ย้ายฟ้าผ่า “ศศิธารา” ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว เข้ากรุนั่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี “ศศิธารา”เผยในชีวิตข้าราชการทำงานโปร่งใสตรวจสอบได้ ขณะที่รายงานข่าวระบุ ร้าวลึก ทำงานไม่โดยใจข้าราชการการเมือง พร้อมดันคนของตัวเองครอบทั้งกระทรวงฯ บอร์ด ททท.เห็นชอบตั้ง 4 รองผู้ว่าการ
นายยุทธพล อังกินันทน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบอนุมัติรับโอน น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจาก น.ส.ศศิธารา ทำงานด้านการท่องเที่ยวและกีฬามานานมีความรู้ความสามารถดี และยังมีตำแหน่งในองค์การการท่องเที่ยวโลก(UNWTO)จึงมั่นใจจะสามารถเข้าไปช่วยสำนักนายกรัฐมนตรีในงานด้านการประสานงาน จะมีผลก็ต่อเมื่อนำชื่อเข้ารับการโปรดเกล้าเป็นที่เรียบร้อย
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นคาดว่านายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะทาบทามนายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เข้ามารับตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แทนน.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์
***ยันทำงานโปร่งใสชาติตระกูลการันตี****
ทางด้าน น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมีการโยกย้ายตนเข้าไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อ เป็นความต้องการของรัฐมนตรี และ ครม. ก็ยินดีปฎิบัติตาม เพราะที่ผ่านมา ก็ไม่เคยทำงานนอกคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว
“พี่มีนิสัยเชื่อฟังนายมาโดยตลอด และยืนยันทำในสิ่งที่ถูกต้องและโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยเฉพาะงานด้านการใช้งบประมาณการจัดซื้อจัดจ้าง รับประกันโดยชื่อเสียงและวงศ์ตระกูลของตัวเอง ไม่รู้จริงๆว่าถูกโยกย้ายครั้งนี้เพราะสาเหตุใด เพราะจริงๆก็ยังไม่ใช่ช่วงการโยกย้าย สำหรับตำแหน่งปลัดกระทรวง รับมาได้ 3 ปีแล้ว ยังเหลืออายุราชการอีก 6 ปีก็ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง ไม่เคยคิดว่าปลัดเป็นตำแหน่งที่สูงที่สุด แต่ต้องทำงานเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมตามภารกิจของข้าราชการประจำ ส่วนกรณีจะร้องเรียนขอความเป็นธรรมในการโยกย้ายครั้งนี้ต่อ ปปช.หรือไม่คงต้องขอคิดดูก่อน ซึ่งขณะเดียวกันตำแหน่งในเวทีระดับโลกก็จะสิ้นสุดไปกับการย้ายครั้งนี้ด้วย เช่น ประธานองค์การการท่องเที่ยวโลก ”
ความภูมิใจในการทำงานเป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว คือ สามารถทำภาระกิจการช่วยเหลือเยียวยาภาคเอกชนท่องเที่ยวและฟื้นฟูการท่องเที่ยว โดยทำงานร่วมกับทุกฝ่ายได้เป็นผลสำเร็จอย่างดี เช่น มาตรการเงินกู้ดอกเบี้ยตำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายกลางและย่อย การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบิน การทำงานด้านการสรรหาผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การพิจารณาภารกิจหน้าที่และค่าตอบแทนให้กับตำแหน่งที่ปรึกษาระดับ 11 ของ ททท. เป็นต้น
***ดึงคนใกล้ชิดคลุมทั้งกระทรวงท่องเที่ยว****
แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยว ระบุว่า การโยกย้าย น.ส.ศศิธารา ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในครั้งนี้ เป็นความต้องการของฝ่ายการเมืองที่กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยว โดยที่ผ่านมางานที่ น.ส.ศศิธารา ทำหลายอย่างไม่เป็นไปตามที่สั่งการ รวมถึงงานที่ น.ส.ศศิธารา เคยไปนั่งเป็นประธานบอร์ดอีลิทการ์ด ซึ่งมีกรณีจัดซื้อจัดจ้างรถประจำตำแหน่งให้กับผู้บริหาร
ขณะเดียวกัน เป็นการรุกคืบของพรรคการเมืองที่กำกับดูแลงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะทยอยปรับเปลี่ยนตำแหน่งข้าราชการระดับผู้อำนวยการและหัวหน้างาน โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจะเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดกับพรรคการเมืองนี้ และล่าสุด มีกระแสข่าวว่า นายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ก็เป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยเช่นกัน และเป็นเรื่องที่ไม่ทำกันบ่อยนักกับการย้ายข้าราชการข้ามกระทรวง และ นอกฤดูกาลโยกย้าย และเป็นการย้ายจากข้าราชการระดับ 10 ขึ้นเป็นข้าราชการระดับ 11 ทั้งที่ไม่ใช่ฤดูกาลโยกย้ายตามปีงบประมาณ
***บอร์ด ททท.เห็นชอบตั้ง 4 รองผู้ว่าการ
นายวิชัย ศรีขวัญ ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด)การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดว่า ที่ประชุมเห็นชอบ แต่งตั้งพนักงานระดับผู้บริหารของ ททท.ตามที่ยื่นเสนอ มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.53 เป็นต้นไป ได้แก่ ตำแหน่ง ระดับรองผู้ว่าการ ททท. มี 4 ตำแหน่งใหม่ ได้แก่ นายอุดม เมธาธำรงศิริ ที่ปรึกษาระดับ 10 เป็นรองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน , นายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ เป็นรองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด นายสรรเสริญ เงารังสี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ เป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ,นางวิไลวรรณ ทวิชศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินด้านบริหาร เป็นรองผู้ว่าการด้านบริหาร
ส่วนรองผู้ว่าที่มีอยู่เดิม ได้แก่ นางจุฑาพร เริงรณอาษา เป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกาและตะวันออกกลาง น.ส.เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านสินค้าการท่องเที่ยว นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ นอกจากนั้นยังแต่งตั้งระดับที่ปรึกษาและผู้อำนวยการฝ่าย อีกจำนวนหนึ่วงด้วย
***ลุ้นค่าตอบแทนวิชาชีพที่ปรึกษา11****
นอกจากนั้นที่ประชุมยังเห็นชอบ ภารกิจหน้าที่และค่าตอบแทน แก่นายอักกพล พฤกษะวัน ในตำแหน่งที่ปรึกษาระดับ 11 โดยให้ ทำงานควบคุมศูนย์บริหารและจัดการในภาวะวิกฤต(ศวก.) รวมถึงงานด้านการให้คำแนะนำในการจัดทำแผนกลยุทธ์ การพัฒนาสินค้าทางการท่องเที่ยว การสำรวจสินค้าและบริการเพื่อนำข้อมูลมาให้บริการด้านการท่องเที่ยว
สำหรับค่าตอบแทน สามารถได้เพิ่มขึ้นจากเงินเดือนประจำ คือ ในส่วนของค่าตอบแทนวิชาชีพวิชาการ ในอัตรา 18,000 บาท ต่อเดือน แต่ทั้งนี้จะต้องนำเข้าที่ประชุมบอร์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(ครส.) ที่มีรมว.กระทรวงแรงงานฯเป็นประธานจากนั้นจึงนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อขออนุมัติเป็นลำดับต่อไป
ในกรณีนี้แหล่งข่าวรายงานว่า เงินเดือนที่ปรึกษาระดับ 11 จะได้เทียบเท่ากับรองผู้ว่าการททท.หรือราว 120,000 บาท ต่อเดือน ส่วนค่าตอบแทนวิชาชีพ 18,000 บาท ที่จะเพิ่มให้นี้ ขึ้นอยู่กับว่า ครม.จะเห็นชอบหรือไม่ ถ้าไม่ผ่านก็จะไม่ได้ค่าตอบแทนในส่วนนี้ โดยคาดว่ากระบวนการพิจารณาจะราว 2-3 เดือน โดยถ้าผ่านก็มีผลย้อนหลังด้วย
นายวิชัย กล่าวอีกว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนดำเนินงานในครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2553 เพื่อให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของนายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการททท.คนใหม่ โดยมีการปรับสัดส่วนการใช้งบประมาณด้านการตลาดเป็นส่วนของการตลาดออนไลน์ 20% จากเดิม 10% และส่วนการตลาดปกติ จาก 90% เหลือ 80%
นายยุทธพล อังกินันทน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบอนุมัติรับโอน น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจาก น.ส.ศศิธารา ทำงานด้านการท่องเที่ยวและกีฬามานานมีความรู้ความสามารถดี และยังมีตำแหน่งในองค์การการท่องเที่ยวโลก(UNWTO)จึงมั่นใจจะสามารถเข้าไปช่วยสำนักนายกรัฐมนตรีในงานด้านการประสานงาน จะมีผลก็ต่อเมื่อนำชื่อเข้ารับการโปรดเกล้าเป็นที่เรียบร้อย
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นคาดว่านายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะทาบทามนายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เข้ามารับตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แทนน.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์
***ยันทำงานโปร่งใสชาติตระกูลการันตี****
ทางด้าน น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมีการโยกย้ายตนเข้าไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อ เป็นความต้องการของรัฐมนตรี และ ครม. ก็ยินดีปฎิบัติตาม เพราะที่ผ่านมา ก็ไม่เคยทำงานนอกคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว
“พี่มีนิสัยเชื่อฟังนายมาโดยตลอด และยืนยันทำในสิ่งที่ถูกต้องและโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยเฉพาะงานด้านการใช้งบประมาณการจัดซื้อจัดจ้าง รับประกันโดยชื่อเสียงและวงศ์ตระกูลของตัวเอง ไม่รู้จริงๆว่าถูกโยกย้ายครั้งนี้เพราะสาเหตุใด เพราะจริงๆก็ยังไม่ใช่ช่วงการโยกย้าย สำหรับตำแหน่งปลัดกระทรวง รับมาได้ 3 ปีแล้ว ยังเหลืออายุราชการอีก 6 ปีก็ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง ไม่เคยคิดว่าปลัดเป็นตำแหน่งที่สูงที่สุด แต่ต้องทำงานเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมตามภารกิจของข้าราชการประจำ ส่วนกรณีจะร้องเรียนขอความเป็นธรรมในการโยกย้ายครั้งนี้ต่อ ปปช.หรือไม่คงต้องขอคิดดูก่อน ซึ่งขณะเดียวกันตำแหน่งในเวทีระดับโลกก็จะสิ้นสุดไปกับการย้ายครั้งนี้ด้วย เช่น ประธานองค์การการท่องเที่ยวโลก ”
ความภูมิใจในการทำงานเป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว คือ สามารถทำภาระกิจการช่วยเหลือเยียวยาภาคเอกชนท่องเที่ยวและฟื้นฟูการท่องเที่ยว โดยทำงานร่วมกับทุกฝ่ายได้เป็นผลสำเร็จอย่างดี เช่น มาตรการเงินกู้ดอกเบี้ยตำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายกลางและย่อย การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบิน การทำงานด้านการสรรหาผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การพิจารณาภารกิจหน้าที่และค่าตอบแทนให้กับตำแหน่งที่ปรึกษาระดับ 11 ของ ททท. เป็นต้น
***ดึงคนใกล้ชิดคลุมทั้งกระทรวงท่องเที่ยว****
แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยว ระบุว่า การโยกย้าย น.ส.ศศิธารา ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในครั้งนี้ เป็นความต้องการของฝ่ายการเมืองที่กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยว โดยที่ผ่านมางานที่ น.ส.ศศิธารา ทำหลายอย่างไม่เป็นไปตามที่สั่งการ รวมถึงงานที่ น.ส.ศศิธารา เคยไปนั่งเป็นประธานบอร์ดอีลิทการ์ด ซึ่งมีกรณีจัดซื้อจัดจ้างรถประจำตำแหน่งให้กับผู้บริหาร
ขณะเดียวกัน เป็นการรุกคืบของพรรคการเมืองที่กำกับดูแลงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะทยอยปรับเปลี่ยนตำแหน่งข้าราชการระดับผู้อำนวยการและหัวหน้างาน โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจะเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดกับพรรคการเมืองนี้ และล่าสุด มีกระแสข่าวว่า นายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ก็เป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยเช่นกัน และเป็นเรื่องที่ไม่ทำกันบ่อยนักกับการย้ายข้าราชการข้ามกระทรวง และ นอกฤดูกาลโยกย้าย และเป็นการย้ายจากข้าราชการระดับ 10 ขึ้นเป็นข้าราชการระดับ 11 ทั้งที่ไม่ใช่ฤดูกาลโยกย้ายตามปีงบประมาณ
***บอร์ด ททท.เห็นชอบตั้ง 4 รองผู้ว่าการ
นายวิชัย ศรีขวัญ ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด)การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดว่า ที่ประชุมเห็นชอบ แต่งตั้งพนักงานระดับผู้บริหารของ ททท.ตามที่ยื่นเสนอ มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.53 เป็นต้นไป ได้แก่ ตำแหน่ง ระดับรองผู้ว่าการ ททท. มี 4 ตำแหน่งใหม่ ได้แก่ นายอุดม เมธาธำรงศิริ ที่ปรึกษาระดับ 10 เป็นรองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน , นายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ เป็นรองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด นายสรรเสริญ เงารังสี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ เป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ,นางวิไลวรรณ ทวิชศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินด้านบริหาร เป็นรองผู้ว่าการด้านบริหาร
ส่วนรองผู้ว่าที่มีอยู่เดิม ได้แก่ นางจุฑาพร เริงรณอาษา เป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกาและตะวันออกกลาง น.ส.เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านสินค้าการท่องเที่ยว นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ นอกจากนั้นยังแต่งตั้งระดับที่ปรึกษาและผู้อำนวยการฝ่าย อีกจำนวนหนึ่วงด้วย
***ลุ้นค่าตอบแทนวิชาชีพที่ปรึกษา11****
นอกจากนั้นที่ประชุมยังเห็นชอบ ภารกิจหน้าที่และค่าตอบแทน แก่นายอักกพล พฤกษะวัน ในตำแหน่งที่ปรึกษาระดับ 11 โดยให้ ทำงานควบคุมศูนย์บริหารและจัดการในภาวะวิกฤต(ศวก.) รวมถึงงานด้านการให้คำแนะนำในการจัดทำแผนกลยุทธ์ การพัฒนาสินค้าทางการท่องเที่ยว การสำรวจสินค้าและบริการเพื่อนำข้อมูลมาให้บริการด้านการท่องเที่ยว
สำหรับค่าตอบแทน สามารถได้เพิ่มขึ้นจากเงินเดือนประจำ คือ ในส่วนของค่าตอบแทนวิชาชีพวิชาการ ในอัตรา 18,000 บาท ต่อเดือน แต่ทั้งนี้จะต้องนำเข้าที่ประชุมบอร์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(ครส.) ที่มีรมว.กระทรวงแรงงานฯเป็นประธานจากนั้นจึงนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อขออนุมัติเป็นลำดับต่อไป
ในกรณีนี้แหล่งข่าวรายงานว่า เงินเดือนที่ปรึกษาระดับ 11 จะได้เทียบเท่ากับรองผู้ว่าการททท.หรือราว 120,000 บาท ต่อเดือน ส่วนค่าตอบแทนวิชาชีพ 18,000 บาท ที่จะเพิ่มให้นี้ ขึ้นอยู่กับว่า ครม.จะเห็นชอบหรือไม่ ถ้าไม่ผ่านก็จะไม่ได้ค่าตอบแทนในส่วนนี้ โดยคาดว่ากระบวนการพิจารณาจะราว 2-3 เดือน โดยถ้าผ่านก็มีผลย้อนหลังด้วย
นายวิชัย กล่าวอีกว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนดำเนินงานในครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2553 เพื่อให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของนายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการททท.คนใหม่ โดยมีการปรับสัดส่วนการใช้งบประมาณด้านการตลาดเป็นส่วนของการตลาดออนไลน์ 20% จากเดิม 10% และส่วนการตลาดปกติ จาก 90% เหลือ 80%