ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เทศบาลนครสงขลาเร่งนำกระสอบทรายกว่า 30,000 ถุง ทยอยเสริมโคนต้นสนริมชายหาดเพื่อป้องกันต้นสนล้ม หลังจากล้มมาแล้วกว่า 10 ต้น และนำกระสอบทรายกั้นคลื่นตลอดแนวชายฝั่งกว่า 1 กิโลเมตร ป้องกันการกัดเซาะชายหาด และคาดว่าจะต้องให้กระสอบทรายกว่า 50,000 ถุงถึงจะเพียงพอ
วันนี้ (8 พ.ย.) ที่บริเวณชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลาสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายวิชากร บัวหอม ปลัดเทศบาลนครสงขลา ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครสงขลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการนำถุงกระสอบทราย 30,000 ถุง ทยอยมาเสริมโคนต้นสนที่อยู่ชิดริมชายหาดเพื่อป้องกันไม่ให้ต้นสนล้มเพิ่มลงไปอีก หลังจากเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา ต้นสนขนาดใหญ่ริมชายหาดถูกคลื่นลมแรงซัดกระหน่ำล้มไปแล้วกว่า 10 ต้น
นอกจากการเสริมโคนต้นสนแล้ว ทางเทศบาลนครสงขลาได้นำถุงกระสอบทรายซ้อนเป็นเขื่อนกั้นคลื่นตลอดแนวชายหาดชลาทัศน์แหลมสมิหลาสงขลา ความยาวเกือบ 1 กิโลเมตร เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายหาด ในปีนี้ได้มีการนำยางรถยนต์ที่ใช้แล้วมาวางเสริมใต้เขื่อนเพื่อลดแรงกระแทกของคลื่นป้องกันไม่ให้พัดพาดินทรายลงไปในทะเล เนื่องจากการก่อสร้างเขื่อนกั้นคลื่นป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง ของกรมโยธาธิการ ความยาว 800 เมตร งบประมาณ 46 ล้านบาท ซึ่งได้มีการเซ็นสัญญาไปเรียบร้อยแล้ว ยังไม่มีการเริ่มดำเนินการแต่อย่างใด ทำให้ทางเทศบาลนครสงขลาจำเป็นต้องพึ่งตนเองเพื่อรักษาชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลาและต้นสนริมชายหาดไว้ให้ได้
นายวิชากร บัวหอม ปลัดเทศบาลนครสงขลา ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครสงขลา กล่าวว่าสำหรับในช่วงฤดูมรสุมปีนี้ ทางเทศบาลนครสงขลา คาดว่า จะต้องใช้ถุงกระสอบทรายจำนวน 50,000 ถุง วางเรียงตลอดแนวชายหาดสมิหลาระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร ในงวดแรกนี้ จำนวน 30,000 ถุง เสริมโคนต้นสนที่อยู่ชิดริมชายหาดเพื่อป้องกันไม่ให้ต้นสนล้มเพิ่มลงไปอีกและนำถุงกระสอบทรายวางบริเวณชายหาดที่ถูกน้ำกัดเซาะมากก่อนและซ่อมเสริมส่วนที่ถุงกระสอบถูกคลื่นซัดเสียหายเมื่อปีที่ผ่านมาให้อยู่ในสภาพที่เป็นเขื่อนป้องกันคลื่นแบบสมบูรณ์สามารถกั้นคลื่นได้อย่างเต็มที่ การใช้ถุงกระสอบทรายทำเขื่อนกั้นคลื่นป้องกันการกัดเซาะตลิ่งชายหาดชลาทัศน์แหลมสมิหลาสงขลาเหมือนเช่นทุกปีที่เทศบาลนครสงขลาเคยทำมาแล้วและได้ผลระดับหนึ่ง สามารถป้องกันลดแรงกระแทกของคลื่นในช่วงฤดูมรสุมได้
