xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ยิง M79 ถล่ม “ป้อม-ป็อก” จุดจบ “เสธ.แดง” จุดเริ่มต้นสงครามครั้งสุดท้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังจากที่ 'กลัวเสียหน้า' ปิดข่าวเงียบกันมาได้ไม่นาน แต่แล้วในที่สุด 'กองทัพบก' ก็ต้องมา 'เสียฟอร์ม' จนได้ เมื่อมีข่าวแพร่สะพัดออกมาว่า 'ไอ้เสือร้าย' กองกำลังไม่ทราบฝ่ายจากไหนก็ไม่รู้ 'ล็อกเป้า' ยิง M79 ถล่มห้องทำงาน ผบ.ทบ.ในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ออกมาให้ได้ฮือฮากันใหญ่ แถมยังมีอีกลูก ถูกยิงมา 'บอมบ์' หน้ากระทรวงกลาโหมของ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ”เข้าให้อีกด้วย จน 'พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา' ผบ.ทบ. เกิดอาการร้อนรน กระวนกระวาย และอกสั่นขวัญหาย

จากนั้นก็ตามมาด้วยคำสั่งหามือยิงให้ได้ พร้อมเพิ่ม รปภ.ขั้นสูงสุด ทั้งขณะเดินทาง บ้านพักลูกเมียที่พุทธมณพลที่ใช้กำลังสารวัตรทหารบก(สห.) กว่า 30 คนไปช่วยรักษาความปลอดภัย และบ้านพักใน ร.1 รอ. พร้อมเพิ่มระดับความปลอดภัยให้ 'ป๋า' พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ซึ่งจะมาร่วมงานเลี้ยงเนื่องในวันกองทัพบก งานนี้ 'ป๊อกซีเรียส' ถึงขนาดห้ามสื่อมวลชนเข้าทำข่าวกันเลยทีเดียว

ถ้าให้วิเคราะห์กันจริงๆ การลอบยิงM79 เข้าไปใกล้ๆ หรือในห้องทำงานของผู้บัญชาการทหารบก กับหน้ากระทรวงกลาโหม ถ้าดูจากภูมิประเทศแล้ว ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะยิง M79 เข้าไปในสถาบัน 'รั้วของชาติ' แห่งนั้น ไม่ว่าจะยิงบนรถกระบะแล้วรีบเผ่นหนีไป หรือไม่ก็ยิงจากตึกไหนก็ได้ เพราะนับประสาอะไรกับ บก.ทบ. ขนาดทำเนียบรัฐบาล พวกยังล่อเป้า ยิงเข้าใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เข้าไปชุมนุมโดยสงบในนั้นมาแล้ว

เพียงแต่สิ่งสำคัญ น่าสนใจ และควรบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ให้ลูกหลานได้กล่าวขานกันสืบไป ว่าพื้นที่ 'กองบัญชาการกองทัพบก' และ 'กระทรวงกลาโหม' สถานที่สำคัญสูงสุดที่เป็นทั้งที่ทำงาน ที่เก็บรวบรวมเอกสารระดับ 'ความมั่นคงของชาติ' และฯลฯ รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของทหารไทยที่มีหน้าที่ปกป้องประเทศชาติและประชาชน โดนยิงถล่มด้วยอาวุธ M79 เป็นครั้งแรกของประเทศไทย!

ปฏิบัติการครั้งนี้ถือว่าเป็นการ 'ลูบคม' กองทัพครั้งใหญ่ เป็นการ 'เหยียบหน้า' และ 'หยาม' ทหารไทยเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งสามารถกล่าวได้ว่า เป็นความอับอายที่สุดของกองทัพบก เนื่องจากตั้งแต่มีการตั้งกองทัพบกมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งมาถึง 122 ปี ไม่เคยถูกใครยิงมาก่อน

พล.อ.อนุพงษ์จำต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง อย่างที่เสธ.แดงให้สัมภาษณ์เอาไว้หรือไม่

งานนี้ แทบจะไม่ต้องควานหาคำตอบว่า ใครที่อยู่ในข่ายมือยิงหรือคนสั่งการให้ยิงบ้าง เพราะทันทีที่ตกเป็นข่าวชื่อของ 'เสธ.แดง'-พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ก็เด้งขึ้นมาทันที่

แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังสั่งพักราชการเสธ.แดง เพียงวันเดียวเท่านั้น !

แถมในวันที่รู้ข่าวว่าถูกพักราชการ เสธ.แดงก็ออกมาโวยวายใส่พล.อ.อนุพงษ์อย่างไม่ไว้หน้าผู้บังคับบัญชา พร้อมข่มขู่อีกว่า “หากมีการพักราชการผมจริงๆ ก็ไม่ต้องมาเผาผีกันและอย่าหวังจะได้ออกมาจากบก.ทบ.ให้มันนอนอยู่ในนั้น ออกมาเจอตัวเมื่อไหร่ ผมกระทืบแน่”

เมื่อ เสธ.แดงตกเป็นผู้ต้องหาอันดับ 1 ก็มีการสนธิกำลังระหว่างทหารกับตำรวจไปตรวจบ้านพักของเสธ.แดง ภายในชุมชนยานเกราะ เลขที่ 1156/11 ถนนสามเสน ตรงข้ามกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.)

และผลการตรวจค้นก็พบว่า ในรถตู้เบนซ์ หมายเลขทะเบียน ศข 121 กทม. ซึ่งเสธ.แดงเป็นเจ้าของบริเวณเบาะหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบระเบิดลูกเกลี้ยง M26 และอาวุธปืนขนาด .32 และเครื่องกระสุน นอกจากนี้ตำรวจได้ทำการขยายผลตรวจค้นไปยังบ้านพักของลูกน้องเสธ.แดง ซึ่งเป็นอาคารแฟลต 5 ชั้น ชื่อจ่าสิบเอกนัฐสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ที่อยู่ในละแวกดังกล่าว เบื้องต้นพบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนจำนวนมาก มีทั้ง เอ็ม 72 จำนวน 60 ลูก ระเบิดเอ็ม 79 ปลอกกระสุน และระเบิดที่ใช้แล้ว จำนวนมาก เหมือนกับเป็นคลังอาวุธที่ถูกนำมาซุกซ่อนไว้

จากหลักฐานที่ปรากฏ ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ออกหมายจับเสธ.แดง

อย่างไรก็ตาม การยิง M79 ในครั้งนี้และนำไปสู่การออกหมายจับเสธ.แดงนั้น ก็อาจยังไม่สามารถปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ว่า เขาเป็นคนทำจริงหรือไม่ เพราะยังคงมีความเคลือบแคลงสงสัยว่า เสธ.แดงอาจจะเป็นแค่ “เป้าหลอก” หรือไม่ และอาจยังมี “เป้าใหญ่” ที่กำลังเตรียมการเอาไว้ก็ได้

ความผิดปกติประการแรกคือ หลังจากมีการยิง M79 เข้าใส่เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ทำไมถึงเพิ่งจะมีข่าวรั่วออกมาจากกองทัพเมื่อวันที่ 20 ม.ค.หรือปล่อยให้เวลาผ่านไป 5 วัน จากนั้นถึงได้มีการสนธิกำลังระหว่างทหารกับตำรวจไปตรวจค้นบ้านเสธ.แดงและลูกน้อง มีการตระเตรียมอะไรบางอย่างเพื่อรอสถานการณ์หรือไม่

เป็นไปได้หรือไม่ว่า เสธ.แดงจะไม่ได้เป็นคนยิง

เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการจัดฉากเพื่อป้ายความผิดทั้งหลายทั้งปวงที่เคยร่วมกันทำมาในอดีตให้กับเสธ.แดงเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

เป็นไปได้หรือไม่ว่า จะมีคนบางกลุ่มบางจำพวกยิง M79 เพื่อต้องการสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงเพื่อนำไปสู่เป้าหมายบางอย่าง เช่น เป็นการส่งสัญญาณรบโดยตรงจากขบวนการไม่เอารัฐบาล ถึง ผบ.ทบ.และฝ่ายความมั่นคงว่า กลุ่มอำนาจเถื่อนกลุ่มนี้พร้อมเปิดศึกหรือก่อความรุนแรงได้ตลอดเวลาใช่หรือไม่ เพราะแท้จริงแล้ว ปฏิบัติการครั้งนี้ เสธ.แดงอาจเป็นแค่ตัวลวงให้สังคมหลงประเด็น และนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการทำศึกในสงครามครั้งสุดท้ายก็เป็นได้

เพราะหากพิจารณาจากสัญญาณในคำพูดของเสธ.แดงก็ดูเหมือนว่า เขารู้อะไรบางอย่างที่ชวนให้เชื่อไม่น้อย เพราะเขาบอกว่า เมื่อมีครั้งแรกก็ย่อมต้องมีครั้งที่สอง พร้อมฝากเตือนมายัง พล.อ.อนุพงษ์ในฐานะเพื่อนรักว่า ขอให้นำภรรยาและลูกย้ายออกมาจากบ้านพักใน ซ.พุทธมณฑล 68 มาพักอยู่ที่บ้านพักภายใน กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) เสียก่อน เพราะเกรงว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัย

มีใครนอกเหนือจากเสธ.แดงที่เตรียมลงมือครั้งที่ 2 อีกหรือไม่

มีใครหรืออำนาจอะไรบางอย่างต้องการเปลี่ยนตัว ผบ.ทบหรือไม่ หลังจากที่ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาอำมาตย์เก่าดูจะไม่ปลื้มในบทบาทของ พล.อ.อนุพงษ์เท่าที่ควร ไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่ชม "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" อย่างออกหน้าออกตาเช่นนี้

นี่คือคำถามที่ยังต้องการคำอธิบายให้แจ่มชัดกว่านี้

ขณะเดียวกันข้อดีของการยิง M79 ถล่ม บก.ทบ. และกระทรวงกลาโหมครั้งนี้คือ เป็นการกระตุ้นแรงๆ ให้มีการสืบสวน สอบสวนอย่างเอาจริงเอาจังเพื่อลากคอผู้ร้ายมาดำเนินการลงโทษให้ได้เสียที นับตั้งแต่ที่พวกมันยิงเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล ยิงเข้าไปในสนามบินดอนเมือง กระทั่งยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ท้องสนามหลวง จนมีผู้บาดเจ็บและล้มตาย รวมถึงคราวนี้ที่ผู้ร้ายยิงเข้าไปในกองทัพบก!

ถึงเวลาแล้วใช่ไหม ที่หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบต้องเอาจริงเอาจังกันเสียที ถึงเวลาแล้วใช่ไหม ที่จะลากคอตัวการ 'ที่เป็นตัวจริงเสียงจริง' มาลงโทษให้ได้

พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล
กำลังโหลดความคิดเห็น