ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เริ่มดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นป้องกันการกัดเซาะตลิ่งชายหาดชลาทัศน์แหลมสมิหลาสงขลา ตอนที่ 2 ความยาว 800 เมตร งบประมาณ 46 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานคความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นป้องกันการกัดเซาะตลิ่งชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลาสงขลา ตอนที่ 2 ความยาว 800 เมตรของกรมโยธาธิการ งบ 46 ล้านบาท ว่า ขณะนี้บริษัทรับเหมาก่อสร้างเริ่มดำเนินการก่อสร้าง โดยได้นำอุปกรณ์การก่อสร้าง ซึ่งเป็นถุงทรายวัสดุประดิษฐ์ เพื่อใช้ทดแทนหินขนาดใหญ่ทำจากแผ่นใยสังเคราะห์ (Geotextile) มาลงที่จุดก่อสร้าง โดยจะก่อสร้างต่อจากเขื่อนเดิมที่ทำการก่อสร้างไปเรียบร้อยระยะทาง 250 เมตร
เขื่อนกันคลื่นป้องกันการกัดเซาะตลิ่งชายหาดชลาทัศน์ เป็นเขื่อนแบบใช้ถุงทรายวางเรียงซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ ขนานไปกับแนวชายหาด เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล โดยเรียงถุงทรายให้ด้านหน้าลาดเอียง เพื่อลดแรงสะท้อนกลับของคลื่นและลดการกัดเซาะฐานเขื่อนด้านหน้า การก่อสร้างเขื่อนแบบถุงทรายจะก่อสร้างใต้ชายหาด เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วจะถมกลับด้วยทรายเพื่อให้ชายหาดมีความสวยงามเช่นเดิม
สำหรับถุงทราย เป็นวัสดุประดิษฐ์เพื่อใช้ทดแทนหินขนาดใหญ่หรือก้อนหินคอนกรีต มีหน้าที่รับแรงกระแทกของคลื่นทะเล โดยใช้แผ่นใยสังเคราะห์ (Geotextile) มาเย็บขึ้นเป็นถุงให้มีขนาดใหญ่พอที่จะรับแรงกระแทกของคลื่นทะเลได้ การก่อสร้างจะบรรจุทรายเต็มถุงและเรียงเป็นชั้นๆ ขนานไปกับแนวชายหาด ซึ่งสามารถป้องกันการกัดเซาะชายหาดสมิหลาสงขลาได้ถึง 80% และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาชายหาดสมิหลาถนนชลาทัศน์ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในช่วงฤดูมรสุมอย่างหนัก จนทำให้ชายหาดชลาทัศน์ได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพด้านการท่องเที่ยว จึงได้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นป้องกันชายหาดสมิหลาอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานคความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นป้องกันการกัดเซาะตลิ่งชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลาสงขลา ตอนที่ 2 ความยาว 800 เมตรของกรมโยธาธิการ งบ 46 ล้านบาท ว่า ขณะนี้บริษัทรับเหมาก่อสร้างเริ่มดำเนินการก่อสร้าง โดยได้นำอุปกรณ์การก่อสร้าง ซึ่งเป็นถุงทรายวัสดุประดิษฐ์ เพื่อใช้ทดแทนหินขนาดใหญ่ทำจากแผ่นใยสังเคราะห์ (Geotextile) มาลงที่จุดก่อสร้าง โดยจะก่อสร้างต่อจากเขื่อนเดิมที่ทำการก่อสร้างไปเรียบร้อยระยะทาง 250 เมตร
เขื่อนกันคลื่นป้องกันการกัดเซาะตลิ่งชายหาดชลาทัศน์ เป็นเขื่อนแบบใช้ถุงทรายวางเรียงซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ ขนานไปกับแนวชายหาด เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล โดยเรียงถุงทรายให้ด้านหน้าลาดเอียง เพื่อลดแรงสะท้อนกลับของคลื่นและลดการกัดเซาะฐานเขื่อนด้านหน้า การก่อสร้างเขื่อนแบบถุงทรายจะก่อสร้างใต้ชายหาด เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วจะถมกลับด้วยทรายเพื่อให้ชายหาดมีความสวยงามเช่นเดิม
สำหรับถุงทราย เป็นวัสดุประดิษฐ์เพื่อใช้ทดแทนหินขนาดใหญ่หรือก้อนหินคอนกรีต มีหน้าที่รับแรงกระแทกของคลื่นทะเล โดยใช้แผ่นใยสังเคราะห์ (Geotextile) มาเย็บขึ้นเป็นถุงให้มีขนาดใหญ่พอที่จะรับแรงกระแทกของคลื่นทะเลได้ การก่อสร้างจะบรรจุทรายเต็มถุงและเรียงเป็นชั้นๆ ขนานไปกับแนวชายหาด ซึ่งสามารถป้องกันการกัดเซาะชายหาดสมิหลาสงขลาได้ถึง 80% และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาชายหาดสมิหลาถนนชลาทัศน์ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในช่วงฤดูมรสุมอย่างหนัก จนทำให้ชายหาดชลาทัศน์ได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพด้านการท่องเที่ยว จึงได้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นป้องกันชายหาดสมิหลาอย่างต่อเนื่อง
