ตาก - เมืองตากเริ่มขีดวงย่านเขตเศรษฐกิจใหม่ กำหนด 3 พื้นที่ตั้งเมืองเศรษฐกิจ เนื้อที่กว่า 10,000 ไร่ รองรับโครงการท่อก๊าซในพม่ามายังพื้นที่ชายแดนแม่สอด พร้อมจุดก่อสร้างสะพานไทย-พม่า 2 เตรียมชงผ่าน รมช.พาณิชย์สัปดาห์นี้
นายวุฒิ สิทธิสุราษฎร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้เป็นประธานการประชุมการกำหนดแนวเขตพื้นที่เพื่อกำหนดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนแม่สอด และเขตพื้นที่เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ บริเวณชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2553 ในการดำเนินแผนพัฒนาศักยภาพพื้นที่เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ อ.แม่สอด
ทั้งนี้ มีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 20 คน ประกอบด้วยผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร นายอำเภอแม่สอด ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 (แม่สอด) ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตาก พาณิชย์จังหวัด ที่ดินจังหวัด โยธาธิการและผังเมือง หัวหน้าศูนย์โครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ตาก แม่ฮ่องสอน ผู้อำนวยการแขวงการทางตากที่ 2 (แม่สอด) ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรม และประธานหอการค้าจังหวัดตาก
การประชุมในครั้งนี้ยังเป็นไปตามบัญชาของนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้จังหวัดตากเร่งหาพื้นที่การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ One Stop Service(OSS) และคลังสินค้า โดยคาดว่าจะต้องใช้พื้นที่นับ 1,000 ไร่ ภายใน 7 วัน เพื่อที่กระทรวงพาณิชย์จะได้นำเสนอ ครม.ต่อไป
เบื้องต้นที่ประชุมได้กำหนดพื้นที่ 3 แห่งในการพัฒนาเมืองใหม่ที่จะเป็นเขตเศรษฐกิจชายแดนและเขตเศรษฐกิจพิเศษ คือจุด A บริเวณใกล้วัดพระธาตุคอกช้างเผือก ต.ท่าสายลวด จุด B บริเวณบ้านวังตะเคียน ต.ท่าสายลวด และจุด C บริเวณบ้านวังแก้ว ห้วยกะโหลก ต.แม่ปะ อ.แม่สอด
ทั้งนี้ ได้กำหนดไว้ 2 แนวทาง คือ 1.ใช้พื้นที่จุด B ก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2-ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ One Stop Service(OSS) และคลังสินค้า ส่วนจุด C เป็นเขตนิคมอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมใหม่ พร้อมกับจัดเป็นพื้นที่เตรียมการรองรับโครงการท่อก๊าซ จากพม่ามายังชายแดนแม่สอดด้วย และอีกแนวทางคือ การรวมพื้นที่ทั้ง 3 จุด A-B-C เป็นเขตเศรษฐกิจและเมืองอุตสาหกรรม เศรษฐกิจใหม่ บนพื้นที่กว่า 10,000 ไร่
คณะกรรมการพัฒนาธุรกิจชายแดน แม่สอด ในระดับจังหวัดได้เดินทางไปดูพื้นที่ทั้ง 3 แห่ง เพื่อจะได้นำเสนอข้อมูลและจุดพื้นที่การพัฒนาเขตเศรษฐกิจใหม่ ต่อ รมช.พาณิชย์ในสัปดาห์หน้า
รองผู้ว่าราชการจังหวัดตากกล่าวว่า ชายแดนแม่สอดกำลังจะได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีการขยายเมืองออกไปพื้นที่รอบนอกและพื้นที่ชายแดน ที่สำคัญกำลังจะมีโครงการท่อก๊าซธรรมชาติจากพม่ามาส่งออกที่แม่สอด ซึ่งที่ผ่านมามีการส่งก๊าซไปยังชายแดนทางใต้ปีละกว่า 80,000 ล้านบาท หากมีการขยายมายังแม่สอดจะส่งผลทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้น และชายแดนแม่สอด กำลังจะต้องพัฒนาไปสู่ความหลากหลายในด้านเศรษฐกิจทั้งเขตเศรษฐกิจชายแดน เขตเศรษฐกิจพิเศษ นิคมอุตสาหกรรมและเมืองใหม่ รวมทั้งการเป็นท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด”
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อกลางเดือนธันวาคม 2552 นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเยือนพม่า และหารือในด้านความร่วมมือในเรื่องการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 2 การพัฒนาเส้นทางคมนาคม-การขนส่ง-ลอจิสติก และการส่งเสริมการลงทุน กับรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องของพม่า ประกอบด้วย พลจัตวา ตินไน รมว.พาณิชย์ พล.จัตวา อองตุน รมช.พาณิชย์ นายอูโซทา รมว.วางแผนแห่งชาติและพัฒนาเศรษฐกิจ พ.อ.เงียง ตันอ่อง รมช.ขนส่ง- พล.ต.อ่องมิน รมว.การรถไฟ พล.ต.คิน หม่องมิ้น รมว.ก่อสร้าง พล.จัตวาลุ่นตี่ รมว.พลังงาน เพื่อร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศ
นอกจากนี้ยังได้มีการพูดคุยกับ รมว.พลังงานของพม่า เกี่ยวกับโครงการที่นักธุรกิจภาคเอกชนไทยสนใจที่จะเข้าไปร่วมลงทุนการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ รวมทั้งหารือถึงความเป็นไปได้ในการสร้างท่อส่งก๊าซจากบริเวนเมืองเมาะละแหม่ง มายังชายแดนทางภาคเหนือของไทย โดยเฉพาะ บริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก อีกด้วย เพื่อรองรับแผนพัฒนาเส้นทาง New Trade Lane 4 เส้นทาง แม่สอด-เมียวดี-กอกาเรก-เมาะละแหม่ง เชื่อมต่อเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ East-West Economic Corridor (EWEC) และประตูการค้าตะวันตกที่แม่สอด Gate Way
นายวุฒิ สิทธิสุราษฎร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้เป็นประธานการประชุมการกำหนดแนวเขตพื้นที่เพื่อกำหนดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนแม่สอด และเขตพื้นที่เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ บริเวณชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2553 ในการดำเนินแผนพัฒนาศักยภาพพื้นที่เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ อ.แม่สอด
ทั้งนี้ มีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 20 คน ประกอบด้วยผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร นายอำเภอแม่สอด ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 (แม่สอด) ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตาก พาณิชย์จังหวัด ที่ดินจังหวัด โยธาธิการและผังเมือง หัวหน้าศูนย์โครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ตาก แม่ฮ่องสอน ผู้อำนวยการแขวงการทางตากที่ 2 (แม่สอด) ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรม และประธานหอการค้าจังหวัดตาก
การประชุมในครั้งนี้ยังเป็นไปตามบัญชาของนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้จังหวัดตากเร่งหาพื้นที่การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ One Stop Service(OSS) และคลังสินค้า โดยคาดว่าจะต้องใช้พื้นที่นับ 1,000 ไร่ ภายใน 7 วัน เพื่อที่กระทรวงพาณิชย์จะได้นำเสนอ ครม.ต่อไป
เบื้องต้นที่ประชุมได้กำหนดพื้นที่ 3 แห่งในการพัฒนาเมืองใหม่ที่จะเป็นเขตเศรษฐกิจชายแดนและเขตเศรษฐกิจพิเศษ คือจุด A บริเวณใกล้วัดพระธาตุคอกช้างเผือก ต.ท่าสายลวด จุด B บริเวณบ้านวังตะเคียน ต.ท่าสายลวด และจุด C บริเวณบ้านวังแก้ว ห้วยกะโหลก ต.แม่ปะ อ.แม่สอด
ทั้งนี้ ได้กำหนดไว้ 2 แนวทาง คือ 1.ใช้พื้นที่จุด B ก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2-ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ One Stop Service(OSS) และคลังสินค้า ส่วนจุด C เป็นเขตนิคมอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมใหม่ พร้อมกับจัดเป็นพื้นที่เตรียมการรองรับโครงการท่อก๊าซ จากพม่ามายังชายแดนแม่สอดด้วย และอีกแนวทางคือ การรวมพื้นที่ทั้ง 3 จุด A-B-C เป็นเขตเศรษฐกิจและเมืองอุตสาหกรรม เศรษฐกิจใหม่ บนพื้นที่กว่า 10,000 ไร่
คณะกรรมการพัฒนาธุรกิจชายแดน แม่สอด ในระดับจังหวัดได้เดินทางไปดูพื้นที่ทั้ง 3 แห่ง เพื่อจะได้นำเสนอข้อมูลและจุดพื้นที่การพัฒนาเขตเศรษฐกิจใหม่ ต่อ รมช.พาณิชย์ในสัปดาห์หน้า
รองผู้ว่าราชการจังหวัดตากกล่าวว่า ชายแดนแม่สอดกำลังจะได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีการขยายเมืองออกไปพื้นที่รอบนอกและพื้นที่ชายแดน ที่สำคัญกำลังจะมีโครงการท่อก๊าซธรรมชาติจากพม่ามาส่งออกที่แม่สอด ซึ่งที่ผ่านมามีการส่งก๊าซไปยังชายแดนทางใต้ปีละกว่า 80,000 ล้านบาท หากมีการขยายมายังแม่สอดจะส่งผลทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้น และชายแดนแม่สอด กำลังจะต้องพัฒนาไปสู่ความหลากหลายในด้านเศรษฐกิจทั้งเขตเศรษฐกิจชายแดน เขตเศรษฐกิจพิเศษ นิคมอุตสาหกรรมและเมืองใหม่ รวมทั้งการเป็นท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด”
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อกลางเดือนธันวาคม 2552 นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเยือนพม่า และหารือในด้านความร่วมมือในเรื่องการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 2 การพัฒนาเส้นทางคมนาคม-การขนส่ง-ลอจิสติก และการส่งเสริมการลงทุน กับรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องของพม่า ประกอบด้วย พลจัตวา ตินไน รมว.พาณิชย์ พล.จัตวา อองตุน รมช.พาณิชย์ นายอูโซทา รมว.วางแผนแห่งชาติและพัฒนาเศรษฐกิจ พ.อ.เงียง ตันอ่อง รมช.ขนส่ง- พล.ต.อ่องมิน รมว.การรถไฟ พล.ต.คิน หม่องมิ้น รมว.ก่อสร้าง พล.จัตวาลุ่นตี่ รมว.พลังงาน เพื่อร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศ
นอกจากนี้ยังได้มีการพูดคุยกับ รมว.พลังงานของพม่า เกี่ยวกับโครงการที่นักธุรกิจภาคเอกชนไทยสนใจที่จะเข้าไปร่วมลงทุนการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ รวมทั้งหารือถึงความเป็นไปได้ในการสร้างท่อส่งก๊าซจากบริเวนเมืองเมาะละแหม่ง มายังชายแดนทางภาคเหนือของไทย โดยเฉพาะ บริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก อีกด้วย เพื่อรองรับแผนพัฒนาเส้นทาง New Trade Lane 4 เส้นทาง แม่สอด-เมียวดี-กอกาเรก-เมาะละแหม่ง เชื่อมต่อเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ East-West Economic Corridor (EWEC) และประตูการค้าตะวันตกที่แม่สอด Gate Way
