ศูนย์ข่าวศรีราชา- หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน ยันภัยแล้งจังหวัดชลบุรีปี 53 ไร้ปัญหา กรมชลประทานวางแผนรองรับในระยะสั้น-ยาวนานถึง 20 ปี โดยใช้อ่างเก็บน้ำบางพระ เป็นศูนย์กลางการจ่ายน้ำ
นายบุญสม ยุติธรรมภิญโญ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานชลบุรี กรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในฤดูแล้ง ปี 2553 เริ่มตั้งแต่ (1 พฤศจิกายน2552-30 เมษายน 2553) ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน เพราะสภาพน้ำ ในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดเล็กในเขตจังหวัดชลบุรี มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ คือ รวมปริมาณน้ำทั้งสิ้น 113 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) หรือ 60% เมื่อเทียบกับปี 2552 มีปริมาณน้ำรวม 103 ล้านลบ.ม. ซึ่งในปีนี้มีมากกว่า 10 ล้านลบ.ม.ทำให้น้ำในฤดูแล้งของจังหวัดชลบุรี จึงอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่ขาดแคลนแต่อย่างใด
โครงการชลประทานจังหวัดชลบุรี มีการบริหารจัดการน้ำในอ่างฯโดยวางแผนการใช้น้ำ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน2552 มีปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างฯ รวมกันประมาณ 126.407 ล้านลบ.ม. และผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลมาเก็บไว้อีก 60 ล้านลบ.ม. รวมต้นทุนน้ำที่สามารถใช้การได้ จำนวน 186.407 ล้านลบ.ม.โดยวางแผนใช้น้ำด้านการอุปโภคบริโภค 130 ล้านลบ.ม. ด้านการเกษตร 17 ล้านลบ.ม.เพื่อการอุตสาหกรรม 36 ล้านลบ.ม.ใช้ในด้านการรักษาระบบนิเวศและอื่นๆประมาณ 3 ล้านลบ.ม.
นายบุญสม กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันน้ำในอ่างเก็บน้ำบางพระ เหลือปริมาณน้ำในอ่าง จำนวน 66.048 ล้านลบ.ม. โดยคาดว่าจากการจัดสรรน้ำในอ่างเก็บน้ำบางพระ จนถึงช่วงฤดูฝนที่จะมาถึงในช่วงประมาณเดือนสิงหาคม 2553 อ่างเก็บน้ำบางพระจะเหลือน้ำในอ่างประมาณ 49 ล้านลบ.ม.ซึ่งจะเป็นน้ำต้นทุนที่จะเหลือสะสมไว้ใช้ในปีต่อไป
นายบุญสมกล่าวว่า สำหรับแผนงานที่กรมชลประทานวางไว้ในอนาคต คือ การวางท่อผันน้ำอ่างเก็บน้ำมาบหวายโสม และอ่างเก็บน้ำห้วยไข่เน่า ที่ใช้พื้นที่บริเวณเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง รวมปริมาณทั้งสิ้น 9.5 ล้านลบ.ม. โดยโครงการจะเริ่มในปี 2554 ซึ่งหากแล้วเสร็จสามารถช่วยพื้นที่ด้านการเกษตรได้ประมาณ 3,000 กว่าไร่ และให้ปริมาณน้ำกับเมืองพัทยาอีก 6 ล้านลูกบาศก์เมตร
นอกจากนั้นยังมีโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง ที่เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วในขณะนี้ โดยโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังและขาดแคลนน้ำในด้านการเกษตร ในพื้นที่อำเภอพนัส เกาะจันทร์ พานทอง บ่อทอง และบ้านบึง
โครงการการวางท่อผันน้ำจากลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ซึ่งเป็นน้ำส่วนเกินที่ท่วมกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ในช่วงฤดูฝนทุกๆ ปี มากักเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำบางพระ ซึ่งถือว่าเป็นแก้มลิงในการกักเก็บน้ำดังกล่าว แต่กลับมาสร้างใช้ประโยชน์ในจังหวัดชลบุรี ที่ยังขาดแคลนน้ำ ซึ่งโครงการนี้จะเริ่มในปี 2553 นี้ โดยจะแล้วเสร็จในปี 2556 และถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก เพราะปัจจุบันปริมาณน้ำดังกล่าว ได้ไหลทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ในปริมาณ 400 ล้านลบ.ม./ปี แต่สามารถนำมากักเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำบางพระ ในปริมาณ 70 ล้านลบ.ม. ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในอนาคตได้ถึง 20 ปี
นายบุญสมกล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้นในแต่ละปี กรมชลประทานมีการพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำขนาดเล็กและฝายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ ซึ่งในแต่ละปี 2-3 แห่งก็เป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ยังขาดแคลนน้ำด้วย
ที่ผ่านมาอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี รอรับน้ำจากลุ่มน้ำเขาเขียว เพียงจุดเดียว และหากปีไหนมีฝนทิ้งช่วง หรือ ปริมาณน้ำฝนที่ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำฯเพียงเล็กน้อย ก็จะสร้างปัญหาและผลกระทบอย่างต่อเนื่อง แต่ในอนาคตได้รับน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา และจากลุ่มน้ำป่าสัก ปัญหาต่างๆ ก็จะหมดไปอย่างแน่นอน
