xs
xsm
sm
md
lg

พธม.ภูธรลุกฮือบุกยึดสนามบิน-ศาลากลางไล่รัฐบาลชั่วบีบ "หมัก" เลิก "พรก.ฉุกเฉิน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูมิภาค - พันธมิตรฯทุกภาคทั่วประเทศฮึ่ม! เคลื่อนไหวใหญ่พร้อมกันทั้งยกทัพเข้ากรุงเทพฯ สมทบคนกู้ชาติที่ทำเนียบฯและบุกยึดสถานที่สำคัญ โดยพันธมิตรฯสงขลานำกำลังหลายพันคนบุกปิดสนามบินหาดใหญ่อีกรอบ ส่วน "ภูเก็ต" บุกยึดศาลากลางจังหวัดและมีแผนที่จะยึดยาว โดยไม่ให้ ขรก.เข้าไปทำงาน ส่วนทาง "ภาคเหนือ-อีสาน-ตะวันออก" ทะลักเข้ากรุงเทพฯร่วมไล่รัฐบาลชั่ว-บีบ"หมัก" ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พร้อมประณามรัฐบาลสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเอง "ชิงชัย" เตือนทหารที่คิดจะใช้ความรุนแรงปราบประชาชนควรฉุกคิดให้ดี พร้อมแนะให้ไปกวาดล้างนักการเมืองโกงชาติง่ายกว่า

หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในยุครัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเมื่อตอนเช้าของวานนี้ (2 ก.ย.) กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วทุกภาคของประเทศไทยต่างออกมารวมตัวกันอย่างคึกคัก และมีการติดตามสถานการณ์การชุมนุมของพันธมิตรที่ทำเนียบรัฐบาลและบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์กันอย่างใกล้ชิด โดยไม่เห็นด้วยกับท่าทีของรัฐบาลที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเห็นว่าสถานการณ์การปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอีกหลายสิบรายนั้น ไม่รุนแรงถึงขนาดต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกฉิน และกลุ่มพันธมิตรฯก็ไม่ได้เป็นฝ่ายก่อความไม่สงบขึ้น

โดยกลุ่มพันธมิตรฯหลายจังหวัดได้ระดมกำลังเข้ากรุงเทพฯทันที เพื่อสมทบกับพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาลขับไล่รัฐบาลนายสมัคร ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯบางจังหวัดเลือกที่จะชุมนุมอยู่ในพื้นที่ด้วยการบุกเข้ายึดสนามที่ราชการ เช่น ศาลากลางจังหวัด และสนามบิน รวมทั้งมีการปิดถนนบางสายเพื่อกดดันให้นายสมัคร ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และลาออกอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยหากนายสมัคร ยังดื้อด้านต่อไปกลุ่มพันธมิตรฯก็จะไม่มีการสลายการชุมนุมอย่างเด็ดขาด

"พธม.ภูเก็ต"บุกยึดศาลากลาง

นายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงจุดยื่นในการเคลื่อนไหวภายหลังนำสมาชิกกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินฯ และพันธมิตรฯภูเก็ตจำนวนมาก เข้าชุมนุมที่บริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ตได้เป็นผลสำเร็จตั้งแต่ช่วงเช้าว่า การชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินฯและพันธมิตรฯภูเก็ตในครั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่กรุงเทพฯว่า นายสมัคร จะยกเลิกการใช้ความรุนแรงกับประชาชนเมื่อใด โดยเฉพาะการยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินฯและพันธมิตรฯภูเก็ตในครั้งนี้ว่า มีความคึกคักอย่างมาก และมีผู้ชุมนุมจากกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ภูเก็ต ทยอยเดินทางมาสมทบอย่างต่อเนื่อง ทั้งนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต นักศึกษาจากเทคนิคภูเก็ต และประชาชนทั่วไป โดยมีการเปิดเสียงถ่ายทอดสดจากเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล และมีการตั้งจอโปรเจกเตอร์รับสัญญาณการถ่ายทอดสดจาก ASTV ให้ผู้เข้าชุมนุมได้รับทราบข้อมูลข่าวสารด้วย พร้อมกับมีการตั้งเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาล

นอกจากนี้ กลุ่มแกนนำยามเฝ้าแผ่นดินฯ และพันธมิตรฯภูเก็ต ยังได้จัดรถบัสจำนวน 15 คันนำประชาชนในพื้นที่ภูเก็ต เดินทางไปร่วมชุมนุมที่ทำเนียบฯกับพันธมิตรฯส่วนกลางด้วย

ขณะเดียวกันกลุ่มพันธมิตรฯในพื้นที่ จ.พังงา กว่า 200 คนได้เดินทางมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯภูเก็ตที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตด้วยเพื่อร่วมกดดันให้นายสมัคร ลาออก และยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉิน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับความเคลื่อนไหวในวันนี้ (3 ก.ย.) กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินฯและพันธมิตรฯภูเก็ต มีแผนที่จะทำการปิดศาลากลางจังหวัดเช่นเดียวกับที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้ข้าราชการเข้ามาทำงานภายในศาลากลางจังหวัดตามมติคณะกรรมการยามเฝ้าแผ่นดินฯละพันธมิตรฯภูเก็ต ที่ได้ประชุมเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ด้วยที่จะไม่ให้ข้าราชการเข้ามาทำงานภายในศาลากลางจนกว่านายสมัคร จะเลิกใช้ความรุนแรงกับประชาชนและลาออกไปโดยการปิดประตูทุกด้านกันไม่ให้ข้าราชการเข้ามา

ส่วนการรักษาความปลอดภัยนั้นจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทางพันธมิตรฯ แบ่งกำลังดูแลความปลอดภัยเป็นจุดๆ เพื่อที่จะสกรีนประชาชนก่อนที่จะเข้ามาภายในศาลากลาง ด้วยการตรวจเช็คกระเป๋า อาวุธ และของมึนเมา หรือพบก็จะไม่ให้เข้ามาภายในบริเวณที่ชุมนุมและจะเชิญตัวออกไป

สงขลาปิดสนามบินหาดใหญ่

ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯสงขลา ได้มีการเคลื่อนขบวนพลังมหาชนกว่า 1,000 คนไปทำการปิดเส้นทางเข้า-ออกสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อประท้วงและขับไล่รัฐบาลนายสมัคร อย่างคึกคักเช่นกัน นำโดยนายเอกชัย อิสระทะ โฆษกพันธมิตรฯสงขลา และนายสาโรจน์ รักษ์จันทร์ กรรมการสหภาพรัฐวิสาหกิจรถไฟ สาขาหาดใหญ่

ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าจนกระทั่งค่ำ บรรยากาศของการชุมนุมปิดถนนเส้นทางเข้า-ออกสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ เป็นไปอย่างคึกคักและสงบเรียบร้อย โดยประชาชนในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และใกล้เคียงที่เสร็จสิ้นภาระกิจการงานทยอยเดินทางเข้ามาสมทบอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของนักศึกษาของ จ.สงขลา หลังทราบข่าวการเคลื่อนเวทีพันธมิตรฯสงขลา ซึ่งย้ายจากหน้าลานสถานีรถไฟหาดใหญ่ ก็ได้ทยอยเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมและขึ้นเวทีหน้าสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ ทั้งจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, โรงเรียนหาดใหญ่บริหารธุรกิจสากล, วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ และมหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา เป็นต้น

ด้านการดูแลความปลอดภัยของสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ ซึ่งตลอดทั้งวันได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในพื้นที่รับผิดชอบและใกล้เคียงมาตั้งแถว พร้อมโล่ห์หน้าประตูทางเข้า-ออกห่างจากเวทีพันธมิตรฯเพียง 3 เมตร เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

ส่วนภายในประตูมีลวดหนามเพื่อป้องกันอีกชั้นหนึ่งและมีการสลับกำลังตลอดทุก 1 ชั่วโมง โดยก่อนหน้านี้มีข้อตกลงซึ่งกันและกันว่า กลุ่มพันธมิตรฯที่ชุมนุมจะอยู่โดยสันติ ไม่มีการดื่มสุรา ไม่มีการบุกเข้ามาในพื้นที่สนามบิน หากท่าอากาศยานหาดใหญ่ยุติสายการบินทุกเส้นทาง เพื่อเปิดโอกาสให้พันธมิตรฯสงขลาได้กดดันรัฐบาลให้ลาออกโดยเร็ว และตั้งแต่ช่วงบ่ายของวานนี้สายการบิน แอร์เอเชีย นกแอร์ ก็ได้ยุติการบินสู่หาดใหญ่เป็นการชั่วคราวแล้ว

กระบี่บุกศาลากลางจังหวัด

เช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตรฯกระบี่ ได้มีการเข้าไปชุมนุมที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ จำนวนหลายร้อยคน พร้อมมีการโบกธงและส่งเสียงเชิญชวนให้ประชาชนออกมารวมตัวกันที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัด ซึ่งก็ได้มีประชาชนจำนวนมากจากหลายสาขาอาชีพ ได้ทอยอออกมาร่วมชุมนุมอย่างคึกคัก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 20 นาย คอยเฝ้าดูและสังเกตการณ์

ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยในบริเวณศาลากลางจังหวัดกระบี่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ และอาสาสมัคร ได้นำแผงเหล็กมากั้นไว้ในบริเวณประตูด้านหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มพันธมิตรฯเข้าไปด้านในศาลากลางจังหวัดอย่างเข้มงวด

นายจเร แก้วสม ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯกระบี่ กล่าวว่า การเดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดครั้งนี้เพื่อเป็นการระดมพลของกลุ่มพันธมิตรฯกระบี่ หลังจากที่นายสมัคร ได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในเขตกรุงเทพฯ ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯกระบี่ต้องรวมตัวกันเพื่อที่จะร่วมเดินทางไปสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาล

"การเดินทางมารวมตัวที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ของเรา ไม่ได้เดินทางมาเพื่อปิดศาลากลางจังหวัดแต่อย่างใด แต่เดินทางมาเพื่อกดดันรัฐบาลเท่านั้นและในส่วนที่จะปิดสนามบินก็ได้ยกเลิกแล้ว เพราะไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน" นายจเร กล่าว

สรส.ขอนแก่นกว่าพันร่วมพธม.

ที่ห้องประชุมบริษัท แคท เทเลคอม จำกัด สาขาขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายวิษณุ สีหราช รองเลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) สาขาขอนแก่น พร้อมสมาชิก สรส.ขอนแก่น ได้ร่วมกันแถลงข่าวว่า องค์กรรัฐวิสาหกิจจำนวน 32 องค์กร ซึ่งได้ร่วมประกาศจุดยืนบนเวทีพันธมิตรฯไปแล้วเมื่อค่ำวันที่ 1 ก.ย. และล่าสุดวานนี้ สรส.สาขาขอนแก่น ได้ประชุมสมาชิกด่วนเพื่อหามติร่วมกันจากกรณีที่รัฐบาลหนุน นปช.ให้ออกมาปะทะกับพันธมิตรฯ โดยที่ประชุมได้มีมติร่วมกันในการเข้าร่วมชุมนุมของพันธมิตรฯ และจะหยุดงานพร้อมกัน

"สมาชิก สรส.ขอนแก่นจาก 2 องค์กรหลัก คือ การประปาส่วนภูภาค และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ยื่นใบลางานเพื่อเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯตั้งแต่เวลา 12.00 น.วานนี้รวมกว่า 1,000 คนและยังมีสมาชิก สรส.ที่ถือเป็นคลื่นนิ่งหรือพลังเงียบอีกจำนวนมาก"

ส่วนมาตรการที่ สรส.ขอนแก่น จะมีการตัดน้ำตัดไฟนั้น นายวิษณุชี้แจงว่า หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้นโดยรัฐบาลเป็นผู้ทำให้เกิดความสูญเสีย หน่วยงานราชการใน จ.ขอนแก่น เช่น ศาลากลางจังหวัด และสถานีตำรวจ เป็นต้น จะถูกตัดน้ำ ตัดไฟ และตัดระบบการสื่อสารแน่นอน แต่ สรส.จะไม่ตัดน้ำตัดไฟ บ้านเรือนราษฎร เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องเดือดร้อน

สำหรับความเคลื่อนไหวของชาว จ.ขอนแก่นวานนี้ ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯแล้วจำนวนมาก แม้ว่าจะมีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่กลุ่มประชาชนชาวขอนแก่นดังกล่าวเห็นว่า ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินดังกล่าวไม่ชอบธรรม จึงต้องเข้าไปร่วมแสดงพลังต่อต้านรัฐบาลทรราชที่ทำเนียบฯให้ถึงที่สุด โดยยังมีประชาชนทยอดเข้ามาลงชื่อเดินทางเข้าไปกรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง

พธม.ขอนแก่นประณามทรราช

ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น กลุ่มพันธมิตรฯขอนแก่น นำโดยนายสมภพ บุนนาค นายพานิช เตียสวัสดิ์ นายขจรศักดิ์ ลีฬหานาจ และนายฉัตรชัย อึงสถิตถาวร พร้อมด้วยสมาชิกกว่า 50 คน ร่วมกันแถลงการณ์กรณีที่รัฐบาลออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

นายพานิช กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลนายสมัครประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่ออาศัยเป็นข้ออ้างในการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯที่ชุมนุมกันโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ที่บริเวณหน้าทำเนียบฯและสะพานมัฆวานรังสรรค์นั้น เหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุม นปช.จำนวนมาก เคลื่อนย้ายจากสนามหลวงพร้อมด้วยอาวุธมาทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ ถือเป็นการสร้างสถานการณ์ของรัฐบาลเพื่อต้องการประกาศภาวะฉุกเฉิน นำมาใช้เป็นเครื่องมือสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ถือเป็นประกาศที่ไม่ชอบธรรม

"รัฐบาลนายสมัคร จะต้องยุติ พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยทันทีและรัฐบาลต้องไม่ทำร้ายประชาชนทั้งที่ทำเนียบฯและบริเวณสะพานมัฆวานฯ หากมีเหตุการณ์ทำร้ายประชาชนเกิดขึ้น พันธมิตรฯขอนแก่น จะเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรง จุดยืนพันธมิตรฯ ขอนแก่น ต้องการให้รัฐบาลนายสมัคร ลาออกและยุติบทบาทการบริหารประเทศโดยทันที" นายพานิช กล่าว

"ชิงชัย"แนะทหารปราบคนโกงชาติ

นายชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินเกิดขึ้นตามที่หลายฝ่ายได้คาดเอาไว้เนื่องจากสถานการณ์มีความรุนแรง มีความพยายามในการยั่วยุจาก 2 ฝ่ายอย่างชัดเจน ซึ่งเกิดปัญหาที่รัฐบาลนายสมัคร ควรที่จะรับผิดชอบ แต่กลับมีท่าทีที่นิ่งเฉยไม่สนใจพลังมวลชนที่ไม่ยอมรับแล้วอ้างไปในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาสังคม การประกาศภาวะฉุกเฉินจึงเป็นไปตามกระบวนการการเมืองจากนายสมัคร ที่ไม่มีความรับผิดชอบในทุกกรณี เพราะการประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นการโยนความรับผิดชอบให้กับฝ่าย ราชการ โดยเฉพาะทหารที่เมื่อมีการประกาศมาตรการนี้ออกมาก็จะต้องออกไปดำเนินการในการปราบปรามฝูงชน

"พฤติกรรมนี้รัฐบาลได้โยนความรับผิดชอบไปให้ทหารจะด้วยเหตุผลใดหรือไม่นั้นในส่วนตัวมองว่า เป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยิ่ง ทั้งที่จริงนายสมัคร ควรจะประกาศลาออกหรือยุบสภาฯเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน แต่กลับไม่ทำ ซ้ำร้ายกลับมีการเคลื่อนไหวจะด้วยคำสั่งหรือไม่ให้ประชาชนออกไปปะทะ ทำร้ายร่างกายกัน จนทำให้เกิดการตาย แล้วก็อาศัยจังหวะนี้ประกาศภาวะฉุกเฉิน" นายชิงชัย กล่าว

นายชิงชัย กล่าวต่อว่า ในการประกาศภาวะฉุกเฉินนั้น หน้าที่ของทหารก็คือการปราบปรามฝูงชนที่จะต้องทำตามหน้าที่ แต่ในส่วนตัวมองว่า ทหารถึงแม้จะได้รับคำสั่งมาก็ไม่ควรที่จะไปทำร้ายประชาชนหรือปราบปรามฝูงชน ซึ่งก็ควรจะรู้ด้วยตัวเองว่าการเคลื่อนไหวนั้น พันธมิตรฯมีความชอบธรรมอย่างไร จึงของเตือน ทหารที่มีความคิดจะปราบฝูงชนว่า ปัญหาความวุ่นวายทั้งหมดก็เกิดจากนักการเมืองที่คดโกงประเทศชาติ

อีกทั้งการกวาดล้างประชาชนโดยทหารก็ไม่เคยมีประวัติศาสตร์ชาติใดระบุว่า เมื่อมีการกวาดล้างประชาชนจะได้รับชัยชนะจะมีก็แต่สงครามกลางเมือง อีกทั้งสมรภูมิที่กรุงเทพฯก็ไม่เหมาะสมเพราะจะไปกระทบต่อประเทศในทุกด้าน แต่หากทหารคิดที่จะหยุดเหตุการณ์นี้ก็ควรจะหันไปปราบนักการเมือง จะง่ายกว่า เพราะนักการเมืองมีไม่กี่คนแต่ได้สร้างปัญหาให้กับประเทศชาติอย่างหนักอยู่ในขณะนี้

พันธมิตรฯเหนือบนยกทัพเข้ากรุง

นายสมโชค จันทร์ทอง แกนนำพันธมิตรฯลำปาง เลขาธิการพันธมิตรฯภาคเหนือตอนบน เปิดเผยว่า ขณะนี้พันธมิตรฯภาคเหนือตอนบนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนประชาชนในพื้นที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯสมทบการชุมนุมใหญ่หน้าทำเนียบฯอย่างต่อเนื่อง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ จ.ลำปาง มี พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ "มือปราบตี๋ใหญ่" ที่เป็นแกนนำหลักของภาคเหนือตอนบนดูแลอยู่ โดยเราได้เตรียมรถบริการไม่อั้นเพื่อบริการแก่พันธมิตรฯลำปาง และ 14 จังหวัดภาคเหนือที่จะร่วมเดินทางไปสมทบที่กรุงเทพฯ

ด้านนายสมเกียรติ โสภณพงษ์พิพัฒน์ แกนนำพันธมิตรฯภาคเหนือตอนล่าง เปิดเผยว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาลถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติเงียบโดยฝ่ายรัฐบาล ดังนั้น เครือข่ายพันธมิตรเหนือล่างจึงไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าวของรัฐบาลที่ผลักให้ทหารออกมาเผชิญหน้ากับประชาชน เป็นหนังหน้าไฟให้กับรัฐบาลนายสมัคร

ขณะที่พันธมิตรฯตากและแม่สอดได้เดินทางด้วยรถตู้และรถยนต์ส่วนตัว เดินทางเข้ากรุงเทพฯ จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจ ร้านค้า ในตัวเมืองแม่สอด และ อ.เมืองตาก โดยการเดินทางมีการประสานกันเฉพาะกลุ่มเท่านั้นเพื่อป้องกันการสกัดกั้นจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ

มีรายงานว่า ทางฝ่ายปกครองของจังหวัดตาก ได้มีคำสั่งไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.ไปทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ไม่ให้เดินทางเข้าร่วมกับฝ่ายพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ เพราะเกรงจะได้รับอันตรายจากสถานการณ์ที่อาจจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ

พธม.กำแพงฯระดมคนไม่หยุด

ที่ จ.กำแพงเพชร เครือข่ายประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดกำแพงเพชร ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่ริมแม่น้ำปิง ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมของเครือข่ายพันธมิตรฯ ทยอยขึ้นรถตู้และรถบัส เดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯ โดยไม่สนใจว่าจะมีประกาศใช้พระราชกำหนดฉุกเฉิน

นายนงค์รัก มหานิน หนึ่งในเครือข่ายประชาชนฯกำแพงเพชร กล่าวว่า เดินทางกลับมาจังหวัดกำแพงเพชร เมื่อกลางดึกของวันที่ 2 ก.ย.แต่เมื่อมีการปะทะกันระหว่างพันธมิตรฯกับ นปช.มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงเดินทางกลับไปรวมชุมนุมที่ทำเนียบฯร่วมกับพันธมิตรฯ แม้รู้ว่าจะพบกันอันตรายต่อชีวิต แต่ทุกคนที่เข้าร่วมก็ยอมตายเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
สำหรับการเดินทางไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ของเครือข่ายประชาชนฯกำแพงเพชร มีจำนวน 600-700 คน โดยสลับหมุนเวียนกันไปรวมชุมนุมตลอดเวลาและวานนี้ได้มีผู้ร่วมบริจาค เงินสดสิ่งของ ทั้งเครื่องดื่มและน้ำขวดจำนวนมากไปมอบให้กับพันธมิตรฯ

พันธมิตรฯตอ.ทะลักเข้ากรุงทั้งวัน

ส่วนกลุ่มพันธมิตรฯภาคตะวันออก ประกอบด้วย จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา สระแก้ว และปราจีนบุรี ก็มีการเคลื่อนไหวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ อย่างคึกคักเช่นกัน โดยมีรถยนต์คอยให้บริการตลอด

นายประสิทธิ์ กาลานุกาล พันธมิตรฯชลบุรี กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯชลบุรีได้เดินทางออกจาก จ.ชลบุรีทันทีหลังเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายอันเนื่องมาจาก นปช. และการเข้าไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ผ่านมา พันธมิตรฯชลบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงก็ได้เข้าไปร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่องและปัญหาต่างๆ ที่รัฐบาลประกาศมานั้นกลุ่มพันธมิตรฯไม่ปฏิบัติตามอย่างแน่นอน โดยจะใช้รูปแบบอารยะขัดขืนต่อสิ่งที่เกิดขึ้นทุกรูปแบบ ที่สำคัญหากกลุ่มพันธมิตรฯที่รวมตัวเรียกร้องในครั้งนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ก็จะไม่หยุดชุมนุมอย่างแน่นอน

นายสุทธิ อัชฌาศัย แกนนำพันธมิตรฯระยอง กล่าวว่า ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯในพื้นที่ภาคตะวันออกได้ทยอยเข้าไปร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง เพราะเห็นว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะที่นายสมัคร ประกาศว่าจะปิดสถานีโทรทัศน์ ASTV ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯได้เดินทางไปร่วมชุมนุมที่บริเวณสำนักงาน ASTV และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากกลุ่มพันธมิตรฯจากจังหวัดดังกล่าวแล้ว ยังมีกลุ่มพันธมิตรฯจากจังหวัดอื่นๆ เช่น จ.กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง ชัยนาท สิงบุรี สระบุรี นครนายก เป็นต้น ก็ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯจำนวนมากเช่นกัน โดยมีรถให้บริการตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าวานนี้ ทำให้บรรยากาศภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาลและสะพานมัฆวานฯวานนี้คึกคีกไปด้วยผู้คน
กำลังโหลดความคิดเห็น