xs
xsm
sm
md
lg

ญี่ปุ่นแชมป์ลงทุนปี’52

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- บีโอไอเผยลงทุนตรงจากต่างประเทศ(FDI) ปี 2552 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 18% โดยนักลงทุนจากญี่ปุ่นยังครองแชมป์ลงทุนสุงสุดแต่มีมูลค่าลดลง 24 % จากปีก่อน ตามด้วยจีน สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ไต้หวัน

นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ ) เปิดเผยว่า จากสถิติการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปี 2552 ที่สูงสุดรอบ 40 ปีมูลค่า 7.23 แสนล้านบาทพบว่าเป็นการลงทุนตรงจากต่างประเทศ(FDI) ซึ่งมีคำขอรับส่งเสริมฯจำนวน 788 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 350,754 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ามูลค่าเงินลงทุนของการลงทุนจากต่างประเทศในปี 2551 ประมาณ 18% แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนต่างชาติยังเชื่อมั่นต่อการลงทุนในประเทศไทยเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ นักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น ยังคงเป็นกลุ่มที่ต้องการเข้ามาลงทุนเป็นอันดับหนึ่งเหมือนเดิม โดยมีโครงการลงทุนจากญี่ปุ่นยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 266 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 77,380 ล้านบาท ซึ่งแม้มูลค่าจะลดลงจากปีก่อนหน้า 24% แต่การลงทุนจากญี่ปุ่นในไทย ก็ค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มมากขึ้นในช่วงปลายปี 2552 โดยเฉพาะในเดือนธันวาคม โครงการลงทุนจากญี่ปุ่นขอรับส่งเสริมการลงทุน 45 โครงการ เงินลงทุน 23,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีการลงทุนจากหลายประเทศที่มีมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน มีโครงการขอรับส่งเสริมจำนวน 25 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 43,189 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2551 ซึ่งมีมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท ตามด้วย สหรัฐอเมริกา 34,631 ล้านบาท สิงคโปร์ 34,264 ล้านบาท เนเธอร์แลนด์ 21,409 ล้านบาท เยอรมนี 20,289 ล้านบาท ไต้หวัน 20,267 ล้านบาท ฮ่องกง 13,817 ล้านบาท สวิตเซอร์แลนด์ 13,259 ล้านบาท เกาหลีใต้ 8,257 ล้านบาท อินเดีย 4,660 ล้านบาท และ ออสเตรเลีย 4,458 ล้านบาท

สำหรับอุตสาหกรรมที่นักลงทุนต่างชาติแสดงความสนใจจะเข้ามาลงทุนในไทย อันดับหนึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค 229 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 120,500 ล้านบาท มีโครงการขนาดใหญ่ เช่น กิจการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ รองลงมาเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า จำนวน 164 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 98,911 ล้านบาท มีกิจการขนาดใหญ่ได้แก่ ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ และชิ้นส่วน และการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่างๆ ซึ่งมูลค่าเงินลงทุนของทั้งสองกลุ่มในปี 2552 สูงกว่ามูลค่าในปีก่อนหน้าทั้งสิ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น