วนตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 194,000 ราย และจำนวนผู้ที่ต้องกลายเป็นคนไร้บ้านมีมากกว่า 1 ล้านคน กระจายกันอยู่ตามค่ายพักพิงชั่วคราวราว 300 แห่ง
ด้าน ราจีฟ ชาห์ ผู้อำนวยการสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (ยูเสด) ระบุว่า ต้องการให้มีการเพิ่มกำลังทหาร เพื่อคุ้มครองขบวนลำเลียงอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่างๆไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในกรุงปอร์โตแปรงซ์และพื้นที่โดยรอบ เนื่องจากชาวเฮติบางกลุ่มพยายามเข้ามาปล้นชิง ทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความยากลำบากยิ่งขึ้น
เมื่อวันเสาร์(23) ทหารบราซิลจากกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติต้องยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ประสบภัย หลังมีความพยายามแย่งชิงสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่มีทั้งอาหารสำเร็จรูป น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำดื่ม จนทำให้เกิดเหตุวุ่นวายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า มีชาวเฮติยืนต่อแถวยาวนับกิโลเมตร เพื่อรอถอนเงินจากสาขาธนาคารของรัฐในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ขณะที่สาขาของธนาคารเอกชนส่วนใหญ่ยังคงปิดทำการ ทำให้จนถึงเวลานี้มีชาวเฮติจำนวนไม่กี่พันคนเท่านั้น ที่สามารถถอนเงินจากธนาคารได้ นอกจากนั้นชาวเฮติบางส่วนก็ต้องอาศัยเงินจากญาติของตัวเองที่อยู่ในต่างประเทศโอนมาให้
