xs
xsm
sm
md
lg

“พวกปล้นชิง” อาละวาดในเมืองหลวงเฮติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พวกปล้นชิงยอมจำนนต่อตำรวจหลังเจ้าหน้าที่ยิงปืนขึ้นฟ้า
เอเอฟพี – ตำรวจเฮติท่าทางเหนื่อยเพลีย พยายามยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่ขวัญขับไล่พวกปล้นชิงที่กำลังบุกเข้าไปแย่งชิงหยิบฉวยข้าวของในร้านค้าต่างๆ ในกรุงปอร์โตแปรงซ์เมื่อวันเสาร์ (16) แต่ก็แทบไม่ได้ผลอะไร คนเหล่านี้ซึ่งมีอาวุธด้วยหวนกลับมาอีกภายในไม่กี่วินาทีหลังจากแตกฮือหนีไป



ตำรวจในเครื่องแบบ (หนึ่งในเครื่องหมายอันหาได้ยากเต็มทีแล้ว ว่ารัฐบาลเฮติยังไม่ได้ล่มสลาย) ได้รับคำสั่งไม่ให้ยิงประชาชนที่กำลังหิวโหย โกรธแค้น และตระเวนหาอาหารและน้ำดื่มกันอย่างวุ่นวายโกลาหลไปทั่วเมืองหลวง หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 7.0 ริกเตอร์ เมื่อวันอังคาร(12) ที่แล้ว

ทว่า เสียงปืนยิงขึ้นฟ้าไม่สามารถหยุดยั้งพวกปล้นชิงได้ พวกเขาเที่ยวหยิบฉวยข้าวของทั้งจากร้านค้า อาคารทางราชการและบ้านเรือนที่พังทลายลงมา โดยหากไม่ใช่อาหารก็จะนำไปขายในตลาดมืด

“พวกนี้ขโมยทุกอย่างที่คว้ามาได้ ไม่ว่าจะต้องการใช้หรือเปล่า มันบ้ามาก เราได้รับคำสั่งให้ขับไล่พวกเขาไปเท่านั้น เรายิงพวกเขาไม่ได้ แต่วิธีนี้ไม่ได้ผล เราเองก็ไม่มีอะไรคุ้มกัน และเราก็กลัวเหมือนกัน” หลุยส์ ฌอง เอฟิเซน ตำรวจนายหนึ่งกล่าว

“คนจำนวนมากมีอาวุธ ท้องถนนมีแต่อาชญากรเพราะพวกนักโทษทั้งหมดหลบหนีออกจากคุกไปแล้ว ห่างจากที่นี่ไปไม่ไกล พวกมันยิงเจ้าหน้าที่จากบราซิลไปคนหนึ่ง” ตำรวจอีกนายหนึ่งบอก

ย่านธุรกิจใจกลางกรุงปอร์โตแปรงซ์อยู่ในสภาพโกลาหล ทีมช่วยเหลือจากต่างประเทศจะออกปฏิบัติงานได้ ก็ต้องมีทหารยูเอ็นสวมหมวกเหล็กสีฟ้าคอยให้ความคุ้มครอง

“เราเป็นกลุ่มแรกที่มาถึงพื้นที่นี้ สถานการณ์ล่อแหลมมาก นั่นคือเหตุผลที่เราต้องมีหน่วยรักษาความปลอดภัยอยู่กับเราด้วย” เจ้าหน้าที่ของทีมช่วยเหลือจากคอสตาริกาเล่า

ตามจุดต่างๆ ทั่วทั้งปอร์โตแปรงซ์เมื่อวันเสาร์ ชาวเฮติซึ่งอยู่ในอาการหมดหวังได้เริ่มเผาศพผู้เสียชีวิต พื้นที่ที่เคยเป็นที่ตั้งของกระทรวงยุติธรรมก็อยู่ในกองเพลิงเช่นกัน

“ปล่อยให้คนตายเน่าเปื่อยไปเถอะ หันมาดูแลคนที่ยังไม่ตายดีกว่า เอาอาหารมาให้เราเถอะ” ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนบอกเมื่อรถบรรทุกของทีมช่วยเหลือจากสเปนผ่านทางมา

มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด แล้วกลุ่มหัวขโมยก็วิ่งกรูหนีกระเจิดกระเจิง โดยแขนของพวกเขายังหนีบของซึ่งฉกชิงได้มาเอาไว้แน่น

“ของในร้านฉันหายไปตั้ง 70 เปอร์เซ็นต์ พวกมันขโมยไปหมดเลย” แม็กแซม อัลซีด เจ้าของร้านเสริมสวยเล่าพลางสะอื้นไห้ เธอกำลังดูว่ายังมีข้าวของอะไรเหลืออยู่และขนไปเก็บในรถบรรทุกเพื่อความปลอดภัย

ส่วนจีนินา แซงต์จอร์จ เจ้าของร้านขายของชำซึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ กัน ยกมือขึ้นกุมศีรษะอย่างไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นซากร้านของเธอที่พังทลายลงมา

“ฉันคงไม่มีทางรู้ว่าฉันสูญเสียไปเท่าไร แต่เราก็ยังมีชีวิตอยู่ พอคิดแบบนี้แล้ว อะไรๆ ก็ไม่เลวร้ายเสียทีเดียว” เธอบอกและเสริมว่า “แต่ความจริงก็คือ ไม่มีเจ้าหน้าที่แล้ว เราต้องผจญกับพวกอาชญากรกันตามลำพัง”

ไม่แต่เพียงร้านค้า บ้านเรือนทั่วไปก็ตกเป็นเป้าหมายของพวกปล้นชิงด้วย

“พวกขโมยคิดว่าเราทิ้งบ้าน เลยจะมาขโมยของ แต่เราก็มีอาวุธไล่พวกมันไปเหมือนกัน” เดส์แลนเดสกล่าว ขณะยืนอยู่หน้าบ้านที่พังเสียหายไปบางส่วน แต่เขากับครอบครัวยังคงใช้เป็นที่พำนักอาศัย
กำลังโหลดความคิดเห็น