ว่ากันตรงไปตรงมา ลูกค้าธนาคารชื่อสมหวัง พึ่งก่อการ ก็เป็นลูกค้าคนหนึ่งที่เป็นหนี้ธนาคาร แต่เป็นลูกค้าชั้นเลวถึงเลวมาก
ธนาคารเองก็ไม่กล้าไปทำอะไรมากกว่าส่งเอกสารเร่งรัดให้เขามาใช้หนี้ ไม่ก็มีหมายศาลส่งไปปะไว้หน้าบ้าน (มีหลายบ้าน) ของนายสมหวัง พึ่งก่อการ อยู่เป็นระยะๆ
สมหวัง พึ่งก่อการ เป็นพ่อค้าโดยอาชีพ แต่เบื้องหลังค้าของเถื่อนทุกชนิดเรียกว่าทำมาหากินโดยทุจริต มีอย่างหนึ่งที่นายสมหวังไม่ทำ คือข้องแวะกับยาเสพติด ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมีคนเดียวจากภรรยาหมายเลขหนึ่ง ติดยาเสพติดทุกชนิดตั้งแต่อายุได้ 15 ปี ติดมาจนโตอายุ 20 กว่า
นอกจากลูกชายจะติดยาแล้ว ก็ติดการพนัน ขโมยเงินพ่อแม่ไปเข้าสนามม้า แทงหวย และเล่นป๊อกเด้งในบ่อนการพนันย่านประตูน้ำ
สมหวังไปเคลียร์หนี้ให้กับเจ้าพ่อรายหนึ่งใช้เงินฟาดเคราะห์ไป 3-4 ล้าน ไม่งั้นลูกตาย ต้องแลกด้วยเงินเท่านั้น ชีวิตของลูกจึงจะอยู่รอด
แต่สมหวังก็ไม่เบา เขาเป็นคนจังหวัดเพชรบุรี เคยอยู่กับนักเลงใหญ่มาก่อน การตีรันฟันแทงเขาทำมาแล้ว ไม่รวมการฆ่าคน สมหวังก็เคย เขายิงคนตายมาไม่น้อยกว่า 14-15 คน ในพื้นที่เพชรบุรี, ราชบุรีไปจนถึงเชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์
เวลานั้นเขาไม่ใช้ชื่อสมหวัง แต่โดนเรียกว่า ตี๋กลาง เพราะเขาเป็นลูกจีนคนกลางแต่ตัวใหญ่กว่าเพื่อน แค่อายุ 13 ปี เขากล้าชกครูจนปากแตกโดนไล่ออกจากโรงเรียน เขาไปรออาจารย์ใหญ่ พอได้โอกาสก็จ้วงแทงเข้าที่ซอกคอ เดชะบุญมันเฉียดซอกคอ แต่ไปปาดใบหูครูใหญ่จนเกือบขาด ดีที่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล เย็บแผลทันท่วงที ไม่เช่นนั้นก็หูขาด
เนื่องจากเวลาที่แทงมืดแล้ว และไม่มีคนเดินอยู่บนที่เกิดเหตุ อาจารย์ใหญ่เห็นหน้าไม่ถนัด แต่ก็เดาว่า คงเป็นเขานั่นแหละ
วันรุ่งขึ้นตำรวจมาถามถึงบ้าน ถามว่ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นหรือเปล่า
พ่อเขาบอกว่า ตั้งแต่บ่ายวันวานออกเรือ และกลับมาเมื่อเช้ามืดไปลอบจับปลาหมึกกับลูกเรืออีก 2 คน ตำรวจก็เชื่อ
ตี๋กลางทำตัวเป็นนักเลง แต่อยู่ในคุ้มเจ้าพ่อเมืองเพชรตั้งแต่สร้างวีรกรรมเฉือนหูอาจารย์ใหญ่อยู่หลายปี เขาเร่ร่อนไปภาคเหนือโดยร่วมขบวนการผลิตแบงก์ปลอมที่ดูยังไงก็รู้ว่าแบงก์ปลอม แบงก์ปลอมจำนวนหนึ่งเขานำออกมาจากชายแดนไปใช้ที่แม่สายซื้อของกินของใช้ได้แค่ 2-3 วันก็โดนจับ แต่ไม่โดนตัวเขาเพราะเขากลับมาฝั่งไทยแล้ว นอกจากที่แม่สายแล้ว แบงก์ปลอมยังระบาดตามชายแดนอื่นๆ อีกด้วย
แต่ในไม่ช้านานก็โดนจับได้อีก เพราะอย่างที่กล่าวแล้วว่า มันดูง่าย สีก็ตก แค่เอามือจับสีก็ติดมือแล้ว ขบวนการแบงก์ปลอมก็สิ้นสุดลง
ตี๋กลางหันมาจับการค้าของเถื่อนบริเวณชายแดน โดยให้เงินก้อนหนึ่งเพื่อผ่านด่านไม่ตรวจจับจากศุลกากรที่รับสินบน เป็นธุรกิจที่ทำให้ตี๋กลางจับเงินล้านเป็นครั้งแรก
เขาอายุ 18 มีเงินอยู่กับตัวถึง 4 ล้านกว่าบาท เวลานั้นเขาไม่คิดจะฝากธนาคาร เงินจำนวนนี้เขาทุ่มค้าของ เดือนต่อมาศุลกากรคนเก่าย้าย คนใหม่มาก็เสร็จตี๋กลางอีก เงินง้างได้ทุกราย
สั้นๆ เงินพูดได้ทั้งนั้น
ตี๋ใหญ่ค้าของเถื่อนอีก 4-5 ปี ถูกจับได้ 2 ครั้ง ทุกครั้งโยนให้ลูกน้องหมด ของที่จับได้ก็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยมูลค่าเป็นหมื่น ชิ้นใหญ่ไม่เคยโดนจับได้จนเขาร่ำรวยมีเงิน 17 ล้าน เมื่ออายุ 23 ปี เป็นหนุ่มใหญ่ขับรถเมอร์ซิเดสเบนซ์สีดำ แต่งสูทโก้ไปเลย แต่มองอย่างไร เขาก็เหมือนเจ๊กบ้านนอกที่อวดรวยเท่านั้น
ตี๋กลางพูดภาษาไทยคล่องชัดเจน พูดพม่า, เขมร และภาษาอังกฤษดีพอจะคุยกับฝรั่งได้ เงินจำนวน 17 ล้าน เขานำฝากธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การไว้ที่สำนักงานใหญ่ตามเจ้าพ่อเพชรบุรี เพราะเจ้าพ่อมีความสัมพันธ์กับฝ่ายบริหารคนหนึ่งซึ่งเป็นคนจังหวัดเดียวกัน
แต่ตี๋กลางยังมีเงินเหลือเพื่อหมุนเวียนอีก 2-3 ล้าน โดยเขายังค้าของเถื่อนอยู่อีกปีกว่า ตำรวจและศุลกากรคราวนี้ไม่เล่นด้วย เขาโดนจับได้ 4-5 ครั้ง เมื่อหมดหนทางที่จะคอร์รัปชันกับข้าราชการ เขาคิดว่าจะทำธุรกิจที่ถูกกฎหมายเสียที และจะกลับตัวเป็นพลเมืองดี
ตี๋กลางหรือนายสมหวัง นุกูลธนวัตร อยากจะขายรถยนต์บ้าง โดยไปพึ่งพาภาวีกิจที่ขณะนั้นขายรถมาสด้าเป็นที่หนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี ภาวีกิจก็ดีใจหาย พาเขาไปสำนักงานใหญ่ มาสด้าในกรุงเทพฯ โดยเข้าพบกรรมการผู้จัดการและท่านตกลงให้รถเขามาขาย 10 คัน
สมหวังคิดว่า ถ้าเขาขายที่เพชรบุรีเท่ากับไปแย่งลูกค้าภาวีกิจ จึงเห็นว่าควรไปขายที่ราชบุรี แม้ตลาดที่ราชบุรีจะเป็นของภาวีกิจ แต่ก็เป็นแค่ครึ่งเดียว และมีคู่แข่งมาก ร้านคู่แข่งนอกจากขายมาสด้าแล้ว ยังเป็นเอเยนต์ขายรถยนต์ฮอนด้าด้วย
เสี่ยฮะเป็นคนดี ธรรมะธัมโม ใจดีเป็นที่รักของคนทั้งจังหวัด รถยนต์ก็ให้ส่วนลดกับทางราชการ และลูกค้าถ้านำรถฮอนด้ารุ่นเก่ามาเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่
เสี่ยฮะจะให้ราคารถเก่าสูง และลดราคารถยนต์รุ่นใหม่ให้เพียงแต่ไม่ให้อุปกรณ์เพิ่มเติมเท่านั้น พูดง่ายๆ เสี่ยฮะปิดประตูแทบไม่มีที่ว่างให้นายสมหวังได้เกิดที่ราชบุรี
สมหวังไม่ท้อใจ เขาคิดอยู่หลายวัน ก็ได้คำตอบ (อ่านต่อวันพฤหัสฯ หน้า)
ธนาคารเองก็ไม่กล้าไปทำอะไรมากกว่าส่งเอกสารเร่งรัดให้เขามาใช้หนี้ ไม่ก็มีหมายศาลส่งไปปะไว้หน้าบ้าน (มีหลายบ้าน) ของนายสมหวัง พึ่งก่อการ อยู่เป็นระยะๆ
สมหวัง พึ่งก่อการ เป็นพ่อค้าโดยอาชีพ แต่เบื้องหลังค้าของเถื่อนทุกชนิดเรียกว่าทำมาหากินโดยทุจริต มีอย่างหนึ่งที่นายสมหวังไม่ทำ คือข้องแวะกับยาเสพติด ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมีคนเดียวจากภรรยาหมายเลขหนึ่ง ติดยาเสพติดทุกชนิดตั้งแต่อายุได้ 15 ปี ติดมาจนโตอายุ 20 กว่า
นอกจากลูกชายจะติดยาแล้ว ก็ติดการพนัน ขโมยเงินพ่อแม่ไปเข้าสนามม้า แทงหวย และเล่นป๊อกเด้งในบ่อนการพนันย่านประตูน้ำ
สมหวังไปเคลียร์หนี้ให้กับเจ้าพ่อรายหนึ่งใช้เงินฟาดเคราะห์ไป 3-4 ล้าน ไม่งั้นลูกตาย ต้องแลกด้วยเงินเท่านั้น ชีวิตของลูกจึงจะอยู่รอด
แต่สมหวังก็ไม่เบา เขาเป็นคนจังหวัดเพชรบุรี เคยอยู่กับนักเลงใหญ่มาก่อน การตีรันฟันแทงเขาทำมาแล้ว ไม่รวมการฆ่าคน สมหวังก็เคย เขายิงคนตายมาไม่น้อยกว่า 14-15 คน ในพื้นที่เพชรบุรี, ราชบุรีไปจนถึงเชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์
เวลานั้นเขาไม่ใช้ชื่อสมหวัง แต่โดนเรียกว่า ตี๋กลาง เพราะเขาเป็นลูกจีนคนกลางแต่ตัวใหญ่กว่าเพื่อน แค่อายุ 13 ปี เขากล้าชกครูจนปากแตกโดนไล่ออกจากโรงเรียน เขาไปรออาจารย์ใหญ่ พอได้โอกาสก็จ้วงแทงเข้าที่ซอกคอ เดชะบุญมันเฉียดซอกคอ แต่ไปปาดใบหูครูใหญ่จนเกือบขาด ดีที่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล เย็บแผลทันท่วงที ไม่เช่นนั้นก็หูขาด
เนื่องจากเวลาที่แทงมืดแล้ว และไม่มีคนเดินอยู่บนที่เกิดเหตุ อาจารย์ใหญ่เห็นหน้าไม่ถนัด แต่ก็เดาว่า คงเป็นเขานั่นแหละ
วันรุ่งขึ้นตำรวจมาถามถึงบ้าน ถามว่ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นหรือเปล่า
พ่อเขาบอกว่า ตั้งแต่บ่ายวันวานออกเรือ และกลับมาเมื่อเช้ามืดไปลอบจับปลาหมึกกับลูกเรืออีก 2 คน ตำรวจก็เชื่อ
ตี๋กลางทำตัวเป็นนักเลง แต่อยู่ในคุ้มเจ้าพ่อเมืองเพชรตั้งแต่สร้างวีรกรรมเฉือนหูอาจารย์ใหญ่อยู่หลายปี เขาเร่ร่อนไปภาคเหนือโดยร่วมขบวนการผลิตแบงก์ปลอมที่ดูยังไงก็รู้ว่าแบงก์ปลอม แบงก์ปลอมจำนวนหนึ่งเขานำออกมาจากชายแดนไปใช้ที่แม่สายซื้อของกินของใช้ได้แค่ 2-3 วันก็โดนจับ แต่ไม่โดนตัวเขาเพราะเขากลับมาฝั่งไทยแล้ว นอกจากที่แม่สายแล้ว แบงก์ปลอมยังระบาดตามชายแดนอื่นๆ อีกด้วย
แต่ในไม่ช้านานก็โดนจับได้อีก เพราะอย่างที่กล่าวแล้วว่า มันดูง่าย สีก็ตก แค่เอามือจับสีก็ติดมือแล้ว ขบวนการแบงก์ปลอมก็สิ้นสุดลง
ตี๋กลางหันมาจับการค้าของเถื่อนบริเวณชายแดน โดยให้เงินก้อนหนึ่งเพื่อผ่านด่านไม่ตรวจจับจากศุลกากรที่รับสินบน เป็นธุรกิจที่ทำให้ตี๋กลางจับเงินล้านเป็นครั้งแรก
เขาอายุ 18 มีเงินอยู่กับตัวถึง 4 ล้านกว่าบาท เวลานั้นเขาไม่คิดจะฝากธนาคาร เงินจำนวนนี้เขาทุ่มค้าของ เดือนต่อมาศุลกากรคนเก่าย้าย คนใหม่มาก็เสร็จตี๋กลางอีก เงินง้างได้ทุกราย
สั้นๆ เงินพูดได้ทั้งนั้น
ตี๋ใหญ่ค้าของเถื่อนอีก 4-5 ปี ถูกจับได้ 2 ครั้ง ทุกครั้งโยนให้ลูกน้องหมด ของที่จับได้ก็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยมูลค่าเป็นหมื่น ชิ้นใหญ่ไม่เคยโดนจับได้จนเขาร่ำรวยมีเงิน 17 ล้าน เมื่ออายุ 23 ปี เป็นหนุ่มใหญ่ขับรถเมอร์ซิเดสเบนซ์สีดำ แต่งสูทโก้ไปเลย แต่มองอย่างไร เขาก็เหมือนเจ๊กบ้านนอกที่อวดรวยเท่านั้น
ตี๋กลางพูดภาษาไทยคล่องชัดเจน พูดพม่า, เขมร และภาษาอังกฤษดีพอจะคุยกับฝรั่งได้ เงินจำนวน 17 ล้าน เขานำฝากธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การไว้ที่สำนักงานใหญ่ตามเจ้าพ่อเพชรบุรี เพราะเจ้าพ่อมีความสัมพันธ์กับฝ่ายบริหารคนหนึ่งซึ่งเป็นคนจังหวัดเดียวกัน
แต่ตี๋กลางยังมีเงินเหลือเพื่อหมุนเวียนอีก 2-3 ล้าน โดยเขายังค้าของเถื่อนอยู่อีกปีกว่า ตำรวจและศุลกากรคราวนี้ไม่เล่นด้วย เขาโดนจับได้ 4-5 ครั้ง เมื่อหมดหนทางที่จะคอร์รัปชันกับข้าราชการ เขาคิดว่าจะทำธุรกิจที่ถูกกฎหมายเสียที และจะกลับตัวเป็นพลเมืองดี
ตี๋กลางหรือนายสมหวัง นุกูลธนวัตร อยากจะขายรถยนต์บ้าง โดยไปพึ่งพาภาวีกิจที่ขณะนั้นขายรถมาสด้าเป็นที่หนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี ภาวีกิจก็ดีใจหาย พาเขาไปสำนักงานใหญ่ มาสด้าในกรุงเทพฯ โดยเข้าพบกรรมการผู้จัดการและท่านตกลงให้รถเขามาขาย 10 คัน
สมหวังคิดว่า ถ้าเขาขายที่เพชรบุรีเท่ากับไปแย่งลูกค้าภาวีกิจ จึงเห็นว่าควรไปขายที่ราชบุรี แม้ตลาดที่ราชบุรีจะเป็นของภาวีกิจ แต่ก็เป็นแค่ครึ่งเดียว และมีคู่แข่งมาก ร้านคู่แข่งนอกจากขายมาสด้าแล้ว ยังเป็นเอเยนต์ขายรถยนต์ฮอนด้าด้วย
เสี่ยฮะเป็นคนดี ธรรมะธัมโม ใจดีเป็นที่รักของคนทั้งจังหวัด รถยนต์ก็ให้ส่วนลดกับทางราชการ และลูกค้าถ้านำรถฮอนด้ารุ่นเก่ามาเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่
เสี่ยฮะจะให้ราคารถเก่าสูง และลดราคารถยนต์รุ่นใหม่ให้เพียงแต่ไม่ให้อุปกรณ์เพิ่มเติมเท่านั้น พูดง่ายๆ เสี่ยฮะปิดประตูแทบไม่มีที่ว่างให้นายสมหวังได้เกิดที่ราชบุรี
สมหวังไม่ท้อใจ เขาคิดอยู่หลายวัน ก็ได้คำตอบ (อ่านต่อวันพฤหัสฯ หน้า)