นานมาแล้ว ผมกับเพื่อนๆ ได้ทำฎีกาต่อว่าพล.อ.เปรม ที่ขณะนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี เวลานั้นรัฐบาลประกอบด้วยข้าราชการกับพรรคการเมือง ที่ผมเห็นว่าไม่ถูกต้องก็ตรงที่เวลามีความขัดแย้งทางการเมืองทีไร ก็มักจะมีขุนทหารตบเท้าเข้าไปบ้านสี่เสาฯ คล้ายๆ เป็นการให้กำลังใจเชิงข่มขู่พวกนักการเมือง อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เวลาพล.อ.เปรมไปต่างจังหวัด ก็จะมีการเกณฑ์ประชาชนมาชูป้ายต้อนรับสนับสนุน
เมื่อพล.อ.เปรมเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ก็มีผู้วิจารณ์อยู่ไม่น้อยทำนองว่า หากใครเป็นนักเรียนเก่าสวนกุหลาบ เป็นชาวปักษ์ใต้ และเป็นทหารม้าก็จะได้ดีกว่าคนอื่น
ผมเคยเป็นที่ปรึกษาพล.อ.เปรม จะว่าไปแล้วผู้ที่มาชักชวนให้ผมไปทำงานช่วยนายกฯ ก็คือเพื่อนๆ อาจารย์ที่นิด้า และมีพล.อ.สัณห์ จิตรปฏิมา เป็นหัวหน้าคณะที่ปรึกษา พล.อ.เปรมไม่ได้เลือกผมไป พล.อ.สัณห์เป็นทหารนักวิชาการเคยไปเรียนคณะรัฐประศาสนศาสตร์ พวกที่ปรึกษาใช้บ้านพักรอง ผบ.ทบ.ใกล้ๆ สวนรื่นเป็นที่พบปะ และทำงานกันในวันเสาร์-อาทิตย์
พล.อ.สัณห์เป็นนายทหารสุภาพบุรุษ มีความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว แต่ว่าสุภาพอ่อนโยน ท่านจะเข้าร่วมประชุมกับคณะที่ปรึกษาอย่างสม่ำเสมอ เวลาเย็นๆ ก็จะมีเครื่องดื่มและอาหารว่างไว้คอยต้อนรับ เรียกกันว่า “แฮปปี้เอาว์”
นานๆ เราจะได้พบพล.อ.เปรมครั้งหนึ่ง แต่ผู้ที่ไปพบท่านบ่อยก็คือ ดร.ทินพันธุ์ นาคะตะ ซึ่งเป็นคนประสานงานของคณะที่ปรึกษา
ใครก็ตามที่เป็นใหญ่เป็นโตทางการเมือง ก็มักจะถูกครหาเสมอ ที่ลำบากใจก็คือ จะมีผู้ไปขอความช่วยเหลือจำนวนมาก พวกที่ชอบไปหาพล.อ.เปรมบ่อยๆ มีอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งทหาร นักการเมือง และนักวิชาการ คนทั่วไปเรียกว่า พวก “ลูกป๋า” มีนักวิชาการลูกป๋าบางคนน่าเอ็นดูมาก ไปเมืองนอกกลับมาก็ซื้อรองเท้าบัลลี่มาฝากป๋า แถมนั่งลงใส่ให้ป๋าด้วย ป๋าจึงรักลูกๆ พวกนี้มาก นักการเมืองที่เข้าไปใกล้ชิด มักจะเป็นคนโต้อย่างเช่น นายวีระ มุสิกพงศ์ และดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นต้น
เมื่อพล.อ.เปรม พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปเป็นองคมนตรีแล้ว ชีวิตก็น่าจะราบเรียบกว่าเก่า แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เวลานี้มีคนออกมาต่อต้านมากขึ้น และพูดจาด่าทอหยาบๆ คายๆ โดยไม่เกรงใจเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ
การที่เกิดเหตุเช่นนี้ น่าจะเป็นเพราะสมัยพ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น มีอำนาจและบารมีมาก แต่พล.อ.เปรมก็ยังมีผู้เคารพนับถืออยู่มาก พูดกันว่าเวลามีการโยกย้ายแต่งตั้งนายทหาร ก็จะต้องไปปรึกษาหารือพล.อ.เปรมก่อน และเมื่อมีคนไม่พอใจทักษิณมากขึ้น ผู้คนก็ไปหาพล.อ.เปรม และปรับทุกข์ พล.อ.เปรมก็มีการแสดงออกด้วยการไปพูดตามที่ต่างๆ และคนก็ตีความว่าเป็นการเตือนทักษิณ
ข้อสำคัญก็คือ ทักษิณไม่ได้ไป “ฝากเนื้อฝากตัว” กับพล.อ.เปรม อาจเป็นเพราะไม่มีเวลา หรือไม่ใช่นิสัยของทักษิณก็เป็นได้ หนักๆ เข้าก็มีคนเข้าไปหาพล.อ.เปรม และมีข่าวออกมาว่า พล.อ.เปรม “ให้ไฟเขียว” ตอนที่มีการปฏิวัติ ทักษิณเคยพูดกับผู้ใกล้ชิดว่าผู้ซึ่งทำให้เขาต้องเผชิญกับชะตากรรมเช่นนี้คือ พล.อ.เปรม และเวลานี้ก็มีการกล่าวถึงพล.อ.เปรมอย่างเปิดเผย
กรณีพล.อ.สุรยุทธ์ เรื่องเขายายเที่ยงนั้น ฝ่ายทักษิณมองว่า พล.อ.สุรยุทธ์เป็นคนสนิทของพล.อ.เปรม โจมตีพล.อ.สุรยุทธ์ก็กระทบถึงพล.อ.เปรม โดยนำเอาเรื่องสนามกอล์ฟที่เขาสอยดาวมาเกี่ยวพันด้วย
ที่จริงแล้ว สนามกอล์ฟนี้ไม่เกี่ยวกับพล.อ.เปรมเลย เพราะไม่ใช่ของธนาคารกรุงเทพ ลูกสาวคุณชาตรี และพวกอิตัลไทยเป็นหุ้นส่วนกัน ดังนั้นการที่พล.อ.เปรมเป็นที่ปรึกษาธนาคารกรุงเทพ จึงไม่เกี่ยวกัน และพล.อ.เปรมก็ไม่มีหุ้น ลูกสาวคุณชาตรีซื้อที่ดินนี้มาจากคนอื่น ไม่แน่ใจว่าเป็นใครที่ไปลงทุนแล้วทำต่อไม่ไหว ผมเองเคยไปตีกอล์ฟที่นี่สองครั้ง สนามสวยมาก มีต้นไม้แยะ หน้าหนาวจะเย็น มีหมอกลงมาลอยข้างบน สภาพสนามก็ดีมาก ผมว่าจะไปอีก แต่ทราบข่าวว่าจะมีผู้ไปประท้วงก็เลยต้องงดไปก่อน
การเป็นองคมนตรีเป็นตำแหน่งที่สูง และมีผู้ใหญ่บางคนเห็นว่า องคมนตรีไม่ควรไปเป็นที่ปรึกษาหรือเป็นกรรมการบริษัทเอกชน เว้นแต่เป็นบริษัทที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้นอยู่
เวลานี้พวกคนเสื้อแดงได้ท้าทายองคมนตรี ไม่ใช่เฉพาะตัวบุคคล แต่มีผลสะเทือนถึงสถาบันองคมนตรีด้วย กรณีเขายายเที่ยงนั้น แม้จะไม่เกี่ยวกับตำแหน่งองคมนตรี แต่การที่องคมนตรีถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่าสงวน ย่อมมีผลกระทบถึงสถาบันองคมนตรีอย่างแน่นอน ผมเห็นใจพล.อ.สุรยุทธ์ เพราะการไปมีที่ดินและมีบ้านพักอยู่บนเขตป่าสงวนนั้น หากเป็นคนทั่วไปก็ไม่เป็นไร
ตอนที่เพื่อนๆ ผมไปซื้อที่ดินบนเขาใหญ่นั้น มีผมคนเดียวที่เพื่อนไม่ได้ชวน เพราะเห็นว่าผมต้องระมัดระวังตัว เนื่องจากเป็นครูบาอาจารย์คนรู้จักแยะ เพื่อนๆ ไปเป็นสมาชิกนิคมสหกรณ์อยู่หลายปี กว่าจะได้สิทธิอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนผม ลูกๆ ก็ไปซื้อที่ที่เขาใหญ่บริเวณที่เป็นที่ราบไม่ได้อยู่สูง และซื้อที่นี่มีโฉนดถูกต้องแล้ว
ผมไม่ทราบว่าเรื่องพล.อ.สุรยุทธ์ และพล.อ.เปรมจะลงเอยอย่างไร แต่ผู้ที่สะใจแล้วก็เห็นจะเป็นทักษิณนั่นเอง ผลเสียที่เกิดขึ้นแล้วก็คือ พวกเสื้อแดงได้ประสบความสำเร็จในการโจมตีพวกอำมาตย์ และต้องการชี้ให้เห็นว่าคนที่ว่าดีๆ นั้น แท้ที่จริงก็มีความบกพร่อง และไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีโดยไม่มีข้อตำหนิ
ผมสงสารเด็กๆ ที่เวลานี้สับสน เพราะเห็นผู้ใหญ่ทะเลาะกัน โจมตีกันก็ยิ่งเซ็ง ผมฟังพล.อ.สุรยุทธ์ออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว ก็นึกในใจว่าท่านไม่น่าพูดว่า ท่านไม่รู้ว่าที่ดินนี้เอามาอย่างผิดกฎหมาย ไปไหนมาไหนเพื่อนๆ ก็เห็นด้วยกับผม
แต่ก่อนพล.อ.เปรมได้รับการยกย่องว่าเป็นคนดี เป็นรัฐบุรุษ เป็นบุคคลตัวอย่าง เวลานี้ขบวนการทำลายพล.อ.เปรมได้ทำให้คนเข้าใจท่านไขว้เขวไปมาก ยิ่งพูดเน้นย้ำถึงการเป็นที่ปรึกษาธนาคารด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้คนนึกในใจว่า ทำไมท่านถึงมีตำแหน่งเช่นนั้น เพราะตำแหน่งประธานองคมนตรีสูงส่งเกินกว่าที่จะไปเป็นอย่างอื่น
ผมเองนึกว่าทุกคนก็เป็นปุถุชน ไม่ว่าใครย่อมมีดีมีชั่ว มีข้อบกพร่อง ยากนักที่จะหาคนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องพร้อมมูล มันเป็นธรรมดาของโลก คิดได้อย่างนี้แล้วก็จะไม่ผิดหวังอะไรกับใคร
เมื่อพล.อ.เปรมเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ก็มีผู้วิจารณ์อยู่ไม่น้อยทำนองว่า หากใครเป็นนักเรียนเก่าสวนกุหลาบ เป็นชาวปักษ์ใต้ และเป็นทหารม้าก็จะได้ดีกว่าคนอื่น
ผมเคยเป็นที่ปรึกษาพล.อ.เปรม จะว่าไปแล้วผู้ที่มาชักชวนให้ผมไปทำงานช่วยนายกฯ ก็คือเพื่อนๆ อาจารย์ที่นิด้า และมีพล.อ.สัณห์ จิตรปฏิมา เป็นหัวหน้าคณะที่ปรึกษา พล.อ.เปรมไม่ได้เลือกผมไป พล.อ.สัณห์เป็นทหารนักวิชาการเคยไปเรียนคณะรัฐประศาสนศาสตร์ พวกที่ปรึกษาใช้บ้านพักรอง ผบ.ทบ.ใกล้ๆ สวนรื่นเป็นที่พบปะ และทำงานกันในวันเสาร์-อาทิตย์
พล.อ.สัณห์เป็นนายทหารสุภาพบุรุษ มีความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว แต่ว่าสุภาพอ่อนโยน ท่านจะเข้าร่วมประชุมกับคณะที่ปรึกษาอย่างสม่ำเสมอ เวลาเย็นๆ ก็จะมีเครื่องดื่มและอาหารว่างไว้คอยต้อนรับ เรียกกันว่า “แฮปปี้เอาว์”
นานๆ เราจะได้พบพล.อ.เปรมครั้งหนึ่ง แต่ผู้ที่ไปพบท่านบ่อยก็คือ ดร.ทินพันธุ์ นาคะตะ ซึ่งเป็นคนประสานงานของคณะที่ปรึกษา
ใครก็ตามที่เป็นใหญ่เป็นโตทางการเมือง ก็มักจะถูกครหาเสมอ ที่ลำบากใจก็คือ จะมีผู้ไปขอความช่วยเหลือจำนวนมาก พวกที่ชอบไปหาพล.อ.เปรมบ่อยๆ มีอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งทหาร นักการเมือง และนักวิชาการ คนทั่วไปเรียกว่า พวก “ลูกป๋า” มีนักวิชาการลูกป๋าบางคนน่าเอ็นดูมาก ไปเมืองนอกกลับมาก็ซื้อรองเท้าบัลลี่มาฝากป๋า แถมนั่งลงใส่ให้ป๋าด้วย ป๋าจึงรักลูกๆ พวกนี้มาก นักการเมืองที่เข้าไปใกล้ชิด มักจะเป็นคนโต้อย่างเช่น นายวีระ มุสิกพงศ์ และดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นต้น
เมื่อพล.อ.เปรม พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปเป็นองคมนตรีแล้ว ชีวิตก็น่าจะราบเรียบกว่าเก่า แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เวลานี้มีคนออกมาต่อต้านมากขึ้น และพูดจาด่าทอหยาบๆ คายๆ โดยไม่เกรงใจเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ
การที่เกิดเหตุเช่นนี้ น่าจะเป็นเพราะสมัยพ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น มีอำนาจและบารมีมาก แต่พล.อ.เปรมก็ยังมีผู้เคารพนับถืออยู่มาก พูดกันว่าเวลามีการโยกย้ายแต่งตั้งนายทหาร ก็จะต้องไปปรึกษาหารือพล.อ.เปรมก่อน และเมื่อมีคนไม่พอใจทักษิณมากขึ้น ผู้คนก็ไปหาพล.อ.เปรม และปรับทุกข์ พล.อ.เปรมก็มีการแสดงออกด้วยการไปพูดตามที่ต่างๆ และคนก็ตีความว่าเป็นการเตือนทักษิณ
ข้อสำคัญก็คือ ทักษิณไม่ได้ไป “ฝากเนื้อฝากตัว” กับพล.อ.เปรม อาจเป็นเพราะไม่มีเวลา หรือไม่ใช่นิสัยของทักษิณก็เป็นได้ หนักๆ เข้าก็มีคนเข้าไปหาพล.อ.เปรม และมีข่าวออกมาว่า พล.อ.เปรม “ให้ไฟเขียว” ตอนที่มีการปฏิวัติ ทักษิณเคยพูดกับผู้ใกล้ชิดว่าผู้ซึ่งทำให้เขาต้องเผชิญกับชะตากรรมเช่นนี้คือ พล.อ.เปรม และเวลานี้ก็มีการกล่าวถึงพล.อ.เปรมอย่างเปิดเผย
กรณีพล.อ.สุรยุทธ์ เรื่องเขายายเที่ยงนั้น ฝ่ายทักษิณมองว่า พล.อ.สุรยุทธ์เป็นคนสนิทของพล.อ.เปรม โจมตีพล.อ.สุรยุทธ์ก็กระทบถึงพล.อ.เปรม โดยนำเอาเรื่องสนามกอล์ฟที่เขาสอยดาวมาเกี่ยวพันด้วย
ที่จริงแล้ว สนามกอล์ฟนี้ไม่เกี่ยวกับพล.อ.เปรมเลย เพราะไม่ใช่ของธนาคารกรุงเทพ ลูกสาวคุณชาตรี และพวกอิตัลไทยเป็นหุ้นส่วนกัน ดังนั้นการที่พล.อ.เปรมเป็นที่ปรึกษาธนาคารกรุงเทพ จึงไม่เกี่ยวกัน และพล.อ.เปรมก็ไม่มีหุ้น ลูกสาวคุณชาตรีซื้อที่ดินนี้มาจากคนอื่น ไม่แน่ใจว่าเป็นใครที่ไปลงทุนแล้วทำต่อไม่ไหว ผมเองเคยไปตีกอล์ฟที่นี่สองครั้ง สนามสวยมาก มีต้นไม้แยะ หน้าหนาวจะเย็น มีหมอกลงมาลอยข้างบน สภาพสนามก็ดีมาก ผมว่าจะไปอีก แต่ทราบข่าวว่าจะมีผู้ไปประท้วงก็เลยต้องงดไปก่อน
การเป็นองคมนตรีเป็นตำแหน่งที่สูง และมีผู้ใหญ่บางคนเห็นว่า องคมนตรีไม่ควรไปเป็นที่ปรึกษาหรือเป็นกรรมการบริษัทเอกชน เว้นแต่เป็นบริษัทที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้นอยู่
เวลานี้พวกคนเสื้อแดงได้ท้าทายองคมนตรี ไม่ใช่เฉพาะตัวบุคคล แต่มีผลสะเทือนถึงสถาบันองคมนตรีด้วย กรณีเขายายเที่ยงนั้น แม้จะไม่เกี่ยวกับตำแหน่งองคมนตรี แต่การที่องคมนตรีถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่าสงวน ย่อมมีผลกระทบถึงสถาบันองคมนตรีอย่างแน่นอน ผมเห็นใจพล.อ.สุรยุทธ์ เพราะการไปมีที่ดินและมีบ้านพักอยู่บนเขตป่าสงวนนั้น หากเป็นคนทั่วไปก็ไม่เป็นไร
ตอนที่เพื่อนๆ ผมไปซื้อที่ดินบนเขาใหญ่นั้น มีผมคนเดียวที่เพื่อนไม่ได้ชวน เพราะเห็นว่าผมต้องระมัดระวังตัว เนื่องจากเป็นครูบาอาจารย์คนรู้จักแยะ เพื่อนๆ ไปเป็นสมาชิกนิคมสหกรณ์อยู่หลายปี กว่าจะได้สิทธิอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนผม ลูกๆ ก็ไปซื้อที่ที่เขาใหญ่บริเวณที่เป็นที่ราบไม่ได้อยู่สูง และซื้อที่นี่มีโฉนดถูกต้องแล้ว
ผมไม่ทราบว่าเรื่องพล.อ.สุรยุทธ์ และพล.อ.เปรมจะลงเอยอย่างไร แต่ผู้ที่สะใจแล้วก็เห็นจะเป็นทักษิณนั่นเอง ผลเสียที่เกิดขึ้นแล้วก็คือ พวกเสื้อแดงได้ประสบความสำเร็จในการโจมตีพวกอำมาตย์ และต้องการชี้ให้เห็นว่าคนที่ว่าดีๆ นั้น แท้ที่จริงก็มีความบกพร่อง และไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีโดยไม่มีข้อตำหนิ
ผมสงสารเด็กๆ ที่เวลานี้สับสน เพราะเห็นผู้ใหญ่ทะเลาะกัน โจมตีกันก็ยิ่งเซ็ง ผมฟังพล.อ.สุรยุทธ์ออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว ก็นึกในใจว่าท่านไม่น่าพูดว่า ท่านไม่รู้ว่าที่ดินนี้เอามาอย่างผิดกฎหมาย ไปไหนมาไหนเพื่อนๆ ก็เห็นด้วยกับผม
แต่ก่อนพล.อ.เปรมได้รับการยกย่องว่าเป็นคนดี เป็นรัฐบุรุษ เป็นบุคคลตัวอย่าง เวลานี้ขบวนการทำลายพล.อ.เปรมได้ทำให้คนเข้าใจท่านไขว้เขวไปมาก ยิ่งพูดเน้นย้ำถึงการเป็นที่ปรึกษาธนาคารด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้คนนึกในใจว่า ทำไมท่านถึงมีตำแหน่งเช่นนั้น เพราะตำแหน่งประธานองคมนตรีสูงส่งเกินกว่าที่จะไปเป็นอย่างอื่น
ผมเองนึกว่าทุกคนก็เป็นปุถุชน ไม่ว่าใครย่อมมีดีมีชั่ว มีข้อบกพร่อง ยากนักที่จะหาคนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องพร้อมมูล มันเป็นธรรมดาของโลก คิดได้อย่างนี้แล้วก็จะไม่ผิดหวังอะไรกับใคร
