xs
xsm
sm
md
lg

หวยออนไลน์... ลงเอยอย่างไร?

เผยแพร่:   โดย: เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง


ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต


เงื่อนงำ

1) หวยออนไลน์ เรื่องเดิมเริ่มมาตั้งแต่ก่อนปี 2540 ยุครัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา ในสมัยที่นายประภัตร โพธสุธน เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กำกับดูแลสำนักงานกองสลาก

ปรากฏว่า ในวันสุดท้าย ระหว่างที่เป็นรัฐบาลรักษาการ

เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่นายประภัตรจะส่งมอบหน้าที่ให้แก่รัฐมนตรีคนใหม่ในรัฐบาลชุดต่อไป (รัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ) นายประภัตรก็ได้อาศัยอำนาจในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อนุมัติโครงการหวยออนไลน์ให้แก่บริษัทในเครือของล็อกซเล่ย์ ชื่อ “จาโก้” ทำสัญญา 10 ปี จัดหาเครื่องจำหน่ายสลากอัตโนมัติ 5,000 เครื่อง


เป็นจุดเริ่มต้นของเงื่อนงำแห่งโครงการหวยออนไลน์

2) โครงการหวยออนไลน์ที่อนุมัติไปในยุค รมช.คลังประภัตร (ในรัฐบาลบรรหาร) ไม่ได้เป็นการพิมพ์สลากหวย 2 ตัว 3 ตัว แยกออกจากล็อตเตอรี่แบบที่มีตัวเลข 7 หลักเดิม เพียงแต่จะเป็นการติดตั้งตู้ขายหวยออนไลน์ (ลักษณะคล้ายๆ ตู้เอทีเอ็ม) เพื่อให้ผู้ซื้อล็อตเตอรี่สามารถเลือกหมายเลข 3 ตัวท้าย หรือ 2 ตัวท้าย ได้ด้วยตนเอง

ยกตัวอย่าง หากผู้ซื้อต้องการได้ล็อตเตอรี่ 7 หลัก ที่มีเลขท้าย “ศูนย์ ศูนย์ ศูนย์” หรือ “_ _ _ _ 0 0 0” ก็สามารถกำหนดเลขท้าย 3 หลักที่ตนเองต้องการได้เลย แต่ตัวเลขที่เหลืออีก 4 ตัวข้างหน้า คอมพิวเตอร์จะเป็นผู้สุ่มเลือกให้เอง

พูดง่ายๆ ว่า เป็นสลากกินแบ่งแบบเดียวกับลอตเตอรี่อันเดิมนั่นเอง เพียงแต่แบ่งมาขายผ่านระบบออนไลนด์จำนวนหนึ่ง และส่วนที่ขายผ่านระบบออนไลน์นั้น ผู้ซื้อก็จะสามารถเลือกเลขท้าย 3 หลักได้ด้วยตนเอง

3) เมื่ออำนาจเปลี่ยนจากรัฐบาลบรรหาร มาเป็นรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายจาตุรนต์ ฉายแสง (พรรคความหวังใหม่) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กำกับดูแลสำนักงานกองสลาก

รมช.คลังจาตุรนต์ได้ให้สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศึกษาเรื่องดังกล่าวให้รอบคอบ ก่อนจะได้ข้อสรุปว่าหวยออนไลน์ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาขายสลากเกินราคาได้ และมีผลกระทบต่อสังคม จึงให้มีการชะลอโครงการในช่วงเดือนเมษายน 2540

แต่หลังจากนั้น นายอำนวย วีรวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็หยิบยกโครงการดังกล่าวขึ้นมาอีก พร้อมประกาศจะเดินหน้า แต่ยังไม่ทันทำอะไร ก็ลาออกจากตำแหน่งเสียก่อน

ต่อมา เมื่อรัฐบาลชวลิตลอยตัวค่าเงินบาท วิกฤติเศรษฐกิจฝีแตก ประชาชนขับไล่ รัฐบาลชวลิตออกไป รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีคุณชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เข้ามาแทน

คุณพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เข้ามารับเผือกร้อน หากเดินหน้าโครงการก็จะเกิดผลกระทบทางสังคมมากมาย แต่ถ้าทำการยกเลิกสัญญากับเอกชน ฝ่ายเอกชนก็จะยกขึ้นเป็นเหตุฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐ จึงพยายามชะลอโครงการไว้ก่อน ยังไม่ได้เอาเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรีให้มติยกเลิก

ฝ่ายเอกชนที่ได้เข้าทำสัญญากับรัฐตั้งแต่ในยุครมช.คลังประภัตร เริ่มเคลื่อนไหวกดดันภาครัฐ กระทั่งมีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาในระดับอนุญาโตตุลาการ วันที่ 4 ธ.ค. 2543 ตัดสินให้ภาครัฐจ่ายชดเชยแก่เอกชนรวมเป็นเงินประมาณ 4,000 ล้านบาท แต่ทางภาครัฐประกาศไม่ยอมรับการตัดสินดังกล่าว

เมื่ออำนาจเปลี่ยนจากรัฐบาลชวน หลีกภัย มาเป็นรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร กุมภาพันธ์ 2544 นายวราเทพ รัตนากร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กำกับดูแลสำนักงานกองสลาก รัฐบาลทักษิณทำการยกเลิกโครงการ เป็นเหตุเอื้อให้เอกชนอ้างในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อรัฐ

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลทักษิณก็เริ่มเดินหน้าโครงการหวยออนไลน์แบบใหม่

ผู้เข้ามาทำสัญญาหวยออนไลน์ยุคทักษิณ ได้แก่ บริษัทล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด บริษัทลูกของกลุ่มล็อกซเล่ย์ (เช่นเดียวกับจาโก้) ทำสัญญาจ้างบริการจำหน่ายสลากหวยแบบใหม่ด้วยระบบตู้ออนไลน์ จำนวน 12,000 ตู้ ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2548

4) หวยยุคทักษิณ แตกต่างจากหวยออนไลน์ยุคบรรหาร

การจำหน่ายสลากแบบออนไลน์ผ่านระบบตู้ ยังไม่ได้เริ่มขาย แต่รัฐบาลทักษิณก็ให้ออกหวย 2 ตัว 3 ตัว เรียกว่า “หวยบนดิน” ออกจำหน่ายผ่านคนเดินโพย เพิ่มเติมขึ้นมาจากล็อตเตอรี่อีกต่างหาก

โดยมีลักษณะเป็น “สลากกินรวบ” ไม่ใช่สลากกินแบ่ง

เป็น “การพนัน” ที่มีสำนักงานกอลสลากเป็น “เจ้ามือ” รับแทงหวยเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ในลักษณะคล้ายกันกับเจ้ามือหวยใต้ดิน

พูดง่ายๆ ว่า เป็นการออกสลากจำหน่ายเฉพาะหวยเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว แยกต่างหากจากลอตเตอรี่


เล่นได้เสียกันเฉพาะเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว โดยตรง

แต่ในที่สุด การออกสลากเล่นหวย 2 ตัว 3 ตัว แบบที่รัฐบาลทักษิณทำ ก็ถูกศาลฎีกาฯ พิพากษาชี้ขาดว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหลายฉบับ รมช.วราเทพถูกพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี (รอลงอาญา)

5) จนรัฐบาลทักษิณพ้นอำนาจไปแล้ว ผ่านไป 3 รัฐบาล จนถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โครงการหวยออนไลน์ เพื่อขายหวย 2 ตัว 3 ตัว ที่รัฐบาลทักษินให้ทำสัญญาไว้ ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะหากเดินต่อเหมือนรัฐบาลทักษิณก็จะเป็นการกระทำผิดกฎหมาย

กระทั่งปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศหาทางยกเลิกโครงการหวยออนไลน์ โดยให้เหตุผลในด้านผลกระทบต่อสังคมส่วนรวม

ท่าทีของนายกฯ อภิสิทธิ์

“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ประกาศจุดยืนและท่าทีไว้ในหนังสือ “ร้อยฝันวันฟ้าใหม่” เรื่อง “คนไทยไม่ต้องพึ่งหวย” สะท้อนวิธีคิดต่อการปแก้ปัญหาเรื่องหวย สอดคล้องกับท่าทีล่าสุดของรัฐบาลปัจจุบัน

บางตอน ความว่า

“...ผมไม่คิดว่า “หวย” จะเป็นองค์ประกอบหนึ่งในสังคมในอุดมคติ และเราก็ไม่ควรทำให้หวยกลายเป็นสิ่งจำเป็นในสังคมชีวิตจริง ผมไม่ยอมรับว่าหวยอยู่ในสายเลือดของคนไทยส่วนใหญ่ และคงยอมรับไม่ได้ หากจะอ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายในเรื่องหวยใต้ดินได้ เพราะถ้ายอมรับการอ้างเช่นนี้ ก็เท่ากับปฏิเสธความเป็นนิติรัฐ ปฏิเสธการบังคับใช้กฎหมาย เสมือนบ้านเมืองอยู่กันอย่างไม่มีขื่อแป...

รัฐควรเพิ่มกลไกและมาตรการในการปราบปรามหวยใต้ดินหลายอย่าง และนำไปใช้อย่างจริงจัง ทั้งมาตรการบังคับ และมาตรการจูงใจ เช่น การแก้กฎหมายให้ใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ การยึดทรัพย์ ซึ่งมีบทลงโทษรุนแรง และมีกระบวนการสอบสวนดำเนินการที่มีประสิทธิภาพกว่า อันจะมีผลในทางป้องปรามเจ้ามือหวยใต้ดินบางส่วน, การมีสินบนนำจับเจ้ามือหวยใต้ดิน ทั้งให้แก่เจ้าพนักงานและประชาชน โดยให้มีมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนที่ให้เบาะแสแก่ทางการด้วย เพื่อสร้างแรงจูงใจทั้งแก่เจ้าหน้าที่และประชาชนให้หันมาร่วมกันทำลายเครือข่ายหวยใต้ดิน ซึ่งอาจจะง่ายกว่าการรอให้ถูกรางวัลแจ็คพ็อตเสียอีก...

รัฐยังควรต้องทำความชัดเจนในประเด็นความถูกต้องและความชอบธรรมในทางกฎหมาย ในเรื่องของหวยตู้หรือหวยออนไลน์ ว่าสถานะทางกฎหมายที่แท้จริงเป็นอย่างไร  เพราะหากรัฐบาลไม่มีอำนาจจะให้สัมปทานตั้งแต่ต้น ก็ต้องนำมาทบทวนกันใหม่หมด และต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้อนุมัติ รวมทั้งหาข้อยุติเรื่องสิทธิของคู่สัญญาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร เพราะการเดินหน้าโครงการนี้ โดยเฉพาะหากอนุญาตให้บริษัทที่รับสัมปทานขายเลข 2 ตัว 3 ตัวได้ จะทำให้การลดการเล่นหวย หรือการป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้เล่นหวย แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย…

การทำหวยให้ถูกกฎหมาย เพิ่มจำนวนคนเล่นหวยขึ้นมาอีกกลุ่มใหญ่ ซึ่งจำนวนไม่น้อยคือคนที่ไม่ต้องการทำผิดกฎหมาย ไม่เล่นหวยหากผิดกฎหมาย แต่หากเป็นการเล่นแบบถูกกฎหมายก็พร้อมจะเล่น  และอีกส่วนหนึ่งเป็นคนที่พร้อมจะเล่นหวยใต้ดิน แต่ก็เล่นไม่มากนัก เพราะรู้ว่าหากเกิดการโกงกัน ก็ไม่สามารถเรียกร้องสิทธิตามกฎหมายได้

การทำหวยบนดิน จึงทำให้คนสองกลุ่มนี้ เล่นหวยอย่างไม่ต้องพะวักพะวงกับสิ่งใด เพราะฉะนั้น เมื่อมองในทางตรงกันข้าม การยกเลิกหวยบนดินกลับน่าจะมีผลให้คนเล่นหวยทั้งหมดน้อยลงอย่างแน่นอน

ถ้าเราเชื่อว่า การเล่นหวยไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับใครก็ตาม  การไม่มีหวยให้เล่น หรือลดช่องทางในการเล่นหวย ก็น่าจะทำให้ชีวิตคนของเราดีขึ้น  ผู้ที่เดือดร้อนจากการยกเลิกหวยบนดินจริงๆ จึงเป็นกลุ่มผู้ขายมากกว่า ซึ่งรัฐก็ควรจะหาแนวทางบรรเทาความเดือดร้อนของคนกลุ่มนี้

ถึงที่สุดแล้ว ผมคิดว่า รัฐจะต้องลดความความอยากในเรื่องของรายได้จากหวย เพราะหากเป้าหมายหลักคือการสนับสนุนค่านิยมที่ดี หรือคุณธรรม ก็จะต้องส่งสัญญาณให้ชัดว่า ความดีงามเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่คะแนนเสียทางการเมืองหรือเม็ดเงินจะมาแลกได้ มิฉะนั้น ต่อไป การแก้ปัญหาการพนันฟุตบอล การค้าประเวณี บ่อนชายแดน ฯลฯ ก็จะมาอ้างอิงเรื่องหวยบนดินเป็นตัวอย่าง

ผมยืนยันว่า คนของเราควรจะได้มีช่องทางของความฝัน ความหวัง ที่ใกล้เคียงกับความจริงได้มากกว่าการเล่นหวย เพราะแท้ที่จริงแล้ว หวย ในลักษณะที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน คนที่รวย คนที่กินเงินชาวบ้านอย่างสม่ำเสมอ คือ เจ้ามือหวย

เราต้องช่วยกันเลิกค่านิยมเรื่องการรวยลัด รวยโดยไม่ต้องทำงาน และหันไปสร้างค่านิยมในการทำงาน ยกย่องคุณค่าของการทำงาน คนของเราควรจะมีความสุข มีชีวิตที่มีความหมายได้ โดยไม่ต้องพึ่งหวย…”


ข้อสังเกตสำคัญต่อมุมมองของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” คือ วิธีคิดที่มีต่อการตั้งโจทย์ปัญหา

หากยอมรับตั้งแต่ต้นว่า หารเล่นการพนันหวยอยู่ในสายเลือดของคนไทย เลิกไม่ได้ ปราบปรามไม่ได้โจทย์ของการคิดในเรื่องหวย ก็จะกลายเป็นลักษณะว่า ทำอย่างไรจะหาประโยชน์จากการเล่นหวยของคนไทย?

คำตอบก็จะออกมา เช่นว่า ให้รัฐเป็นเจ้ามือ กินเงินจากประชาชนเสียเลย เงินจะได้ไม่รั่วไหล เป็นต้น

จึงไม่แปลกใจที่นักวิชาการบางคน จะตาโต กระวีกระวาด อยากให้รัฐเป็นเจ้ามือหวยเสียเอง ซึ่งก็คือการจะให้รัฐ “กินเงินจากประชาชน” ก็เพราะตั้งโจทย์โดย “เห็นแก่เงิน” หรือให้ความสำคัญกับเงินเป้นใหญ่นั่นเอง

ที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง คือ แม้แต่พระนักเทศน์ชื่อดังบางรูป ยังอุตส่าห์ “เห็นเงินแล้วตาโต” ผิดวิสัยสมณสงฆ์ผู้ทรงศีล ซึ่งมีภาระหน้าที่เป็นเสาหลักในการรักษาสิ่งถูกต้องดีงามในทางศีลธรรมในบ้านเมือง

แต่กรณีนี้ “อภิสิทธิ์” แสดงให้เห็นว่า หากเรายืนยันที่จะยืนหยัดว่า การพนันหรือการเล่นหวยเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ไม่สนับสนุน และต้องพยายามปราบปรามเพื่อให้ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ โจทย์ของการคิดเรื่องหวย ก็จะกลายเป็นว่า “ทำอย่างไรจะไม่ให้คนเล่นหวยมากกว่าเดิม หรือลดน้อยลงกว่าเดิม?

หากตั้งโจทย์เช่นนี้ คำตอบที่ออกมาก็จะมี “ทางเลือก” หรือ “วิธีการ” เพื่อที่จะ ลด ละ เลิก พฤติกรรมการเล่นหวยอีกมากมาย เช่น การให้รางวัลนำจับ การปราบปรามหวยใต้ดิน การใช้กฎหมายให้ยึดทรัพย์เจ้ามือหวย การลดการออกเลข การลดการโฆษณา การลดเงินรางวัล การค่อยเปลี่ยนพฤติกรรมคนเล่นหวยไปสู่การออมทรัพย์ที่ได้ลุ้นรางวัล ฯลฯ

ทางออก


1) สนับสนุนท่าทีและแนวคิดของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ อย่างเต็มที่ และขอชื่มชมว่าเป็นการตัดสินที่กล้าหาญ คำนึงถึงประโยชน์ของสังคมส่วนรวมเป็นสำคัญ ทั้งคนรุ่นปัจจุบัน และคนรุ่นใหม่ในอนาคต

2) หวยไม่ได้ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ ไม่เพิ่มรายได้รวมของประเทศชาติหรือจีดีพี

การได้เงินของคนถูกหวย กับการเสียเงินของคนเสียหวย ไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้ประชาชาติเพิ่มขึ้น เพราะเป็นการโอนเงินจากคนหนึ่งไปให้อีกคนหนึ่ง โดยที่ยอดรายได้รวมของคนในประเทศเท่าเดิม


ตรงกันข้าม กลับต้องสูญเสียเวลทำมาหากินของคนหลายสิบล้านคนที่ต้องคิด ฝัน เสาะหาเลขเด็ด เบียดบังเวลาชีวิตไปกับหวย หาหวย ลุ้นหวย ทำให้รายได้ประชาชาติและประสิทธิภาพการทำงานลดลง

3) การออกหวยเป็นวิธีการหารายได้ของรัฐ แบบที่รัฐมีแต่ได้เงิน ไม่มีวันเสียเงิน

เพราะเอาเงินคนซื้อหวยทั้งหมดมารวมกัน แล้วแบ่งเป็นรายได้เข้ารัฐทันที 28% แบ่งให้กองสลาก 12% เป็นค่าจัดการ ที่เหลืออีก 60% จึงนำมาเป็นเงินรางวัลให้แก่คนเล่นหวย

เมื่อคนเล่นหวย ส่วนใหญ่เป็นคนมีรายได้น้อย เท่ากับว่า รัฐกำลังหารายได้จากผู้มีรายได้น้อยโดยตรง ยิ่งซ้ำเติมคนจน หากินบนความหวังของคนจน

ซ้ำเติมปัญหาช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน ตลอดจนปัญหาความยากจนและการกระจายรายได้


4)ระบบแบ่งปันรางวัลในการเล่นหวย ยังซ้ำเติมปัญหาการกระจุกตัวของรายได้อีกด้วย

เพราะแต่ละงวด คนที่ถูกรางวัลจะมีเพียงไม่กี่คน ในขณะที่ผู้สูญเสียเงินมีจำนวนหลายล้านคน

จึงเป็นการเอาเงินของคนจนจำนวนมาก มารวมเป็นก้อน แล้วมอบให้ผู้โชคดีที่ถูกรางวัลเพียงไม่กี่คน


มิหนำซ้ำ ยังมีการสร้างภาพลวง นำเสนอข่าวคราวของคนที่ถูกรางวัลที่มีอยู่เพียงไม่กี่ตนเป็นข่าวใหญ่โต ทำให้คนจนส่วนใหญ่ที่รู้ไม่ทันมายาภาพ ถูกลวงหลงไปว่า ตนเองจะต้องถูกรางวัลเช่นนั้นบ้าง ทั้งๆ ที่ ในความเป้นจริง คนที่ไม่ถูกรางวัลมีจำนวนมากกว่า แต่ไม่เป็นที่กล่าวถึง

5) การมีหวยไว้ให้ชาวบ้านแทง อาจเป็นการสร้างความหวังให้กับคนจน ก็เป็นเรื่องจิตวิทยาสังคมอย่างหนึ่ง เพื่อประโลมใจคนจนให้ได้มีลุ้นในโชคชะตาวาสนาเป็นระยะๆ

แต่การประโลมใจอย่างเสพติด สร้างวิมานในอากาศที่ยากจะเป็นจริง ไม่สอดคล้องกับหลักธรรม เป็นสิ่งที่รัฐไม่ควรหยิบฉวยมาใช้เป็นเครื่องมือมอมเมาประชาชน

6) หากรัฐบาลปัจจุบันต้องการจะยุติโครงการหวยออนไลน์จริงๆ ย่อมสามารถจะกระทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และชอบธรรมตามอำนาจหน้าที่ในการจะต้องรักษาไว้ซึ่งความดีงามและประโยชน์ส่วนรวมของสังคม

กรณีนี้ ไม่ใช่สัญญาร่วมการงานกับเอกชน แต่เป็นสัญญาจ้าง ในลักษณะที่เอกชนรับจ้างทำงานให้รัฐ

เมื่อเป็นสัญญาจ้าง หากมีเหตุที่รัฐพิจารณาว่าจะเลิกจ้าง ก็น่าจะกระทำได้ โดยอาจพิจารณาชดเชยค่าเสียหายแก่เอกชนตามสมควร

นอกจากนี้ ตามข้อมูลที่ปรากฏในหน้าสื่อมวลชน มีการเปิดเผยถึงสัญญาบางข้อ ระบุว่า มีการกำหนดเงื่อนไขให้รัฐบาลยกเลิกสัญญาได้ แม้ทั้งฝ่ายเอกชนและฝ่ายรัฐจะปฏิบัติตามสัญญาครบถ้วนก็ตาม ซึ่งเอกชนก็รับรู้ความเสี่ยงตรงนี้มาแต่ต้นอยู่แล้ว

ยิ่งกว่านั้น สัญญาบางข้อที่อาจตีความได้ว่า กรณีรัฐบาลมีนโยบายล้มเลิกโครงการหรือจำเป็นต้องล้มเลิกโครงการ ผู้ว่าจ้าง (สำนักงานสลาก) จะชดเชยการลงทุนบางส่วนให้แก่ผู้รับจ้างเป็นจำนวนเงินเท่ากับค่าจ้างบริการเฉลี่ยต่อ 1 เดือน นับแต่วันที่เริ่มจำหน่ายจริงถึงวันยกเลิกสัญญาไม่เกิน 12 เดือน โดยผู้รับจ้างไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าชดเชยอย่างใดอีก ซึ่งหมายความว่า หากในความเป็นจริงรัฐบาลยังไม่เคยมีการจำหน่ายสลากออนไลน์เลย รัฐบาลอาจไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้เอกชนเลยด้วยซ้ำ


อย่างไรก็ตาม เพื่อประโยชน์แห่งความเป็นธรรม หากพิจารณาว่า เอกชนได้ลงทุนไปแล้ว รัฐก็อาจพิจารณาชดเชยบ้าง โดยอาจพิจารณาชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ได้ลงทุนระบบเครือข่ายสื่อสาร ระบบควบคุม และบริหารข้อมูล รวมถึงติดตั้งเครื่องจำหน่ายสลากและอุปกรณ์ตามความเป็นจริงที่ได้มีการดำเนินการติดตั้งตู้จำหน่ายหวยออนไลน์ไปแล้ว 6,000 เครื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชนที่จะเข้ามาร่วมลงทุนกับรัฐบาล โดยที่มูลค่าความเสียหายกรณีนี้ ไม่น่าจะมีมูลค่าสูงเป็นจำนวนหมื่นล้านบาทตามที่บริษัทเรียกร้อง

ค่าเสียหาย และค่าดำเนินการทั้งหมดนี้ รัฐบาลไม่ควรจะไปนำมาจากเงินภาษีของประชาชน แต่ควรใช้จากเงินรายได้ค่าประกอบการของสำนักงานกองสลากฯ เอง
กำลังโหลดความคิดเห็น