ปธ.ผู้แทนการค้าไทย รอคำสั่งนายกฯ เป็นกรรมการรื้อหวยออนไลน์ ลั่นไม่ใช่เป็นการล้มโครงการ แต่ต้องดูเงื่อนไขสัญญาทุกด้าน ด้าน “โฆษกรัฐ” สำทับคาด 2-3 วันตั้งกรรมการฯ ชัดเจน เชื่อเป็นแนวทางที่ไม่ให้ขยายกิจกรรมมอมเมาประชาชนเพิ่ม วางเป้า 1 เดือน ไม่หวั่นผู้ค้าสลากโหนกระแสขู่จับมือเสื้อแดงโค่นรัฐบาล
วันนี้ (4 ม.ค.) นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดให้ทบทวนหวยออนไลน์ ว่าขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกว่าจะมีคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์นี้ ซึ่งเบื้องต้นคงจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสัญญาและดูว่า มีทางเลือกใดบ้างในแง่ของสัญญาต่างๆ ที่ทำไว้ โดยยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการล้มโครงการหวยออนไลน์แต่อย่างใด
“โครงการดังกล่าวผ่านมาหลายรัฐบาลแล้ว จึงต้องดูกระบวนการและขั้นตอนทั้งหมดว่าดำเนินการมาอย่างไร และมีพันธสัญญาผูกพันกับใครบ้าง เชื่อว่าน่าจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป โดยจะต้องศึกษารายละเอียดทั้งหมดภายใน 1 เดือน”
ด้าน นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงไม่ทบทวนตั้งแต่แรกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องมานานหลายปี และมีสัญญาข้อผูกพัน นายกรัฐมนตรีจึงให้ไปตรวจสอบดูว่าจะทำอย่างไร ที่จะไม่ให้เกิดความเสียหายจากสัญญาและข้อผูกพันต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับต่างประเทศ จึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้น โดยมีนายเกียรติเป็นประธาน คาดว่าภายใน 2-3 วันคงจะมีแนวทางการทำงานออกมาว่าภายใน 1 เดือนจะเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญ คือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการขายสลากต่างๆ เป็นเรื่องที่ทุกคนห่วงใยอยู่แล้วว่าจะนำไปสู่การขยายการซื้อ หรืออาจนำไปสู่ประเด็นที่ซับซ้อน ในภาพรวมไม่อยากให้มีการขยายหรือเพิ่มกิจกรรมประเภทนี้ ขณะเดียวกัน กิจกรรมที่มีอยู่แล้วให้ดูแลให้รัดกุมให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่นายกรัฐมนตรีประกาศอย่างนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ค้าสลาก จนประกาศว่าหากยกเลิกจะไปเข้าร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงในการขับไล่รัฐบาล นายปณิธานกล่าวว่า เรื่องนี้จะปรึกษาหารือกันเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความพอใจ โดยอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายและสัญญาข้อตกลงต่างๆ คือไม่ให้ผู้ที่อยู่ในสัญญาเกิดความเสียหาย
ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็รับฟังความคิดเห็นของสังคมและผู้ปกครองที่เป็นห่วงกิจกรรมประเภทนี้ จึงต้องให้เกิดความสมดุลกัน อย่างไรก็ตาม คิดว่าภายใน 1 เดือน จะมีคำตอบว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้ทุกคนได้รับความพอใจ ความจริงรัฐบาลไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้บริษัทหรือคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องได้รับความกระทบกระเทือน ขณะเดียวกัน น้ำหนักของสังคมที่สะท้อนเรื่องนี้ก็ต้องการให้กิจกรรมเหล่านี้ได้รับการควบคุมดูแลให้ดีขึ้น และเป็นไปตามกฎหมาย