ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เทศบาลนครสงขลาเร่งก่อสร้างเขื่อนกั้นคลื่นชายหาดสมิหลาตอนที่ 2 ความยาว 800 เมตร ระบุเสร็จทันก่อนฤดูมรสุมปีนี้ สามารถป้องกันการกัดเซาะได้ถึง 80%
นายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศมนตรีนครสงขลา เปิดเผยว่า ปีนี้กรมโยธาธิการใช้งบประมาณ 46 ล้านบาท สร้างเขื่อนกั้นคลื่นป้องกันการกัดเซาะตลิ่งชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลาสงขลา ตอนที่ 2 ความยาว 800 เมตร ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จทันก่อนฤดูมรสุมปีนี้ เนื่องจากการสร้างเขื่อนแบบนี้ใช้เวลาก่อสร้างไม่นาน ขณะนี้ผู้รับเหมาเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ในการก่อสร้างพร้อมลงพื้นที่ก่อสร้างแล้ว
ในช่วงฤดูมรสุมที่ผ่านมา เขื่อนกั้นคลื่นป้องกันการกัดเซาะตลิ่งชายหาดชลาทัศน์แหลมสมิหลาสงขลา ของกรมโยธาธิการ ระยะทาง 250 เมตร ใช้งบ 7 ล้านบาท สามารถป้องกันการกัดเซาะชายหาดสมิหลาสงขลาได้ถึง 80% ตลอดความยาวเขื่อนนี้ไม่มีการกัดเซาะชายฝั่ง และเตรียมที่จะสำรวจออกแบบเขื่อนกั้นคลื่นป้องกันการกัดเซาะตลิ่งชายหาดชลาทัศน์ ตอนที่ 3 อีก 1,000 เมตรต่อเนื่องอีกในปี 2553
สำหรับเขื่อนกั้นคลื่นป้องกันการกัดเซาะตลิ่งชายหาดชลาทัศน์ เป็นเขื่อนแบบใช้ถุงทรายวางเรียงซ้อนทับกันเป็นชั้นๆขนานไปกับแนวชายหาด เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล โดยเรียงถุงทรายให้ด้านหน้าลาดเอียง เพื่อลดแรงสะท้อนกลับของคลื่นและลดการกัดเซาะฐานเขื่อนด้านหน้า
การก่อสร้างเขื่อนแบบถุงทรายจะก่อสร้างใต้ชายหาด เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วจะถมกลับด้วยทรายเพื่อให้ชายหาดมีความสวยงามเช่นเดิม เนื่องจากชายหาดสมิหลาสงขลา ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัด แต่ในระยะ 5-6 ปีที่ผ่านมา ชายหาดสมิหลา ถนนชลาทัศน์ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในช่วงฤดูมรสุมทุกปี จนทำให้ชายหาดชลาทัศน์ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพด้านการท่องเที่ยว
ทำให้หลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ เร่งดำเนินการป้องกันชายหาดชลาทัศน์แหลมสมิหลาสงขลาอย่างจริงจัง ก่อนที่ชายหาดจะถูกคลื่นกัดเซาะหายไปหมด โดยมีกรมโยธาธิการเป็นตัวหลัก ในการดำเนินการร่วมกับเทศบาลนครสงขลาได้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นป้องกันชายหาดสมิหลาอย่างต่อเนื่อง ใช้งบกว่า 53 ล้านบาท