ASTVผู้จัดการรายวัน – รัฐบาลยืมมือ 3 แบงก์รัฐ กรุงไทย – เอ็กซิม – เอสเอ็มอี หนุนเอกชนไทยลุยโครงการก่อสร้างในต่างประเทศหวังดึงรายได้เข้าประเทศกว่าแสนล้านบาท
นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) เปิดเผยว่า ทีทีอาร์ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด(ฒหาชน) KTB ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกแห่งประเทศไทย (ธสน.)หรือเอ็กซิมแบงก์ และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ เพื่อจัดตั้งคณะทำงานช่วยเหลือเอกชนด้านอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีปัญหาในต่างประเทศ กำหนดประเทศเป้าหมายไว้ 6 แห่ง คือ อินเดียเวียดนาม บรูไน บาห์เรน ตะวันออกกลางและแอฟริกา เพื่อเป็นตลาดหลักที่จะส่งเสริมให้เอกชนเข้าไปลงทุน ร่วมลงทุนหรือรับจ้างก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่นสนามบิน ที่อยู่อาศัย เป็นต้น
ทั้งนี้มั่นใจว่าจะทำให้เกิดรายได้เข้าประเทศนับแสนล้านบาท เพราะขณะนี้มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ภาคเอกชนไทยจะได้รับการคัดเลือกให้ก่อสร้างบ้านจัดสรรในประเทศบาห์เรน วงเงิน 50,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาขณะที่รัฐบาลได้พยายามสนับสนุนให้เอกชนไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยกำลังเจรจาขอพื้นที่ที่เมืองฮานอย ให้ไปสร้างหมู่บ้านจัดสรรซึ่งเป็นหมู่บ้านของผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งมีโอกาสสูงมากในอินเดีย โดยโครงการที่ได้ดำเนินการไปแล้วในส่วนของประเทศอินเดียกว่า 7-8 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งทางภาคเอกชนได้เริ่มเข้าไปดำเนินการเอง แต่ขณะนี้ทางรัฐบาลจะเข้าไปช่วยอย่างเต็มที่ น่าจะทำให้เดินเครื่องได้มากกว่านี้พอสมควร
อย่างไรก็ตามปัญหาหลักสำคัญอยู่ที่สถาบันการเงินที่ทำให้เอกชนไม่สามารถเข้าไปรับงานได้ เพราะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการใช้บริการที่แพงมาก เช่น ในตะวันออกกลาง ซึ่งหากจะเข้าไปลงทุนก็ต้องใช้บริการของสถาบันการเงินในประเทศนั้นๆ ซึ่งคิดค่าธรรมเนียมที่สูง หากรัฐบาลสนับสนุนให้ธนาคารของรัฐทั้ง 3 แห่งเข้าไปช่วยเหลือด้วยการหาพันธมิตรจากสถาบันการเงินของประเทศนั้นๆ จะเป็นอีกทางหนึ่งที่สนับสนุนเอกชนไทยได้
”รัฐบาลต้องเป็นหลักสำคัญเพื่อทำหน้าที่จับคู่ธุรกิจและหาพันธมิตรให้กับสถาบันการเงินของไทย เพื่อให้เข้ามาสนับสนุนเอกชนของไทยได้ ซึ่งทีทีอาร์จะเข้าไปทำหน้าที่เจรจาและประสานงานกับรัฐบาลของประเทศต่างๆ ด้วย”
นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) เปิดเผยว่า ทีทีอาร์ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด(ฒหาชน) KTB ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกแห่งประเทศไทย (ธสน.)หรือเอ็กซิมแบงก์ และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ เพื่อจัดตั้งคณะทำงานช่วยเหลือเอกชนด้านอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีปัญหาในต่างประเทศ กำหนดประเทศเป้าหมายไว้ 6 แห่ง คือ อินเดียเวียดนาม บรูไน บาห์เรน ตะวันออกกลางและแอฟริกา เพื่อเป็นตลาดหลักที่จะส่งเสริมให้เอกชนเข้าไปลงทุน ร่วมลงทุนหรือรับจ้างก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่นสนามบิน ที่อยู่อาศัย เป็นต้น
ทั้งนี้มั่นใจว่าจะทำให้เกิดรายได้เข้าประเทศนับแสนล้านบาท เพราะขณะนี้มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ภาคเอกชนไทยจะได้รับการคัดเลือกให้ก่อสร้างบ้านจัดสรรในประเทศบาห์เรน วงเงิน 50,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาขณะที่รัฐบาลได้พยายามสนับสนุนให้เอกชนไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยกำลังเจรจาขอพื้นที่ที่เมืองฮานอย ให้ไปสร้างหมู่บ้านจัดสรรซึ่งเป็นหมู่บ้านของผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งมีโอกาสสูงมากในอินเดีย โดยโครงการที่ได้ดำเนินการไปแล้วในส่วนของประเทศอินเดียกว่า 7-8 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งทางภาคเอกชนได้เริ่มเข้าไปดำเนินการเอง แต่ขณะนี้ทางรัฐบาลจะเข้าไปช่วยอย่างเต็มที่ น่าจะทำให้เดินเครื่องได้มากกว่านี้พอสมควร
อย่างไรก็ตามปัญหาหลักสำคัญอยู่ที่สถาบันการเงินที่ทำให้เอกชนไม่สามารถเข้าไปรับงานได้ เพราะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการใช้บริการที่แพงมาก เช่น ในตะวันออกกลาง ซึ่งหากจะเข้าไปลงทุนก็ต้องใช้บริการของสถาบันการเงินในประเทศนั้นๆ ซึ่งคิดค่าธรรมเนียมที่สูง หากรัฐบาลสนับสนุนให้ธนาคารของรัฐทั้ง 3 แห่งเข้าไปช่วยเหลือด้วยการหาพันธมิตรจากสถาบันการเงินของประเทศนั้นๆ จะเป็นอีกทางหนึ่งที่สนับสนุนเอกชนไทยได้
”รัฐบาลต้องเป็นหลักสำคัญเพื่อทำหน้าที่จับคู่ธุรกิจและหาพันธมิตรให้กับสถาบันการเงินของไทย เพื่อให้เข้ามาสนับสนุนเอกชนของไทยได้ ซึ่งทีทีอาร์จะเข้าไปทำหน้าที่เจรจาและประสานงานกับรัฐบาลของประเทศต่างๆ ด้วย”
